7 ม.ค. 2021 เวลา 09:21 • นิยาย เรื่องสั้น
ตัวสำรอง?
ื ตอนเด็กๆเมื่อประมาณชั้นประถม ผมเคยได้รับเลือกจากโรงเรียนให้เป็นตัวแทนนักกีฬาวิ่งกระสอบ สมัยนั้นผมน่าจะอยู่ป.3 เพื่อจะไว้เตรียมตัวแข่งในงานกีฬาโรงเรียนสัมพันธ์ (มีประมาณ 18 โรงเรียนมาแข่งกัน)​สาเหตุที่ได้เลือกเพราะในโรงเรียนนั้นมีเด็กผู้ชายน้อย และผมวิ่งกระสอบได้ไวที่สุดในปีนั้น เมื่อวันแข่งกีฬามาถึงนั้น ผมได้วิ่งกระสอบเข้าเป็นอันดับ สอง และได้ขึ้นแท่นอันดับสองในตอนรับรางวัล ตอนนั้นผมภูมิใจมาก และคิดว่าปีหน้าเราต้องคว้าที่ 1 มาให้ได้ จากวันนั้นผมเอาแต่คิด และแอบฝึกซ้อมต่อ
1 ปีต่อมา ผมอยู่ชั้นป.4 และครูก็ให้ผมไปลงคัดตัวนักกึฬาอีกเหมือนเดิม แต่ปีนี้ไม่เหมือนปีก่อน เมื่อถึงเวลาคัดตัวผมวิ่งกระสอบเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 2 ในรอบคัดตัว เพราะมีเด็กคนใหม่ที่เข้ามาวิ่งได้เร็วกว่าเรามากอยู่ 1 ช่วงตัว ตอนนั้นผมจำความรู้สึกไม่ได้ แต่ที่จำได้ครูให้ผมได้รู้จักคำว่า ตัวสำรอง ในเวลาต่อมา
ใช่ครับในปีนั้น ผมเป็นตัวสำรองประจำทีม ผมก็มาซ้อมวิ่งเหมิอนเดิมกับเด็กใหม่ที่เป็นตัวจริง ผมวิ่งกี่ครั้งผมก็วิ่งไม่ทันเขา ผมมักจะเลิกซ้อมช้ากว่าเขา และมาซ้อมเร็วกว่าเขาเสมอ ถึงกระนั้นแล้วผมก็ยังวิ่งไม่ทันเขา จนถึงกระทั่งวันแข่ง
และแล้ววันแข่งมาถึง ผมได้ไปประจำอยู่ข้างสนาม เฝ้าดูการแข่งขัน เมื่อถึงเวลาแข่ง ผมก็นั่งดูอย่างตื่นเต้น และเชียร์เด็กใหม่ให้เข้าเส้นขัยอย่างสนุกสนานซึ่งวันนั้น เด็กใหม่เข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 กลายเป็นเรื่องที่น่าดีใจสุดๆของโรงเรียน
เมื่อถึงเวลารับรางวัล ในปีนี้ผมเป็นตัวสำรอง ได้เพียงแต่มองเขาขึี้นรับรางวัลอย่างสมเกียรติ ส่วนผมน่ะหรอ ด้วยความเป็นเด็กข่มน้ำตาไว้ในอก ไม่ได้โกรธที่เด็กใหม่วิ่งเร็วกว่าเรา แต่เสียใจที่ไม่ได้เหรียญเพราะเป็นตัวสำรอง ผมเดินกลับห้องเรียนพร้อมกับไม่พูดอะไรอย่างเงียบๆ
แต่แล้วเมื่อวันต่อมา ผมมาโรงเรียนอีกครั้ง คุณครูเรียกผมไปพบที่ห้องพละ ผมคิดว่่าจะเรียกผมไปทำไม ไม่มีแข่งกีฬาแล้วนี่ ปรากฎว่า ครูหยิบเหรียญทองมาใส่ในมือแล้วบอกว่า
"มันเป็นรางวัลเธอควรได้นะ ถึงเธอจะเป็นตัวสำรองปีนี้ แต่เธอก็เป็นนักกีฬาของโรงเรียนเหมือนกันนี"
คำพูดแค่ประโยคเดียว ผมขอบคุณคุณครู วิ่งไปแอบในสนามหญ้าโรงเรียนพร้อมกับเหรียญทองที่ผมไม่ได้เข้าแข่ง ผมร้องไห้ ร้องไห้ออกมาเสียงดังมาก ได้แต่ร้อง ร้อง และร้อง น้ำตาที่ผมออกมาวันนั้น ไม่ใช่ความเสียใจอะไรเลย หรือการดีใจอะไร มันเป็นความตื้นตันใจของการเป็นตัวสำรองอย่างที่สุด
ผมยังคิดถึงเรื่องนี้ทุกครั้ง
และยังอมยิ้มทุกครั้งที่เผลอคิดถึง
โฆษณา