น้ำใจในกีฬา คุณค่าเหนือชัยชนะ
โดย วิธพล เจาะจิตต์
ขึ้นชื่อว่า “การแข่งขัน” ไม่ว่าจะเป็นกีฬาประเภทไหน นักกีฬาทุกคนย่อมมุ่งคว้าชัยให้กับตัวเองและทีม เพราะชัยชนะที่ได้มานั้นไม่เพียงแต่จะนำมาซึ่งความปีติยินดี หากแต่ยังเป็นเครื่องหมายของความเก่งกว่า ความเหนือกว่า สถิติที่ดีกว่า ตลอดจนรางวัลที่ได้รับและเป็นที่จดจำ การได้ชื่อว่าเป็นผู้ชนะในการแข่งขันจึงมีความหมายมากกว่าการเป็นผู้แพ้หรือแม้แต่เสมอ
ยิ่งในวงการกีฬาอาชีพที่ผลประโยชน์มีมูลค่ามหาศาล ความพ่ายแพ้ในเกมสำคัญอาจจะหมายถึงการสูญเสียรายได้ เสียศักดิ์ศรี หรือแม้กระทั่งการสูญเสียตำแหน่งของผู้จัดการทีมหรือโค้ช นักกีฬาถูกขายหรือย้ายทีม แรงกดดันที่จะต้องได้ชัยจึงยิ่งมีมากเป็นเท่าทวีคูณ ในบางสถานการณ์นักกีฬา หัวหน้าโค้ช และผู้บริหารทีมใช้วิธีการไม่เหมาะสมเพื่อได้มาซึ่งชัยชนะหรือผลการแข่งขันที่ต้องการ หลายครั้งที่วิธีการเหล่านั้นก้าวข้ามเส้นจรรยาบรรณและความถูกต้อง กลายเป็นชัยชนะที่ไม่น่าจดจำและไม่มีใครอยากกล่าวถึง หรือหากถูกกล่าวถึงก็มีแนวโน้มจะกลายเป็นข้อถกเถียงกันอย่างดุเดือดเสียมากกว่า อาทิ หัตถ์พระเจ้าของมาราโดนา การทำฟาวล์ในการออกคิวของ สตีเฟน เฮนดรี ที่ทำให้ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย นักสาวคิวขวัญใจชาวไทยชวดการเข้าชิงแชมป์โลก การให้ความช่วยเหลือทีมฟุตบอลเกาหลีใต้อย่างเกินงามของกรรมการผู้ตัดสินในฟุตบอลโลกปี 2002 การเตะแบบซูเอี๋ยระหว่างเยอรมนีตะวันตกและบ้านพี่เมืองน้องออสเตรียที่พาทั้งคู่เข้ารอบ และส่งผลให้แอลจีเรียต้องตกรอบในฟุตบอลโลกปี 1982 รวมถึงชัยชนะอันน่าฉงนของเจ้าภาพรายการกีฬาสำคัญๆ ของโลก เป็นต้น
ในอีกด้านหนึ่งวงการกีฬาก็มีต้นแบบของแนวปฏิบัติที่ดีงาม สะท้อนความมีน้ำใจนักกีฬา แม้ชัยชนะจะอยู่ตรงหน้าแต่นักกีฬาเหล่านี้กลับให้ความสำคัญน้อยกว่า “สิ่งที่ควรทำ” เช่นในวงการฟุตบอลมีเหตุการณ์ที่ดีต่อใจหลายครั้ง ดังจะขอหยิบยกมากล่าวถึงตัวอย่างความจรรโลงใจที่มีความหมายมากกว่าผลการแข่งขัน
น้ำใจนักกีฬาของนักเตะเจ้าอารมณ์ : คุณสมบัติแรกที่ผู้คนมักจะนึกถึง เปาโล ดิ คานิโอ คือความเจ้าอารมณ์ เลือดร้อน พร้อมปะทะตามสไตล์หนุ่มอิตาเลียน คอยบดบังฝีเท้าและเทคนิคอันสูงส่งของเขาไปไม่น้อย ผู้ชมจึงไม่ค่อยนึกถึงเขาในแง่ดีสักเท่าไรนัก ในเกมฟาดแข้งพรีเมียร์ลีกปี 2000 ระหว่างขุนค้อน เวสต์แฮม ทีมของดิ คานิโอ และทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน ในช่วงทดเวลา พอล เจอร์ราร์ด ผู้รักษาประตูของเอฟเวอร์ตันลงไปนอนกองกับพื้นเพราะบาดเจ็บจากการปะทะในการเล่นก่อนหน้านั้น แต่นักเตะขุนค้อนยังคงเดินเกมต่อและ เทรเวอร์ ซินแคลร์ ได้ผ่านบอลจากปีกให้กับดิ คานิโอ ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่ทำประตูได้โดยง่าย และก็จะเป็นลูกนำชัยให้เวสต์แฮมได้ในทันที แต่ดิ คานิโอกลับก้มลงไปหยิบลูกบอลและส่งสัญญาณให้ผู้ตัดสินยุติเกม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทีมทอฟฟี่สีน้ำเงินได้เข้ามาดูอาการบาดเจ็บของเจอร์ราด การกระทำของเขาเรียกเสียงปรบมือก้องสนามกูดิสัน พาร์ค จากแฟนบอลเจ้าถิ่น
คุณธรรมสำคัญกว่าชัยชนะ : เกมการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบที่ 5 ปี 1999 ซึ่งอาร์เซนอลกำชัยเหนือเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่สนามไฮบิวรี 2-1 แต่ลูกนำชัยที่ มาร์ค โอเวอร์มาร์ส ยิงให้เจ้าปืนใหญ่อาร์เซนอลนั้นถือเป็นประตูที่อื้อฉาวมาก เนื่องจากในจังหวะก่อนหน้านั้น นักเตะเชฟฟิลด์เตะบอลออกนอกสนามเพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดูอาการบาดเจ็บของเพื่อนร่วมทีม แต่ เอ็นวานโก คานู กองหน้าอาร์เซนอลเข้าใจผิดและรีบทุ่มบอลให้โอเวอร์มาร์เข้าทำประตูชัยที่สร้างความเดือดดาลให้นักเตะเชฟฟิลด์เป็นอย่างมาก อาร์แซน เวงเกอร์ กุนซือของทีมปืนใหญ่เข้าใจสถานการณ์อย่างทะลุปรุโปร่ง และเมื่อจบเกมเขาได้เสนอ สตีฟ บรูซ กุนซือคู่แข่งให้จัดการแข่งขันใหม่เพื่อให้เป็นธรรมต่อทีมเชฟฟิลด์ ซึ่งต่อมาสมาคมฟุตบอลอังกฤษเห็นชอบกับข้อเสนอของเวนเกอร์ จึงจัดการแข่งขันขึ้นใหม่ใน 10 วันให้หลัง โดยนัดแข่งใหม่นั้นอาร์เซนอลก็ยังคงชนะไปในสกอร์เดิมคือ 2-1 หากแต่เป็นชัยชนะที่ใสสะอาดหมดจด
ตอบแทนน้ำใจโดยการไม่เอาเปรียบ : ในระหว่างพักครึ่งเวลาของเกมการแข่งขันคาร์ลิง คัพ ปี 2007 ซึ่งน็อตติงแฮม ฟอร์เรสต์นำเลสเตอร์ ซิตี้อยู่ 1-0 ไคลฟ์ คลาร์ก ผู้เล่นกองหลังของเลสเตอร์ได้ล้มลงหมดสติในห้องพักนักกีฬา และด้วยสภาพวิกฤติของคลาร์ก ทั้งสองทีมจึงตกลงยกเลิกการแข่งขันในวันนั้น แล้วไปแข่งใหม่ในอีก 3 สัปดาห์ต่อมา เมื่อเริ่มการแข่งขันในนัดแข่งใหม่ นักเตะเลสเตอร์ก็ส่งสัญญาณให้ พอล สมิธ ผู้รักษาประตูของฟอร์เรสต์เลี้ยงบอลจากจุดเขี่ยลูกเริ่มเกมกลางสนามเข้าไปทำประตู เพื่อให้สกอร์เริ่มที่ 1-0 เหมือนสกอร์ของเกมก่อนหน้าก่อนที่จะถูกยกเลิกการแข่งขันไป
ชูความซื่อสัตย์เหนือถ้วยรางวัล : ในช่วงทศวรรษ 1990 การชิงแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษก็ไม่พ้นการขับเคี่ยวกันของทีมใหญ่โดยเฉพาะลิเวอร์พูลและอาร์เซนอล ในการแข่งขันช่วงท้ายฤดูกาล 1997 ในวันที่ 24 มีนาคม ที่สนามไฮบิวรีของอาร์เซนอล ผู้ตัดสิน เจอรัลด์ แอชบี ได้เป่าให้จุดโทษกับลิเวอร์พูล เพราะเขาเห็นว่า ร็อบบี ฟาวเลอร์ ศูนย์หน้าหงส์แดงถูก เดวิด ซีแมน นายทวารทีมปืนใหญ่รวบล้มในเขตโทษซึ่งก็เป็นสิ่งปกติทั่วไปที่เขาตัดสินใจในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน ทว่าแอชบีก็ต้องประหลาดใจเมื่อฟาวเลอร์ได้เดินเข้ามาหาและร้องขอให้ยกเลิกจุดโทษ เพราะจริงๆ แล้วเขาสะดุดล้มเอง ไม่ได้ถูกรวบล้มลงโดยซีแมน แอชบีรับฟังฟาวเลอร์แต่ก็ไม่เปลี่ยนใจและยังคงยืนยันให้จุดโทษกับลิเวอร์พูล ในการยิงลูกโทษฟาวเลอร์ก้าวเข้าไปยิงอย่างไม่เต็มแรง เสมือนว่าเขาอยากให้ซีแมนป้องกันลูกยิงของเขา ซึ่งนายทวารอาร์เซนอลก็ป้องกันได้จริงๆ แต่ก็ถูก เจสัน แม็กอาเทียร์ ซ้ำเข้าไป หลังจบเกมวันนั้นสิ่งที่คนในวงการฟุตบอลกล่าวถึงไม่ใช่ผลการแข่งขันแต่เป็นความซื่อสัตย์และน้ำใจนักกีฬาของฟาวเลอร์
เรื่องราวดีๆ เหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักและเกิดขึ้นโดยที่ไม่มีใครชี้นำ นักเตะและสโมสรเลสเตอร์ยินดีจะเริ่มเกมด้วยการตามหลังแม้รู้ว่าไม่ง่ายที่จะยิงประตูตามเสมอ ความซื่อสัตย์ของฟาวเลอร์มาก่อนกาลของ VAR การเห็นความสำคัญของคุณธรรมมากกว่าผลประโยชน์จากการชนะเกมของเวงเกอร์และดิ คานิโอ เรื่องราวเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า “สิ่งที่ดีงามย่อมเป็นสิ่งที่ดีงาม แม้ว่าจะถูกปฏิบัติโดยคนจำนวนน้อย และสิ่งที่ไม่ดีก็ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ดีแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะนิยมปฏิบัติกัน”
ท้ายที่สุดแล้ว ความตั้งใจ เป้าหมาย และวิธีการ ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เป้าหมายที่หวังควรจะได้มาด้วยวิธีการอันชอบธรรมซึ่งถูกขับเคลื่อนด้วยความตั้งใจที่บริสุทธิ์และทัศนคติของความเป็นนักกีฬาที่ดี
เรื่องราวเหล่านี้ควรได้รับการบอกกล่าวต่อๆ กัน เพื่อให้คนได้เข้าใจเข้าถึงคุณงามความดีของกีฬาและความมีน้ำใจนักกีฬา
หากท่านผู้อ่านมีเรื่องราวแบบเดียวกันนี้ ก็แลกเปลี่ยนกันนะครับ การจรรโลงใจนั้นสำคัญมากโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นทุกวันนี้
#พรีเมียร์ลีก #ลิเวอร์พูล #ผลฟุตบอล #ผลบอล #ฟุตบอล #Football #Soccer #PlayNowThailand #KhelNowThailand
อัพเดตข่าวสารกีฬาก่อนใคร พร้อมมีของรางวัลพิเศษให้ร่วมสนุกกันเป็นประจำ
ร่วมไลค์ ร่วมแชร์ Play Now Thailand
- 9
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
