“วิวาห์สีดำ (Black Wedding)” งานวิวาห์ในหลุมศพท่ามกลางภาวะโรคระบาด
เมื่อต้นปีค.ศ.2020 (พ.ศ.2563) ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่การระบาดของโควิด-19 กำลังอยู่ในภาวะที่ระบาดหนัก ก็ได้มีงานแต่งงานที่อาจจะดูแปลกประหลาด จัดขึ้นในสุสานที่เมือง Bnei Brak ในประเทศอิสราเอล
ในเวลานั้น รัฐบาลได้ห้ามการจัดงานที่มีการรวมกลุ่มของคนเป็นจำนวนมากเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส ในงานแต่งจึงมีเพียงแขกที่เข้าร่วมงานแค่ไม่กี่คน
งานวิวาห์นี้เป็นพิธีที่เรียกว่า “วิวาห์สีดำ (Black Wedding)” ซึ่งจัดขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อขับไล่โรคร้าย
แต่ละประเทศก็มีปฏิกิริยาต่อภาวะวิกฤต เช่นโรคระบาดในครั้งนี้ต่างกันออกไป บ้างก็หันหน้าเข้าหาการแพทย์ แต่บางชุมชนก็สิ้นหวัง ต้องหันหน้าเข้าไสยศาสตร์
สมัยก่อนนั้น ผู้คนเชื่อกันว่าภัยพิบัติและโรคร้ายเกิดจากการที่พระเจ้าลงโทษ เนื่องจากผู้คนไม่เชื่อฟังคำสอนของพระเจ้า
ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ได้เกิดอหิวาระบาดไปทั่วโลก ทำให้นักบวชชาวยิวในอูมานและยูเครน ออกมาต่อว่า อ้างว่าภัยพิบัติเกิดจากสตรีที่สวมกระโปรงสุ่มและต่างหู ทำให้เหล่าคนที่งมงายออกไล่ล่า ก่นด่า ถึงขั้นทำร้ายร่างกายผู้ที่ใส่กระโปรงสุ่มและต่างหู บางพื้นที่ถึงขั้นมีการฆาตกรรม
ในช่วงเวลานี้ ก็ได้เกิดความเชื่อเรื่องวิวาห์สีดำ (Black Wedding) โดยจะมีการเลือกเจ้าบ่าวและเจ้าสาว โดยที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวไม่จำเป็นต้องรู้จักกันเลย
ผู้ที่ถูกเลือกมักจะเป็นเด็กกำพร้า ไม่มีบ้านอยู่ ไม่มีทางเลือกในชีวิตมากนัก โดยงานวิวาห์จะได้รับการสนับสนุนเงินจากชุมชน โดยหลังจากแต่งงาน คู่บ่าวสาวจะได้รับการเลี้ยงดูจากชุมชนอย่างดี และในทางกลับกัน ผู้คนก็หวังว่าเหล่าวิญญาณผู้ล่วงลับจะตอบแทนด้วยการขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย พิธีวิวาห์จึงต้องจัดในสุสาน
บันทึกแรกที่กล่าวถึงวิวาห์สีดำคือในประเทศรัสเซียเมื่อค.ศ.1831 (พ.ศ.2374) ในช่วงที่อหิวาระบาด ส่วนอีกฉบับ คือที่โปแลนด์เมื่อค.ศ.1849 (พ.ศ.2392)
เมื่อชาวยิวจากยุโรปตะวันออกได้อพยพมาสหรัฐอเมริกาในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ก็ได้นำประเพณีนี้มาด้วย
ในช่วงที่เกิดไข้หวัดใหญ่สเปน ชาวยิวในสหรัฐอเมริกาก็ได้ประกอบพิธีวิวาห์สีดำ โดยเชื่อว่าจะช่วยขจัดโรคร้ายนี้เช่นกัน
- 7
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
