4 ม.ค. 2021 เวลา 12:00 • นิยาย เรื่องสั้น
[ เรื่องเล่าชมรมศิลป์ | New Year Special ]
ตอนพิเศษ : วันปีใหม่ (2)
 
ตึก ตึก ตึก ตึก
 
เสียงฝีเท้าที่วิ่งลงบันไดชั้นสองดังถี่ยิบจนทำให้คนที่กำลังเตรียมอาหารอยู่ในครัวต้องโผล่หน้าออกมามองว่าเกิดอะไรขึ้น
 
“อาร์ตตตต! รีบอะไรขนาดนั้น ระวังตกบันไดนะลูก!”
 
สายตาของแม่ดูแปลกใจ ในมือถือตะหลิวค้างไว้ ที่ปลายมีความวาวของน้ำมันและวัตถุสีขาวติดอยู่จาง ๆ
 
ขนมปังปิ้ง กับไข่ดาว…ถ้าเมนูนี้คงจะทัน
 
“แม่ครับ ไข่ดาววันนี้ผมขอสุกนิดนึงนะครับ เช้านี้นัดบอสไว้เตรียมจัดห้องงานปีใหม่”
 
“งั้นเดี๋ยวแม่ทำเป็นแซนวิชให้แล้วกัน จะได้กินไว ๆ”
แม่ยิ้มให้แล้วผลุบกลับเข้าไปในห้องครัว นอกจากฝีมือในการวาดภาพลงสีที่เก่งกาจแล้ว มือของแม่ยังทำอาหารได้อย่างคล่องแคล่วอีกด้วย
ผมจัดการอาหารเช้าหมดอย่างรวดเร็ว ขณะที่หมุนตัวเตรียมออกจากบ้าน พ่อที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จและลงมาทานข้าวก็เดินสวนมาพอดี
 
“วันนี้ออกซะเร็วเชียว บ๊อบมันยังแปลกใจ ถามไม่หยุดเลยเห็นมั้ย”
 
พูดจบพ่อก็หัวเราะให้กับมุกของตัวเองแล้วเดินไปที่ห้องครัวด้วยท่าทางอารมณ์ดี ทิ้งให้ผมประสานสายตากับเจ้าบ๊อบที่อ้าปากกลม ๆ งับอากาศไม่หยุด
 
ผมเช็คของในถุงกระดาษที่ผูกโบไว้แทนกล่องของขวัญ ต้นไม้จิ๋วในขวดแก้วยังคงดูสดชื่น ดอกสีชมพูเล็ก ๆ ที่ปลายกิ่งขยับเล็กน้อยเหมือนจะบอกว่ายังสบายดีอยู่ ไม่ต้องห่วงนะ
 
“ไปก่อนละบ๊อบ อวยพรให้ฉันโชคดีด้วยนะ”
พอมาถึงห้องเรียน ผมก็พบว่าบอสมารออยู่ก่อนแล้ว หน้าตาดูง่วงเหมือนอดหลับอดนอน
 
“ไงเพื่อน โทษที ๆ พอดีออกช้ากว่าที่คิดนิดหน่อย”
 
บอสหาวยาวเหยียดแทนคำตอบ ก่อนจะบ่นออกมาเป็นพรืด
 
“เออๆ อุตส่าห์มาเช้าตามคำขอ ยังดีนึกว่ามารอเก้อซะแล้ว ง่วงฉิบ ว่าแต่มีอะไรวะ เรื่องแต่งห้องไว้คุยกันตอนพักเช้าก็ได้นี่หว่า ยังต้องเรียนอีกตั้งสามคาบกว่าจะเริ่มงานปีใหม่”
 
ผมอมยิ้ม ล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วยื่นกระดาษเล็ก ๆ พับครึ่งส่งให้เพื่อนรักที่รับมาแบบงง ๆ แต่พอเปิดดูเท่านั้น ความงัวเงียก็ดูแทบจะหายไปเป็นปลิดทิ้ง
 
