Emily in Paris ถือเป็นซีรี่ย์ที่ได้รับความนิยมจากฝั่งไทยและต่างประเทศเป็นอย่างมาก ซีรี่ย์เรื่องนี้ติด TOP 10 ที่มีผู้ชมมากที่สุดของ Netflix ประเทศไทย และเป็น 1 ใน 10 ของซีรี่ย์ที่มีสตรีมมากที่สุดในอเมริกาในการเข้าฉายสัปดาห์แรก
ซีรี่ย์เรื่องนี้ได้เลือกใช้สถานที่สำคัญของปารีสและผูกโยงกับการใช้ชีวิตของเอมิลี่ไล่ตั้งแต่ Place de Valois ที่นางเอกเดินผ่านประจำ และแวะไปซื้อครัวซองค์กับป้าหน้าบึ้งๆ ซึ่งที่นี่เป็นสถานที่สำคัญในการจัดแสดงศิลปะและการตกแต่งต่างๆ หรือ Rue de l’Abreuvior ซึ่งเอมิลี่ใช้ทำมาเก็ตติ้งและถ่ายรูปกับเพื่อนสาว ถือเป็นย่านสำคัญที่มีตึกสีชมพูโดดเด่นแบบสุดๆ หรือจะเป็น Palais Garnier ที่เอมิลี่ไปเที่ยวกับหนุ่มฝรั่งเศส (ส่วนจะเที่ยวจบอย่างไรไม่ขอเล่า) ก็เป็นโรงละครโอเปร่าที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่น
หรือในฉากที่ผมชอบที่สุดคืองานเปิดตัวน้ำหอมที่เอมลี่ไปเข้าร่วม ณ Le Café’ de L’Homme ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของหอไอเฟลได้อย่างไม่มีอะไรมาบังตา ( ขอขอบคุณเวบไซต์แพรว และ HELLO สำหรับข้อมูลสถานที่ )
ในบทความ The Art of Rent: Globalization, Monopoly and the Commodification of Culture (ปี 2009) โดย เดวิด ฮาร์วี่ย์ นักคิดมาร์กซิสต์ชื่อดัง ได้ให้มุมมองว่าการเกิดขึ้นของเมืองที่มีวัฒนธรรมโดดเด่น ไม่ใช่เรื่องของการประกอบสร้างจากสุนทรียะอย่างเดียวหากแต่เกี่ยวพันกับกระบวนการของ “ทุน”
เพื่อให้พื้นที่นั้นเกิดลักษณะทางวัฒนธรรมที่โดดเด่น โดยกระบวนการสั่งสมทุนทางวัฒนธรรมนี้เกิดขึ้นพร้อมกับความเป็นเมืองและการพัฒนาพื้นที่ต่างๆของเมืองให้เกิดเป็น cultural localities ยังผลให้เกิดการดึงดูดผู้คนและทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจตามมา