3 ม.ค. 2021 เวลา 11:18 • นิยาย เรื่องสั้น
[ เรื่องเล่าชมรมศิลป์ | New Year Special ]
ตอนพิเศษ : วันปีใหม่ (1)
“อ้าว อาร์ต วันนี้มาคนเดียวเหรอ”
 
เสียงของลุงโก๋ที่ตะโกนออกมาจากหลังร้าน ทำเอาผมที่กำลังนึกอะไรเพลิน ๆ อยู่ถึงกับสะดุ้งสุดตัว
ชายร่างใหญ่คนนี้ใครเจอครั้งแรกก็ต้องรู้สึกเกรง ด้วยหน้าตาดูเหมือนจิ๊กโก๋สมชื่อ แต่หากได้คุยด้วยจะรู้ว่าแกใจดี แถมยังรักสัตว์และธรรมชาติ ซึ่งสัมผัสได้จากบรรยากาศของร้านที่แยกแทบไม่ออกว่าขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงหรือรับจัดสวนกันแน่
ผมเดินเข้าไปที่มุมด้านในของร้าน ที่ลุงโก๋มักนั่งทำงานจิปาถะยามว่างจากลูกค้า เมื่อเจอตัวเจ้าของเสียงจึงยกมือไหว้
 
“พอดีพ่อติดงานแต่อาหารปลาใกล้หมด เลยบอกให้ผมแวะมาซื้อหลังเลิกเรียนแทนครับ”
 
ขณะที่พูด สายตาผมก็เหลือบมองข้าวของบนโต๊ะที่ลุงโก๋กำลังง่วนทำอยู่ พืชเล็ก ๆ สีเขียวหลากหลายรูปร่างวางเรียงราย ดูแล้วน่าจะเป็นพวกมอส เฟิร์น และอีกหลายอย่างที่ผมก็ไม่รู้จักชื่อ
ข้างตัวแกคือโหลแก้วขนาดย่อมที่ภายในเรียงหินและดินเอาไว้เลียนแบบธรรมชาติ และยังมีต้นไม้ขนาดจิ๋วอีกสามสี่ต้น จัดวางไล่ระดับราวกับสวนย่อส่วน
 
เจ้าของร้านมองผลงานของตนเองพร้อมด้วยรอยยิ้มที่ฉีกกว้างจนหนวดยกสูงขึ้นมา ไม่น่าเชื่อว่านิ้วอวบอ้วนของแกจะสามารถทำงานที่ละเอียดเช่นนี้ได้อย่างคล่องแคล่ว
 
“สวยใช่มั้ยล่ะ เจ้าพวกนี้น่ะ ภาษาประกิตเขาเรียกกันเท่ ๆ ว่า Terrarium บ้านเราก็เรียกสวนขวดแก้ว”
 
ผมตอบรับคำเบา ๆ แต่ใจนึกไปถึงใครคนหนึ่งที่น่าจะชอบของสิ่งนี้
[ อาร์ต ๆ ซายน์ชอบต้นไม้พวกนี้ของบ็อบจัง ]
 
[ ต้นไม้ตกแต่งตู้ปลาเนี่ยนะ ]
 
[ อืม ซายน์ชอบต้นไม้ อาร์ตก็รู้ พอมาเห็นต้นเล็ก ๆ แบบนี้ซายน์ว่ามันน่ารักดี ]
น่าแปลกที่จู่ ๆ บนสนทนาวัยเด็กระหว่างผมกับเธอจะแว่บขึ้นมาในหัว
 
อาจจะเป็นเพราะช่วงเวลานี้ ที่ต่างจากเดิมก็เป็นได้
 
 
“ลุงโก๋ครับ คือว่าผม…”
 
สายตาของชายร่างใหญ่ดูมีแววฉงนกับคำขอแปลก ๆ ของผม แต่สุดท้ายก็พยักหน้าหงึกหงักรับคำ พร้อมรอยยิ้มกว้างไม่แพ้ภาพซานต้าที่ห้อยตกแต่งติดไฟกระพริบที่ฝาผนังของร้าน
ขณะที่ก้าวขาเดินออกจากร้านเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน ลมเย็น ๆ ก็พัดมาปะทะผิว เป็นสัญญาณเตือนถึงฤดูที่กำลังจะเปลี่ยนผ่าน ผมขยับเป้ให้กระชับขึ้น ถุงไรแดงและอาหารเม็ดที่เพิ่งซื้อมาหนักเอาการ ดีที่ร้านของลุงอยู่ไม่ไกลจากบ้านเท่าไร ยิ่งอากาศแบบนี้เดินได้สบาย ๆ เหงื่อไม่ทันซึม
 
อีกเพียงอาทิตย์เดียวก็ปีใหม่แล้ว… ยิ่งกว่านั้น อีกไม่กี่เดือนเพื่อน ๆ ที่อยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนนี้ ไม่รู้ว่าหลังจากจบม.3 แล้ว จะได้ไปเรียนต่อที่เดียวกันมั้ย อนาคตจะเป็นยังไง นึกแล้วก็อดใจหายไม่ได้
โดยเฉพาะบอส เพื่อนสนิทที่อยู่ชมรมศิลป์เหมือนกัน เพราะดูท่าว่าที่บ้านอยากจะให้ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ แต่บอสเองก็ยังดึงดันอยู่ ด้วยเหตุผลที่ซี้อย่างผมเท่านั้นที่รู้
 
…และอีกคนหนึ่งที่อยู่ใกล้
แต่กลับเหมือนจะไกลออกไป
 
ซายน์
เจ้าของบทสนทนาที่โผล่เข้ามาในหัวผมเมื่อสักครู่ บ้านของเราหันหน้าเข้าหากัน ห่างเพียงซอยรถวิ่ง แต่หลังจากอุบัติเหตุระหว่างปีนต้นไม้เล่นกันตอนป.3 ความสัมพันธ์ของเราก็เปลี่ยนไป จากคู่ซี้กลายเป็นเพียงคนรู้จัก อย่างมากก็แค่คุ้นเคย
ความมึนตึงกลายเป็นกำแพงที่ก่อตัวอย่างช้า ๆ รู้อีกทีก็สูงเกินกว่าที่จะก้าวข้ามเสียแล้ว ทั้ง ๆ ที่ผมรู้สึกว่าลึก ๆ แล้วเราก็ไม่ได้โกรธเคืองกัน
 
อย่างน้อยปีใหม่นี้ ผมจะออกแรงกระโดดให้มากขึ้น เผื่อว่าจะมองเห็นอีกด้านหนึ่งของกำแพงก็ยังดี
หนังสือที่ยืมมาจากห้องสมุดเรื่องการผจญภัยในโลกต่างมิติอ่านสนุกมากจนวางไม่ลง รู้ตัวอีกทีกว่าจะได้นอนก็ปาไปตีสามแล้ว เช้านี้ผมจึงตื่นสายกว่าเคย แต่ไม่ลืมให้อาหารเจ้าบ๊อบ ปลาทองฮอลันดายักษ์ของพ่อ ที่ไม่ว่าจะเลี้ยงกันมากี่รุ่นก็ตั้งชื่อว่าบ๊อบเหมือนเดิม จะด้วยขี้เกียจตั้งชื่อหรืออะไรก็ไม่ทราบได้ ตามสไตล์พ่อที่เป็นนักจิตวิทยาของผมที่มักจะมีเหตุผลแปลกๆ อยู่เสมอ
 
“แม่ครับ ผมออกไปข้างนอกก่อนนะครับ”
 
ผมตะโกนบอกแม่ที่กำลังสาละวนกับงานวาดภาพ ก่อนจะใส่รองเท้าและสะพายเป้คู่ใจเดินออกจากบ้าน ยังไม่ทันพ้นรั้วประตูบ้าน ร่างหนึ่งก็เดินมาหยุดเบื้องหน้าและสบตากันเข้าพอดี
“เอ่อ จะไปไหนเหรอ”
 
สาวน้อยที่ยืนห่างออกไปราว ๆ สองเมตร ดูผงะตกใจทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็โผล่มาแบบไม่ทันตั้งตัวเหมือนกัน ผมหน้าม้าที่เอียงนิด ๆ ของเธอสะบัดกระจาย จนผมต้องยิ้มออกมากับภาพที่อยู่ตรงหน้า
 
“อาร์ตกำลังจะไปห้าง ว่าจะซื้อของขวัญจับฉลากน่ะ ซายน์ล่ะ”
 
“ซายน์เพิ่งไปซื้อกลับมาน่ะ งั้นขอตัวก่อนนะ”
 
พูดจบเธอก็หมุนตัวเดินดุ่ม ๆ เข้าบ้านฝั่งตรงข้ามอย่างว่องไว จนผมได้แต่มองตามหลังแบบงง ๆ หรือว่าเธอจะไม่อยากคุยกับผมจริง ๆ นะ
หลังจากเดินหาซื้อของในห้างแมรี่สักพัก ผมก็ได้ของมาสองชิ้น ชิ้นแรกคือนาฬิกาตั้งโต๊ะดีไซน์เก๋ ห่อของขวัญเรียบร้อยพร้อมเอาไปจับฉลาก ส่วนอีกชิ้นนั้นมาในกล่องกระดาษธรรมดาซึ่งผมเก็บไว้ในเป้เป็นอย่างดี
ยังมีอีกที่หนึ่งที่ผมต้องไป…
“ขอบคุณครับลุงโก๋ ออกมาสวยกว่าที่คิดซะอีก”
 
หนวดคู่นั้นกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้มก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี
 
“แน่นอนสิ ฝีมือระดับนี้อย่าหาว่าคุย ว่าแต่ไอเดียนี้เข้าท่าเหมือนกันนะ ไว้ลุงจะลองหาของใหม่ ๆ มาทำอีก”
 
ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะคือสวนขวดแก้วที่ทำจากภาชนะสำหรับการทดลองวิทยาศาสตร์ที่ผมไปซื้อมาจากห้างก่อนหน้านี้ ด้านในที่มีพืชสีเขียวสดใสที่ลุงโก๋ตกแต่งไว้เหมือนเป็นโลกใบจิ๋วที่มีระบบนิเวศน์ของตัวเอง
ผมรู้ว่าซายน์ที่ชอบทั้งวิทยาศาสตร์และต้นไม้น่าจะต้องถูกใจของชิ้นนี้แน่นอน
แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นคือ
ผมจะให้ของนี้กับเธอยังไงนี่สิ…
[ To be continued ]
สวัสดีครับทุกคน 💙
เนื่องในโอกาสวันปีใหม่ ซีรีส์เรื่องเล่าชมรมศิลป์นอกเวลา ที่เขียนร่วมกันกับเรื่องเล่าชมรมวิทย์นอกเวลา เลยมีตอนพิเศษ พาย้อนเวลาไปในวันปีใหม่สมัยอดีตของทั้งซายน์และอาร์ตนะครับ และขอใช้โอกาสนี้กล่าวสวัสดีปีใหม่ทุกคนด้วย มีความสุข มีรอยยิ้ม ห่างไกลโควิดกันตลอดปีนะครับ
ตอนจบจะมาในวันพรุ่งนี้ อย่าลืมติดตามกันนะครับ สำหรับตอนนี้ขอเชิญให้อ่านเรื่องราวอีกมุมหนึ่งของตัวละคร ‘ซายน์’ ได้ที่เพจ EveryGreen หรือคลิกที่ลิงค์ข้างล่างนี้ได้เลยครับ :)
โฆษณา