“เฮ้ยยยย นี่มันเบอร์โต๊ะอู้ใช่มั้ย โห อาร์ตเพื่อนรัก ขอบใจมา…..”
1
เสียงของบอสขาดหายไปกลางอากาศก่อนจะหันมาจ้องหน้าผมแบบรู้ทัน
 
“ว่าแต่เบอร์ข้างหลังมันหายไปไหนสามตัววะ แบบนี้จะให้กรูสุ่มโทรหรอ จะสนับสนุนความรักเพื่อนทั้งที มีกั๊กนี่หว่า เออ ๆ มีอะไรให้กรูช่วยก็บอกมา แลกกับเลขท้ายสามตัวเนี่ย”
 
ผมหัวเราะเบา ๆ นี่ละนะเพื่อนสนิทที่ไม่ต้องพูดอะไรเยอะก็รู้ทางกัน หากมันต้องย้ายไปเรียนเมืองนอกจริง ๆ ผมคงเหงาแย่
1
ในที่สุดงานปีใหม่และจับฉลากก็เริ่มขึ้น ผมจับได้ปากกากดจากเพื่อนคนหนึ่งในห้อง ส่วนนาฬิกาตั้งโต๊ะที่ซื้อมาก็ดูเป็นที่พอใจของเพื่อนที่จับได้เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น ราวกับสวรรค์เป็นใจเพราะของขวัญที่ซายน์จับได้คือของบอสเพื่อนยากผู้สมรู้ร่วมคิดของผมนี่เอง
หลังจากช่วยกันเก็บกวาดห้องเรียบร้อย ต่างก็เริ่มทยอยกันกลับบ้าน ส่วนผมและบอสก็เตรียมการตามแผนที่วางไว้
 
“ไอ่อาร์ตๆ กรูได้ยินซายน์พูดว่าจะไปชมรมวิทย์อะ งั้นเราไปดักรอแถวโน้นดีกว่า ยังไงก็ต้องเจอ”
 
เราสองคนไปนั่งแอบอยู่ในห้องชมรมศิลป์ที่อยู่ใกล้กับโถงทางเดิน ส่วนชมรมวิทย์นั้นห่างออกไปอีกสองห้อง จุดที่เราซ่อนอยู่ในห้องนั้นมองไม่เห็นจากหน้าต่าง แต่หากมีใครเดินผ่านมาจะไม่พลาดสายตาพวกเราแน่นอน
ไม่นานนักซายน์ก็เดินผ่านมาตามคาด ผมบุ้ยใบ้ส่งสัญญาณให้บอสรอสักเดี๋ยวเพื่อให้แน่ใจว่าเธอจะไม่ปุบปับเดินออกมาทันที แผนของผมคือให้บอสเข้าไปคุยกับซายน์ ขอแลกของขวัญที่จับฉลากได้ ด้วยเหตุผลที่ว่าบอสจับได้ของผมแต่มันอยากได้ของที่ตัวเองเอามาจับมากกว่า
 
“แต่เอาจริง ๆ กรูก็ไม่ได้อยากได้ของตัวเองนะ เนี่ยซื้อของส่ง ๆ มา สุดท้ายกลับมาหากรูซะงั้น”
 
“เอาน่า ก็ได้ของอื่นไปแล้วด้วยไง แถมของสำคัญยังรออยู่นะเพื่อน” ผมชูนิ้วขึ้นมาสามนิ้ว เป็นแรงกระตุ้นชั้นดีให้บอส เพราะมันลุกขึ้นมาทำท่าขึงขังอีกรอบ
 
“เนี่ย เพราะเห็นเป็นมรึงหรอกนะ ไม่เกี่ยวกับเบอร์สาวเลยยยยย”
 
เราหัวเราะขึ้นมาพร้อมกันเบา ๆ ผมหยิบถุงของขวัญที่พรางตัวมาในถุงกระดาษด้านนอกอีกที ยื่นให้บอส
 
“เอ้า จัดไปครับลวกเพ่ ช่วยผมที”
1
ราว ๆ สิบนาทีต่อมา บอสก็เดินกลับเข้ามาในห้องชมรมศิลป์ ในมือถือกล่องของขวัญหน้าตาบูด ๆ เบี้ยว ๆ ที่เดาได้ว่าเป็นของตัวเอง ผมเห็นแล้วก็รู้สึกใจชื้น นั่นแปลว่าซายน์ยอมตกลงแลกของ แต่สีหน้าของบอสดูแปลก ๆ ชอบกล
 
“เป็นไงบ้าง สำเร็จใช่มั้ย แล้วทำไมหน้าเป็นแบบนั้นอะ”
 
“คือ…เค้าถามถึงมรึงว่ะ ดูเหมือนมีอะไรอยากจะคุยด้วย แต่กรูตกใจเลยบอกว่ามรึงกลับบ้านไปแล้ว…โทษทีว่ะ”
 
เสียงอ่อย ๆ ของเพื่อนสนิท ทำให้ผมยิ้มออกมา พลางเอามือตบบ่าเบา ๆ
 
“ไม่เป็นไรเว้ย ยังไงกรูก็เจอซายน์เรื่อย ๆ อยู่แล้ว ถ้ามีอะไรจะคุยก็ไม่ยากหรอก ขอบใจมากเพื่อน”
ผมหยิบกระดาษพับครึ่งอีกใบส่งให้บอส ก่อนจะชวนกันกลับบ้าน
1
หลังจากวันนั้น ซายน์ก็ไม่ได้คุยอะไรกับผมเรื่องของขวัญ บางทีเธออาจจะแค่ไม่อยากให้ผมรู้ว่าบอสแอบมาแลกของเพราะกลัวจะผิดใจกัน แต่นั่นก็ไม่เป็นไร แค่เธอยอมรับของเอาไว้ ไม่เอาไปทิ้งก็พอแล้ว
 
พรุ่งนี้ก็เป็นวันสุดท้ายของปี ผมที่ไม่มีอะไรทำจึงตั้งใจจะออกไปใช้เวลาอ่านหนังสือเงียบ ๆ ที่ห้องสมุดตอนเช้า ทันทีที่เดินออกจากบ้านก็เจอคุณแม่ของซายน์เดินสวนกลับเข้ามาพอดี จึงยกมือไหว้ทักทาย
 
“อ้าว อาร์ต ไปไหนแต่เช้าเหรอลูก”
 
“ว่าจะไปห้องสมุดครับ จะไปอ่านหนังสือแล้วก็เอาหนังสือที่ยืมมาไปคืนด้วย อยู่บ้านแล้วเผลอหลับตลอดเลยครับ”
 
คุณน้าหัวเราะเบา ๆ ก่อนชวนคุยต่อ
 
“ขยันจริง ๆ ป่านนี้ซายน์ยังนอนหลับอยู่เลยมั้งน้าว่า เออจริงสิ…ถ้าไปห้องสมุดน้าฝากอะไรหน่อยได้มั้ย”
 
“ได้เลยครับ คุณน้าอยากดูหนังสืออะไรเป็นพิเศษเดี๋ยวผมไปยืมมาให้”
 
“ถ้าอย่างงั้นน้าฝากดูหนังสือที่เกี่ยวกับการดูแลสวนขวดหน่อยสิ เห็นซายน์บอกว่าจับฉลากมาได้ ตอนนี้กำลังเห่อน่าดู จ้องทั้งวันแถมยังรดน้ำเช้าเย็น น้ากลัวว่ามันจะตายซะก่อน”
 
ผมกลั้นยิ้มเอาไว้ขณะที่รับปากคุณน้า
1
เวลาผ่านไปจนราว ๆ บ่ายสอง ผมเดินทางกลับหลังจากใช้เวลาทั้งเช้าในห้องสมุด เมื่อเข้ามาใกล้บริเวณบ้าน ก็ได้ยินเสียงใครคนหนึ่งตะโกนเรียกขึ้นมา
 
“อาร์ต!”
 
เจ้าของเสียงเดินออกมาจากรั้วบ้านฝั่งตรงข้าม ไม่น่าเชื่อ นั่นซายน์นี่นา ปกติไม่เห็นเคยมานั่งเล่นที่สวนหน้าบ้านสักที
 
“มีอะไรเหรอซายน์”
 
“เพิ่งกลับจากห้องสมุดเหรอ”
 
“อืม ช่วงนี้ต้องเตรียมตัวสอบเข้า ม. 4 นี่ ซายน์สนใจจะไปอ่านที่ห้องสมุดด้วยกันไหม วันหลังอาร์ตจะได้ชวน”
 
“ไม่ดีกว่า ซายน์อยากอ่านเงียบ ๆ คนเดียว”
 
“อืม...”
ระหว่างที่ผมกำลังงงอยู่ มือที่ดูผอมบางของเธอก็ยื่นวัตถุบางอย่างมาตรงหน้า
 
“ที่บ้านเพิ่งอบคุ้กกี้เสร็จน่ะ แม่ทำเผื่อด้วย อ่ะ รับไปสิ”
 
“โห น่ากินจัง ขอบคุณนะ”
ผมเผลอยิ้มกว้างออกมา ไม่ใช่เพราะคุ้กกี้หรอก แต่เพราะบทสนทนาเมื่อช่วงเช้ากับแม่ของเธอต่างหาก
 
“ไปขอบคุณแม่เถอะ”
 
เสียงใส ๆ ที่มีแววยียวนของซายน์กล่าวทิ้งไว้ก่อนจะหมุนตัวกลับ ปล่อยให้ผมยืนถือกล่องคุ้กกี้อยู่คนเดียว ไม่เพียงเท่านั้น จู่ ๆ เธอก็หันกลับมาแลบลิ้นให้ผมอีกทีก่อนวิ่งเข้าบ้านไป
 
“ตกใจหมด คนอะไรทำหน้าอย่างกับลิงหลอกเจ้า”
 
ผมหย่อนกล่องคุ้กกี้ลงในถุงผ้าแคนวาสที่สะพายมารวมกับหนังสือการดูแลสวนขวดที่ยืมมาจากห้องสมุด พลางฮัมเพลงเบา ๆ ขณะที่เปิดประตูรั้วเข้าบ้าน
1
🎵 “Tonight I'll dream in my bed
While silly thoughts run through my head
Of the bugs and alphabet
And when I wake tomorrow I'll bet
That you and I will walk together again
 
Because I can tell that
we are going to be friends
I can tell that we are going to be friends” 🎶
 
#จบตอนพิเศษ วันปีใหม่
🎵 ฟังเพลงประกอบตอน
“We're Going To Be Friends” (2002)
โดย The White Stripes ได้ที่นี่ 👇
สวัสดีครับทุกคน 💙
จบตอนพิเศษ ‘วันปีใหม่’ ไปแล้วนะครับ ไม่รู้จะถูกใจกันไหม นี่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นตอน ม. 3 ของซายน์กับอาร์ต ย้อนอดีตไป 11 ปี เพราะตอนนี้ทั้งสองคนเรียนจบทำงานแล้วทั้งคู่ครับ
สำหรับตอนหลัก ก็ยังติดตามการผจญภัยของพวกเรากันต่อได้นะครับ รับรองว่ายังมีเรื่องสนุก ๆ อีกเยอะ อาจจะมาบ้าง ไม่มาบ้าง ต้องขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจและการติดตามจากเพื่อน ๆ ด้วยนะครับ
ส่วนตอนนี้ขอเชิญให้อ่านเรื่องราวอีกมุมหนึ่งของตัวละคร ‘ซายน์’ ได้ที่เพจ EveryGreen หรือคลิกที่ลิงค์ข้างล่างนี้ได้เลยครับ :) 👇
โฆษณา