15 ธ.ค. 2020 เวลา 09:02 • ไลฟ์สไตล์
ดูอะไรอยู่วะ
จุ๊ๆ อย่าเอ็ดไป...
ถ้ามึงไม่หันมือถือมาให้พวกกูดู แฟนมึง...
ห่านี่ ก็ได้วะ เอ้า
อ้าว ของเล่นTransformersนี่หว่า
ก็ใช่น่ะสิ พวกมึงคิดว่ากูดูอะไรอยู่เหรอวะ 555
งวดก่อนกูเปิดดูรายการดีเบต เห็นเขาเถียงเอาตายเรื่องเสื้อผ้าหน้าผม ไหงเรื่องแบบนี้แม่งเกิดสำคัญขึ้นมาได้วะ กูงง
อ้าว มันเป็นรูปธรรมที่จับต้องได้นี่หว่า เรื่องอื่นมันเป็นนามธรรมปรัชญาองคาพยพที่เปลี่ยนแปลงได้แต่ไม่ชัดเจน จับต้องไม่ได้
cr. google.com
อ้อ มึงกำลังจะพูดว่า เรื่องภายนอกที่มองเห็นเปลี่ยนง่ายและเห็นผลเร็วชัดเจนประจักษ์สายตาแม่นบ่
แม่น
ส่วนไอ้เรื่องเกี่ยวกับการศึกษาทั้งระบบนี่แม่งเปลี่ยนยากโคตร มองก็ไม่เห็น ที่เห็นก็ไม่ชัด เกาไม่ถูกที่คัน
แม่น มึงเป็นคนเข้าใจอะไรได้ง่ายฝุดๆ
กำเสี่ยหลายๆ
ข้าน้อยขอคารวะ
อย่างที่พวกเรานั่งคุยคราวก่อน แต่งตัวอะไรทรงผมอะไรเนี่ยมันก็ผ่อนสั้นยาวอย่าหักหาญน้ำใจกันให้มากนัก วัยรุ่นก็ขบถไปตามวัยตามวิถีว่ะ
จริง โดยเฉพาะเรื่องกร้อนผม กูไม่เห็นด้วย แต่ถ้าเตือนก็แล้วอะไรก็แล้วหลายหนก็คงต้องขอคุยหาข้อตกลงคนละหน่อย
แต่กูว่าที่สำคัญที่สุดคือเรื่องการเรียนว่ะ ไม่ใช่ กูไม่ได้บอกว่าให้เป็นเด็กเนิร์ดกันหมด คนเรามันไม่เหมือนกันจะให้หันซ้ายขวาเหมือนกันหมดก็คงไม่ใช่
cr. google.com
Human is unique, right?
I'm not perfect but limited edition.
เจ้าคารมคมมาเชียวพวกมึงวันนี้
อ๊ะๆ ไม่ได้สิ ลับมีดมาเยอะ
โอเคๆ กูเห็นด้วยกับเรื่องนี้ กูไม่ได้หวังให้ทุกคนเรียนเก่ง กูแค่หวังให้ทุกคนไม่ทิ้งการเรียนมากกว่า กูมีความคิดว่าเวลาจบมาแล้วไปหางานทำ นายจ้างเขาจะรู้อะไรล่ะ เขาก็ต้องพิจารณาจากผลการเรียนก่อนเพื่อนสิ เขาไม่ได้อยู่รู้จักกับคนที่มาสมัครงานนี่หว่าจะได้รู้ตื้นลึกหนาบางของทุกคน เขาก็ต้องมีตัวพิจารณาเหมือนกัน แล้วบังเอิญมันก็อยู่ในทรานสคริปต์ของพวกเรา อ้อ รวมทั้งกิจกรรมที่พวกเราเคยทำมาด้วยประกอบกัน แล้วก็ดูหน้าตาการแต่งตัวประกอบกันไป
จริง กูคิดเหมือนกันว่าเรื่องผลการเรียนมันเป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบต่อตัวเอง ส่วนกิจกรรมหรืออะไรที่ทำนอกเหนือการเรียนเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อคนอื่นว่ะ
อันนี้กูเห็นด้วย และขอเสริมว่าเราควรแต่งตัวให้เกียรติสถานที่ทำงานด้วยถึงมันจะเป็นแค่ออฟฟิศรูหนูไม่ใช่ที่หรูๆก็ตามที ยิ่งต้องไปเจอลูกค้านี่ ขอเถอะ เรียบร้อยไว้ก่อน
พูดเรื่องเรียนก็ดีว่ะ กูน่ะอยากให้ระบบมันดูง่ายกว่านี้หน่อย เดี๋ยวนี้อ่านก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่ ระบบแม่งก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนสงสัยว่าตกลงคุณท่านทั้งหลายจะเอาอะไรกับพวกนักเรียน ตกลงว่าจะเอาแบบเดิมหรือเติมอะไรเข้าไปบ้าง นักเรียนที่ต้องเจอยังอ่านแล้วไม่เข้าใจ นับประสาอะไรกับพ่อแม่นักเรียนวะ
กังหันต้องลมหมุนวน ไม่รู้กี่หนต่อวัน...
เพลงรุ่นเตี่ยกูมาเชียวมึง
อ้าว ให้เข้ากับสถานการณ์ไง
cr. The Matter
ก็เอาเหอะ ยังไงกูก็ว่าระบบแพ้คัดออกของรุ่นเราก็ไม่เลวเหมือนกัน วัดดวงกันง่ายๆ เข้าใจกันทั่ว ทั้งชีวิตมีสิทธิ์ไม่กี่ครั้ง ตั้งใจสุดๆแล้วเดินเข้าไปสอบ ได้ไม่ได้ก็แล้วแต่ต้องทำใจยอมรับ
กูว่ามันง่ายแต่บางทีมันก็น่าเห็นใจบางคนเหมือนกันที่สอบไม่ติดเพราะเหตุจำเป็นอื่นๆร้อยแปด การที่เขาทอนให้คนออกมาเป็นรอบๆ ได้สิทธิ์ตรงโน้นแล้วสละสิทธิ์ตรงนี้นะหรือถ้าไม่พอใจก็ลองรอบต่อไปดูมั้ย ตัวเลือกมันก็เยอะดี
เยอะเกิน รุงรังว่ะ รักพี่เสียดายน้อง
นั่นสิ ไม่รู้จะเลือกที่ไหนดี
อีกอย่าง คนเดี๋ยวนี้แข่งกันตั้งแต่ในท้องยันคลอด แล้วก็แข่งต่ออนุบาลยันจบ ยังไม่พอ ทำงานก็แข่งกันต่อจนตายกันไปข้างนึง ระบบการศึกษาเรามันดูทะแม่งๆเอาการ จะแข่งอะไรกันนักหนา
แต่ถ้ามึงปล่อยชิลๆตามสบายไร้ขอบเขต มึงก็อาจจะไม่ได้อะไรเลยสักอย่าง ไปแข่งกับคนอื่นๆนอกประเทศก็ไม่ไหวนะเว้ย
เถียงไปเถียงมามันไม่จบง่ายๆหรอก ปัญญาหางอึ่งอย่างพวกเรายังเถียงกันขนาดนี้ แล้วระดับนักปราชญ์ราชบัณฑิตกับเหล่ามหาบัณฑิตจะเถียงกันขนาดไหน
แต่ที่แน่ๆ เด็กๆคงต้องทนดิ้นรนต่อไปว่ะ
วันก่อนกูคุยกับไอ้อาจารย์เพื่อนเราตอนม.ปลาย ตอนนี้เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย มันก็บ่นเหมือนกันว่าเดี๋ยวนี้คุณภาพเด็กก็ด้อยไปมาก คนเกิดน้อย ที่นั่งว่างมากขึ้น ใครสอบได้ก็เอาหมด สอบได้แต่เรียนไม่ไหว คะแนนรวมเกือบเกียรตินิยมแต่ดันจะติดFวิชาเมเจอร์ แก้แทบตาย เข็นกันแทบแย่ เด็กก็ไม่ค่อยสนใจด้วยซ้ำ
งานนี้กูเห็นใจทั้งหมด ระบบมันต้องถูกแก้ แต่ตอนนี้ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ผลกระทบก็เยอะไม่ว่าจะเข้าข้างใคร แตะลงไปก็แผลฝีหนองทั้งนั้น พ่อแม่ก็ว่าครู ครูก็ลงนักเรียน นักเรียนก็วนกลับไปหาครู ครูก็รายงานพ่อแม่ พ่อแม่ก็วนไปหาลูก ยุ่งเป็นลิงแก้แห
cr. waymagazine.org
กูว่าบางทีเราอาจไม่ต้องการระบบอะไรมากหรอก รื้อทิ้งแม่งให้เรียบแล้ววางใหม่ตั้งแต่อนุบาลประมาณว่าเด็กที่เกิดพ.ศ.นี้จะใช้แบบนี้นะ อะไรทำนองนี้
หรือไม่งั้นกูว่าจะระบบอะไรก็ตามก็ทำตามมันไป แต่ว่านักเรียนควรจะพลิกแพลงกันไปเอง เดี๋ยวนี้การสอบเข้าถ้าไม่ใช่ชั้นอนุบาลจนม.ปลายที่ต้องเป็นไปตามระบบแบบบิดพริ้วไม่ได้ คนที่จะสอบระดับมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้ถือว่าต้องเป็นมหาวิทยาลัยปิดของรัฐอย่างเดียว เอกชนก็มี บางคนไม่จบยังทำงานหาเงินได้ก็เยอะ
อันนี้จริง กูเห็นด้วย แต่ก็นั่นล่ะ แม่งจะเจอม้ามีเขากันกี่ตัววะ มันตอบยาก เออ กูมีลูกค้าคนนึงเล่าเรื่องลูกให้ฟัง ลูกเข้าเรียนม.เอกชนชื่อดี เรียนเก่งมาก จบมาเกียรตินิยมอันดับ1เกรดAล้วนไม่มีเจือปน พอไปทำงาน ทำได้ไม่กี่วันก็ออก เปลี่ยนงานไปหลายที่
อ้าว ทำไมวะ
เขาก็ว่าลูกเขาเก่งมากจนคนอื่นตามไม่ทัน ลูกเขาเลยเบื่อที่จะทำงานกับคนอื่น แต่เท่าที่กูเคยคุยดูคิดว่ามันทำงานร่วมกับคนอื่นไม่ได้มากกว่า เก่งเกิน แถมอีโก้จัด ลูกค้ากูเล่าต่อว่าทำงานแล้วไม่ได้เงินเดือนลูกเขาเลยออก หลังๆได้ยินเขาหลุดปากออกมาเองว่าก็ทำงานแค่ไม่กี่วันเองนี่ ใครเขาจะให้เงินล่ะ แถมยังไปทะเลาะกับคนในบริษัทไปทั่ว บริษัทก็ตะเพิดเข้าให้สิ ทุกวันนี้เป็นเลขาส่วนตัวขับรถให้ลูกค้ากูนั่ง เขาน่ะชิลๆเพราะมีตังค์ กูแค่สงสัยว่าถ้าลูกค้าคนนี้ไม่อยู่แล้ว ลูกเขาจะสานงานต่อไหวมั้ย กูเห็นหน่วยก้านแล้วส่ายหัวว่ะ แต่ไม่แน่ ตอนนี้อาจจะเปลี่ยนดีขึ้นก็ได้
ว่ากันมาตั้งนาน สรุปว่าได้อะไรมั่งวะ
ไม่มีอะไรในกอไผ่ โบ๋เบ๋ เคว้งคว้าง
เรื่องนี้มันน่าเศร้าที่ไม่รู้ว่าจะจัดการยังไงให้ถูกจุด
งั้นก็ต้องทนกับระบบต่อไปสิ
ว่าง่ายๆ ใช่
กูยังไม่เห็นด้วย
นั่นมันมึง มึงไม่ใช่ตัวแทนของทั้งหมด มึงแค่Sample Size
เออ เข้าใจ
งั้นคงต้องประท้วงต่อ
เรื่องระบบนะ ไม่ใช่เสื้อผ้าหน้าผม
แล้วมึงว่าไง
กูไม่ว่าไง wait and see only ตอนนี้มุ่งแต่หุ่นTransformersอย่างเดียว
เออ พวกกูไม่บอกแฟนมึงหรอก
ดี หมู่นี้กูหาซื้อพวกนี้มาเล่นพอเป็นกระษัย แฟนกูบอกเอามาเลี้ยงบุปเฟ่ต์เขาดีกว่า
จริงของแฟนมึง
แม่ง กูก็อยากได้นี่หว่า 555
เออ ขี้เกียจยุ่งด้วย มาว่ากันคนละจอกดีกว่าสหาย
เอ้า พวกเรา Cheers!

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา