8 ม.ค. 2021 เวลา 05:00 • อาหาร
#5 The Brain Club : FOOD
" บัง " มิลค์เชคกัญชาจากอินเดีย
ใครชอบมิลค์เชคบ้างครับ ? ผมเชื่อว่าคุณผู้อ่านหลายคนต้องเคยลิ้มลองกันมาบ้างเพราะไม่ว่าอากาศบ้านเราจะแปรปรวนมากขนาดไหน แต่ถ้าได้กินอะไรเย็นๆ หวานๆ ละมุนลิ้นแล้ว ยังไงมันก็ฟินไปทั้งกายและหัวใจ จึงไม่แปลกที่มันจะกลายเป็นเมนูสุดโปรดในดวงใจของใครหลายคน
ในบทความนี้ผมขอให้ทุกคนลืมมิลค์เชคแบบที่คุ้นเคยไปก่อน เพราะในประเทศ " อินเดีย " ดินแดนภารตะศูนย์รวมวัฒนธรรมเรื่องแปลก ผมจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับเมนูสุดแนวที่ชื่อว่า " บัง ( Bhang ) ” ของว่างแสนอร่อยที่ชาวสายเขียวต้องกดเลิฟ
หากพูดถึงอินเดียก็ต้องนึกถึงกัญชาเป็นอันดับแรกๆ เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตและประเพณีของชาวฮินดูโบราณในชมพูทวีปมาอย่างช้านาน พวกเขามีความเชื่อว่าการเสพกัญชาคือหนึ่งในวิธีบูชาพระศิวะ จนต้องยกให้กัญชาเป็น 1 ใน 5 พืชศักดิ์สิทธิ์
นอกจากความเชื่อก็ยังมีการนำมาปรับใช้ทางการแพทย์ จากบันทึกประวัติศาสตร์ชาวอินเดียมักใช้กัญชาสำหรับช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บ โรคบิด ล้างเสมหะช่วยในการย่อยอาหาร
ดังนั้นกัญชาในสายตาของคนอินเดียจึงได้รับเกียรติสูงสุดในฐานะ " ราชาสมุนไพร " ที่มีสรรพคุณรอบด้าน ใช้สูบใช้ทานในหลอดเดียวกัน และเพื่อเสริมความอร่อยให้สามารถทานง่ายเหมาะกับผู้คนในวงกว้างมากขึ้น จึงได้มีการคิดค้นเมนูกัญชาสูตรเฉพาะยอดฮิตที่วางขายเกือบทั่วประเทศเหมือนกับขายน้ำเปล่า
มิลค์เชคที่มีส่วนผสมของกัญชาจะมีชื่อว่า " บังลาสสี (Bhang Lassi) " มีขั้นตอนการทำดูเหมือนจะไม่ยากมากนัก เพียงใช้ครกและสากบดตาใบและดอกกัญชาให้ละเอียด จากนั้นนำไปผสมกับนมสด ปรุงแต่งรสด้วยหญ้าคุชา น้ำตาล ผลไม้ และเครื่องเทศต่างๆ ตามสูตรความอร่อยเฉพาะตัวของแต่ละเจ้า
ก่อนจะได้ออกมาเป็นมิลค์เชคกัญชาเย็นๆ พร้อมวางขายให้หาซื้อมาทานดับร้อนกันแบบสบายอารมณ์
แต่นอกจากมิลค์เชคยังมีอีกเมนูที่ดัดแปลงให้กลายเป็นก้อนกลมๆ เรียกว่า " บังโกลิ (Bhang Goli) " ซึ่งเป็นการนำกัญชาสดมาผสมน้ำ จากนั้นปรุงรสคล้ายกับบังลาสสี ก่อนจะนำไปปั้นเป็นก้อนกลมๆ ขนาดพอดีคำเหมือนขนมไทยบ้านเรา
บังโกลิถือเป็นอาหารทานเล่นที่จะออกฤทธิ์หลังกลืนลงท้องไปแล้วประมาณ 2 ชั่วโมง ทำให้รู้สึกเหมือนเข้าสู่สภาวะฝันเคลิ้มช้าๆ จึงอาจเป็นยานอนหลับชั้นดีสำหรับบางคน
แต่นอกจากสรรพคุณด้านความเคลิ้มแล้ว บังยังได้รับการจัดหมวดหมู่ให้เป็นยารักษาสุขภาพแผนชาวบ้าน ช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียน อาการกระตุกของกล้ามเนื้อ อาการชัก และยังช่วยบรรเทาอาการปวดได้อีกด้วย
แน่นอนว่ามันต้องมีผลเสียถ้าหากเสพติดมากเกินพอดี ประการแรกคือบรรดาเด็กๆ และวัยรุ่นควรหลีกเลี่ยงการกิน โดยเฉพาะถ้าหากเสพติดการทานมาตั้งแต่วัยละอ่อน ด้วยฤทธิ์ทางเคมีที่ผมจะไม่ขอกล่าวถึงในเนื้อหานี้ ( เนื่องจากค่อนข้างยาว ) อาจส่งผลต่อพัฒนาการทางด้านสมองได้
ประเด็นที่สองคือเหล่าคุณแม่มือใหม่ที่กำลังอุ้มทอง หรืออยู่ในช่วงให้นมลูกน้อยก็ไม่ควรทานเหมือนกัน เพราะอาจเกิดสภาวะคลอดก่อนกำหนด ทำให้เด็กแรกเกิดมีน้ำหนักต่ำกว่ามาตรฐาน ซึ่งมันจะกระทบสืบต่อเป็นโดมิโนในแง่ของพัฒนาการด้านสมอง
● กินกันเปิดเผยขนาดนี้ไม่ผิดกฏหมายเหรอ ?
ในอนุสัญญาปี 1961 อันว่าด้วยเรื่องยาเสพติดระหว่างประเทศฉบับที่ 1 กำหนดห้ามมิให้มีการผลิตและการจัดหากัญชา ยกเว้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการรักษาโรคและการวิจัยเท่านั้น
แต่ถึงแม้กัญชาจะยังผิดกฏหมายในอินเดีย แต่เนื่องจากความผูกพันด้านวัฒนธรรมทางจิตวิญญาณของคนอินเดีย มันจึงได้รับการยอมรับจากสังคมวงกว้าง และในบางรัฐกัญชาก็กลายเป็นของถูกกฏหมายในปัจจุบัน
1
หากให้พูดกันตามตรง บรรดาผู้คุมกฏหมายเรื่องกัญชาในอินเดียก็ไม่ได้เคร่งครัดในการจับกุมให้เป็นสาระสำคัญมากนัก แต่การปลูกกัญชาต้องอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของรัฐบาล
หลายรัฐในอินเดียจึงมีร้านขายกัญชาอย่างถูกกฏหมายที่ผ่านการอนุมัติจากรัฐบาล เช่น รัฐหิมาจัลประเทศ อุตรขัณฑ์ ราชสถาน เบงกอลตะวันตกและอื่นๆ
แต่บางรัฐก็ยังไม่อนุญาตให้ขายแต่อนุญาตให้ซื้อจากรัฐอื่นๆ ที่ถูกกฎหมายได้ มันจึงกลายเป็นเรื่องเทาๆ ที่ไม่ถือเป็นเรื่องผิดกฏหมายมากนักในอินเดีย
สรุปคือบังทั้งสองชนิดสามารถหาซื้อมาทานได้ทั่วไปตามร้านค้าริมถนน และร้านขายยาในรัฐที่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐบาลโดยตรงเท่านั้น
ถือเป็นอีกเมนูที่แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมการใช้ชีวิตของชาวอินเดียที่ผูกพันกับกัญชา ถ้ามองรูปเฉยๆ สีสันน่ากินมีความคล้ายกับชาเขียวเหมือนกันนะครับ ถ้าไม่สืบข้อมูลต่อก็อาจดูไม่ออกเลย 😛
สุดท้ายนี้ขอฝากติดตามบทความของสโมสรสมองทุกหมวดด้วยนะครับ เพจเราสาระความรู้จัดเต็มตลอด แล้วมาพบกันใหม่ในบทความหมวดอาหารรอบโลก จะเป็นเรื่องราวของเมนูเด็ดอะไร ฝากทุกท่านติดตามอ่านกันด้วยนะครับ Good Bye 💚

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา