โกโก้ หมายถึงผลผลิตที่ได้มาจากการแปรรูปของเมล็ดโกโก้ โดยต้นโกโก้นั้นนิยมปลูกในหลายๆ ประเทศเขตร้อน ซึ่งประเทศไทยเองก็มีการปลูกโกโก้อย่างแพร่หลายโดยเฉพาะทางภาคใต้ ส่วน ช็อกโกแลต ทำมาจากเมล็ดของต้นโกโก้ และนำไปผสมกับส่วนผสมที่ทำให้คนทั่วโลกติดหนึบหนับ เช่น น้ำตาลเอย ครีมเอย นมเอย ไขมะพร้าวเทียม หรือ ไขมันนม และสารปรุงแต่งนานาชนิด
ดังนั้นการทานโกโก้เพื่อให้ได้คุณประโยชน์มากที่สุดก็คือการทานโกโก้หรือช็อกโกแลตที่มีส่วนผสมของน้ำตาล ครีม ไขมัน หรือส่วนผสมที่ทำให้อร่อยต่างๆ น้อยที่สุดหรือไม่มีเลย
โดยคุณประโยชน์หลายหลากของโกโก้มีดังนี้
1. ด้านความสุข
สารอาหารในโกโก้ช่วยให้สมองและทางเดินอาหารหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุข อย่าง สารเอ็นโดรฟิน และ เซโรโทนิน อีกทั้งมีสาร ฟินิลเลธิลามีน (phenylethylamine) ที่ช่วยคลายระบบประสาทและผ่อนคลายความเครียด
2. ลดน้ำหนัก
ในโกโก้มีสารธีโอโบรมีน (theobromine) ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันส่วนเกิน ลดการสะสมไขมัน มีสารที่ช่วยในการดูดซึมอาหารและระบบย่อยอีกด้วย
3. ต้านอนุมูลอิสระและถนอมหลอดเลือด
สาร ฟลาโวนอยด์ (flavonoids) และ ฟลาวานอล (flavanol) ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระไม่ให้ทำร้ายผนังหลอดเลือด ลดการอักเสบในหลอดเลือด หลอดเลือดไหลเวียนดีขึ้นเพราะหลอดเลือดขยาย ป้องกันเกร็ดเลือดไม่ให้จับตัวเป็นตะกอนแล้วไปอุดตันเส้นเลือด ส่งผลให้ลดความดันโลหิต ลดอัตราเสี่ยงเส้นเลือดสมองแตก ก็จะลดอัตราเสี่ยงอัมพฤกษ์ไปด้วย
4. ดีต่อใจ
สาร ฟลาวานอล (flavanol) ที่ช่วยให้หลอดเลือดขยายตัวข้างต้น ทำให้ลดความเสี่ยงต่อการเกิดเส้นเลือดอุดตัน ส่งผลให้ลดอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ อีกทั้งยังเป็นการช่วยถนอมกล้ามเนื้อหัวใจด้วย
สารเหล่านี้จะมีมากในโกโก้เข้มข้น หรือช็อกโกแลตแท้ ที่ต้องเน้นย้ำว่าต้องเป็นช็อกโกแลตหรือโกโก้ที่ไม่ผสมส่วนผสมที่ทำให้อร่อยต่างๆ ไปก่อนหน้าเท่านั้นนะ ถ้าคุณผู้อ่านอยากจะได้รับสารอาหารที่มีคุณประโยชน์แทนสิ่งที่จะก่อให้เกิดโทษจากการทานโกโก้หรือช็อกโกแลต
นอกจากนี้ เจ้าโกโก้จะถูกอัพเลเวลขึ้นทันทีเมื่อคุณผู้อ่านทุกๆ ท่าน รับประทานพวกมันอย่าง ‘ร้อน’
ใช่ครับ...
โกโก้ร้อน
ในปี 2558 ศาสตราจารย์ ชาง ยง ลี (Chang Yong Lee) และคณะจากมหาวิทยาลัยคอร์แนล ในนิวยอร์ก พบว่าโกโก้หนึ่งแก้วนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าไวน์แดง ชาเขียว และชาดำ ที่ว่าแน่ๆ ซะอีก โดยโกโก้หนึ่งแก้วมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่า ไวน์แดงในปริมาณเท่ากันถึง 2 เท่า มากกว่าชาเขียวถึง 3 เท่า และมากกว่าชาดำถึง 5 เท่า (มนตรี รัตนพงษ์, 2559)
มีสารต้านอนุมูลอิสระ (gallic acid) และช่วยลดการอักเสบ มากกว่าไวน์แดงเกือบสองเท่าและมากกว่าชาเกือบสี่เท่า
มีสารต้านอนุมูลอิสระ (epicatechin) และช่วยลดการอักเสบ มากกว่าไวน์แดง 3.5 เท่าและมากกว่าชาเขียว 12 เท่า
โกโก้เขตร้อนเข้มข้นไม่ได้จะเพิ่งมาดังนะครับ แต่เขาดังมาเกือบจะพันปีแล้ว สมยานามของเขามีตั้งแต่ “Food of the Gods” หรืออาหารของเทพเจ้า อีกทั้งยังถูกแต่งตั้งให้เป็น “Super fruit” หรือสุดยอดผลไม้ และ “Super food” สุดยอดอาหาร ที่อัดแน่นไปด้วยคุณค่าทางอาหารและสารสำคัญต่างๆ มากมายที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ
ผมขอเน้นย้ำอีกครั้งนึงนะครับว่า โกโก้หรือช็อกโกแลตใดก็ตามที่คุณผู้อ่านเล็งไว้ว่าจะไปหามาทาน โกโก้หรือช็อกโกแลตนั้นจะต้องไม่ผสมสิ่งที่ทำให้หวาน มัน จนเกินไปนะครับ ถ้าเป็นช็อกโกแลตไปหาช็อกโกแลตที่มีความเข้มข้นของผงโกโก้อยู่ที่ 99% 85% หรือลดหลั่นกันไปตามแต่ที่จะรับกันไหว วิธีทานช็อกโกแลตเปอร์เซ็นต่างๆ ง่ายๆ ก็คือ ยิ่งเปอร์เซ็นสูง รสขมมาก ก็ยิ่งมีคุณประโยชน์สูง เมื่อใดที่เปอร์เซ็นเริ่มต่ำลง รสชาติอร่อยมากขึ้น คุณประโยชน์ก็จะน้อยลงตามไปด้วย คำที่บอกเอาไว้ว่า หวานเป็นลมขมเป็นยา นอกจากจะหมายถึงคำพูดคำชมแล้วนั้น ตรงตัวก็สามารถใช้อธิบายถึงการเลือกทานช็อกโกแลตแบบเปอร์เซ็นต์นี้ได้เหมือนกันนะครับ
(ทพ.รังสรรค์ ตันจันทร์พงศ์, 2556)
(Wellness2012, 2556)
(มนตรี รัตนพงษ์, 2559)
เรียบเรียงใหม่ ห้องสมุดเคลื่อนเต้ (2020)