19 ธ.ค. 2020 เวลา 07:01 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
ข้อคิดจากหนัง : Wonder Woman 1984 “การปรับตัวให้เข้ากับความเป็นจริง”
เมื่อเรารู้วิธีอยู่กับความเป็นจริงของชีวิต เราจะเป็นอิสระจากสิ่งที่ครั้งหนึ่งเราเคยไม่ยอมรับ อยู่ร่วมกับความเปลี่ยนแปลง ความพ่ายแพ้ และความสูญเสีย “อยู่กับความจริงด้วยใจที่มั่นคง”
Wonder Woman 1984 (2020)
เล่าเรื่องราวชีวิตของ “ไดอาน่า ปริ๊นซ์” หลังจากเหตุการณ์ในภาคแรก 66 ปี
ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ไดอาน่า ปรับตัวเข้ากับยุคสมัยใหม่ได้อย่างกลมกลืนแล้ว
และเธอยังคงออกช่วยเหลือผู้คนด้วยพลังพิเศษของเธอเสมอ
แต่แล้วภัยร้ายกลับก่อตัวขึ้นอย่างเงียบ ๆ
เมื่อมนุษย์ยุคใหม่มีจุดอ่อนและจุดเปราะบางในใจ
นั่นคือ “ความปรารถนา...ที่อยากได้ไม่สิ้นสุด”
ศัตรูตัวฉกาจคนใหม่จึงหมายเอาจุดเปราะบางนี้มาเล่นงาน
ไดอาน่า ปริ๊นซ์ จะรับมือกับศึกครั้งนี้อย่างไร
และเธอจะกล้าเผชิญกับความเปราะบางในใจตนเองแค่ไหน
“นี่คือเรื่องราวที่เราจะได้รับชม”
จุดสำคัญที่ผมประทับใจในภาพยนตร์เรื่องนี้
เริ่มตั้งแต่ฉากเปิดเรื่องเลยครับ
ย้อนเหตุการณ์ตั้งแต่ไดอาน่ายังเป็นเด็กน้อย
เธอได้เข้าร่วมการแข่งขันอย่างหนึ่งของบ้านเกิด
ร่วมกับพี่น้องร่วมเผ่าพันธุ์
ที่แต่ละคนล้วนโตเป็นสาวกันหมด
มีเพียงไดอาน่าที่ยังอยู่ในวัยเด็ก
“ต้องฝ่าอุปสรรค...ยิงธนูเก็บแต้ม...ปาหอกให้เข้าเป้าเป็นคนแรกเพื่อชัยชนะ”
ซึ่งเต็มไปด้วยด่านสุดหิน
ที่ท้าทายขีดกำกัดทางร่างกาย
ทั้งพละกำลัง การเคลื่อนไหว การขี่ม้า และความแม่นยำ
เมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้น
ไดอาน่าสร้างความประหลาดใจให้กับทุกคน
เมื่อเธอขึ้นนำแซงรุ่นพี่ทุกคน เรียกว่านำโด่งไปเลย
แต่ด้วยความเป็นเด็ก ที่ยังขาดความรอบคอบ
ทำให้เธอมัวแต่สนุกกับการหันไปมองคนที่ตามหลังเธอ
“ดีใจเกินไป...จนประมาท”
พอหันมาอีกทีเธอก็ชนเข้ากับต้นไม้จนร่วงตกม้า
ทำให้โดนคนอื่นแซง
และเสียโอกาสในการเก็บแต้มไปหนึ่งจุด
แต่เธอก็พบทางลัดซึ่งทำให้กลับมาขึ้นนำได้อีกครั้ง
จนมาถึงด่านสุดท้าย
“การพุ่งหอกให้เข้าเป้า” เพื่อเป็นผู้ชนะ
ในขณะที่เธอกำลังจะขว้างหอกออกจากมือเพื่อคว้าชัยชนะ
“เกือบจะชนะอยู่แล้ว!!!”
เธอก็ถูกคว้าตัวเอาไว้ พร้อมได้รับบทเรียนสำคัญว่า
“เธอขี้โกง...เธอใช้ทางลัด”
“ชัยชนะที่มาพร้อมกับการหลอกลวง”
“เหตุที่เธอปราชัย...ก็เพราะเธอยังไม่พร้อมที่จะชนะ”
เล่นเอาไดอาน่าผิดหวังอย่างแรง
และงอแงตามประสาเด็กน้อย
ผมชอบฉากนี้มากครับ
(จนแอบรู้สึกว่า นี่คือฉากที่โคตรดีที่สุดของหนังเรื่องนี้เลย 555)
ส่วนเรื่องราวอื่น ๆ ก็ได้ชวนให้เรากลับมาถามตัวเองว่า
“เราหนีความจริงอยู่หรือไม่...เราหลอกตัวเองอยู่หรือไม่”
ซึ่งคำถามเหล่านี้ในวิชาชีพนักจิตฯอย่างผม
เป็นจุดสำคัญในการพาผู้รับบริการกลับมาเผชิญความจริงครับ
เพื่อเติบโตขึ้นจากบาดแผล และเป็นอิสระจากอดีตที่คอยฉุดรั้งครับ ^^
ข้อคิดจากหนัง
“เมื่อเรารู้วิธีอยู่กับความเป็นจริงของชีวิต...เราจะเป็นอิสระจากสิ่งที่ครั้งหนึ่งเราเคยไม่ยอมรับ”
ตัวละครสำคัญในเรื่อง
ไม่ว่าจะเป็นตัวของไดอาน่า
หรือว่าจะเป็นตัวร้าย
“ล้วนมีเงื่อนปมในใจ...ที่ตนเองยังไม่กล้าเผชิญ”
ไม่ว่าจะเป็นความสูญเสีย
ความพ่ายแพ้
ความล้มเหลว
หรือแม้กระทั่งความตาย
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความจริงอย่างหนึ่งของชีวิต
ที่ไม่มีใครสามารถหนีพ้นไปได้
“เป็นความจริงของชีวิต”
หากเราต้อนรับความจริงของชีวิตด้วยการหนี
หากเราต้อนรับฤดูกาลใหม่ของชีวิตด้วยการปฏิเสธ
ผลที่ตามมาย่อมเป็นความกดดัน ไม่พอใจ ผิดหวัง เบื่อหน่าย เศร้าซึม
ปรากฏการณ์ทางใจที่เต็มไปด้วยความปั่นป่วนเหล่านี้
ล้วนแสดงให้เราได้เห็นว่า
“ความจริงไม่ใช่ปัญหา...แต่ปัญหามาจากการไม่ยอมรับความจริง”
เช่น
-ความตายเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัว แต่เราไม่อยากให้เค้าตาย
-ความพลัดพรากจากคนรัก แต่เราไม่อยากจากลา
-ความผิดพลาดจากการงาน แต่เราไม่อยากล้มเหลว
“คำว่า...ไม่อยาก”
จึงเป็นตัวแทนของการหลบหนีและปฏิเสธความจริง
“ความจริง เกิดขึ้น เมื่อปัจจัยทุกอย่างพอเหมาะ”
ความจริงจึงไม่เคยสนใจว่า เราพร้อมจะรับเพียงใด
และไม่สนใจว่า เราเตรียมตัวมาดีแค่ไหน
“เกิด เมื่อเกิด... เจอ เมื่อเจอ...จาก เมื่อจาก”
ความจริงจึงเป็นสิ่งที่ชัดเจนและซื่อตรงอย่างยิ่ง
หน้าที่ของเราจึงไม่ใช่การต่อต้าน
“แต่เป็นการรู้จักต้อนรับ เปิดใจ และหาทางปรับตัวให้เข้ากับความจริง”
โฆษณา