#แกะรอยความคิดคนสำเร็จ EP.3 ตอน สูญเสียสิ่งที่จำเป็นที่สุดไปจนเกือบฆ่าตัวตาย แต่กลับมาสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดให้โลกได้ตกตะลึง
ถ้าเป็นเราจะทำอย่างไร ถ้าต้องสูญเสียสิ่งที่จำเป็นที่สุดในการทำตามความฝัน สิ่งที่สำคัญที่สุดในการหาเลี้ยงชีพ สิ่งที่เคยเป็นพรสวรรค์แต่เหมือนถูกสวรรค์ดึงคืนไป
เขาเป็นผู้ประพันธ์เพลง เขาเป็นนักเปียโน ผู้คนมากมายหลงใหลได้ปลื้มในทักษะความสามารถที่ยากจะมีผู้ใดเลียนแบบได้
ในช่วงเวลาที่เขากำลังรุ่งโรจน์ที่สุดในชีวิต เช้าวันหนึ่งเมื่อเขาลืมตาตื่นขึ้นมา เขากลับพบว่า เขาได้สูญเสียสิ่งที่สำคัญที่สุดไป
เขากลายเป็นคน "หูหนวก"
สำหรับนักดนตรี นักประพันธ์ จะมีอะไรที่เจ็บปวดมากไปกว่านี้
แล้วสำหรับคนที่ทั้งชีวิตมีแต่เสียงดนตรีอย่างเขา ชีวิตเขาจะมี "คุณค่า" อะไรเหลืออีก
เขาเริ่มรู้สึกทนทุกข์ เศร้าหมอง ตรอมใจ จนเริ่มเขียนจดหมายลาตายส่งให้คนที่เขารัก
"จะมีความหมายอะไรที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป จะมีคุณค่าอะไรเหลืออยู่สำหรับนักดนตรีที่ไม่สามารถฟังเสียงดนตรีได้"
แต่สุดท้ายเขาไม่ได้ลงมือฆ่าตัวตาย เพราะก่อนหน้าที่เขาจะลงมือ เขากลับคิดขึ้นมาได้ว่า
"ยังมีอีกหลายสิ่งมากมายที่เขาทำได้และต้องทำบนโลกใบนี้ เขาจะจากโลกนี้ไปง่ายๆ ได้อย่างไร"
เขาตัดสินใจลุกขึ้นมา "แต่งเพลง" อีกครั้ง
แต่งเพลง ทั้งๆ ที่ไม่ได้ยินเสียงเพลงที่ตัวเองแต่ง
ความรู้สึกในเวลานั้นของเขา คงยากที่ใครจะจินตนาการได้
เขาจะต้องเผชิญกับเสียงในหัวของตัวเองมากขนาดไหน จะมีสักกี่คำว่า "เป็นไปไม่ได้" ที่ดังก้องอยู่ในใจเขา
เขาจะต้องเผชิญกับความรู้สึกของคนรอบข้างที่เต็มไปด้วยความห่วงใย พร้อมกับคำว่า "เป็นไปไม่ได้" มากขนาดไหน
แต่เขาไม่ยอมย่อท้อ เขาไม่หยุด เขาไม่ถอย เขาไม่เปลี่ยนเส้นทาง เขาเลือกมุ่งหน้าต่อไป แม้ใครๆ จะคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้
แล้วในที่สุดเขาก็ได้พิสูจน์ให้โลกนี้เห็นว่า
"คนหูหนวกก็สามารถแต่งเพลงได้ และไม่ใช่บทเพลงธรรมดา เพราะบทเพลงนั้นได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในบทเพลงที่ไพเราะที่สุดในโลกตลอดกาล"
บทเพลงนั้นชื่อว่า "ซิมโฟนีหมายเลข 9 (the Ninth Symphony)"
และนั่นทำให้ชื่อของผู้ชายคนนี้ ได้รับการยกย่องให้เป็น "หนึ่งในนักประพันธ์เพลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกตลอดกาล"
ชายคนนี้ชื่อ Ludvig van Beethoven หรือที่คนไทยเรียกกันว่า บีโธเฟน นั่นเอง
#เรื่องราวนี้สอนให้เรารู้ว่า
วันนี้เราอาจรู้สึกว่าการสูญเสียที่เราเผชิญหน้าอยู่ มันร้ายแรงเกินกว่าที่เราจะมีชีวิตต่อไปได้ เราอาจกำลังรู้สึกว่า เราเป็นคนไร้ค่า ไม่มีคุณค่า ไม่มีประโยชน์อะไรกับโลกนี้ หรือแม้แต่กับใครสักคน
แน่นอนว่าเรารู้สึกเจ็บปวด และคงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเอาความเจ็บปวดของเราไปเปรียบเทียบกับของคนอื่น
บีโธเฟนเองก็คงเคยรู้สึกเจ็บปวดเหมือนกับเรา เจ็บปวดจนเขาตัดสินใจฆ่าตัวตายไปแล้ว
แต่เพราะเขาคิดขึ้นมาได้ว่า ยังมีอีกหลายสิ่งมากมาย ที่เขายังทำได้ และเขายังไม่ได้ทำ เขาจึงตัดสินใจทำมันเสียก่อนที่จะลาจากโลกนี้ไป
ผมเชื่อว่าเขาไม่ได้มีทัศนคติที่ดีกว่าเรา หรือมองโลกบวกกว่าเรา หรือเขาเก่งกว่าเรา หรือเขามีฝันที่ยิ่งใหญ่กว่าเรา
เขาแค่มองเห็นประกายคุณค่าในตัวเองที่ยังเหลืออยู่ในมุมมืดของชีวิต และเขาเลือกที่จะใช้ชีวิตกับประกายแสงริบหรี่นั้น
แล้วเขาก็ได้พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่า คุณค่าในชีวิตของชายที่ชื่อบีโธเฟน ไม่ได้มาจากหูที่หนวกไป แต่มาจากหัวใจที่ลุกขึ้นยืนหยัดต่อสู้แม้แทบไม่เหลือความหวังอะไรในชีวิต
คุณค่าในตัวเองที่เราทุกคนก็สร้างมันขึ้นมาได้เหมือนกัน
#โค้ชความคิด #โค้ชกาย #ฐิติกรพูลภัทรชีวิน
ติดตามเรื่องราวดีๆ จากชีวิตคนสำเร็จทั่วทุกมุมโลกในทุกยุคทุกสมัยได้ที่เพจนี้ อย่าลืมกดไลค์เพจเพื่อติดตามกันไว้นะครับ และอย่ารู้สึกเกรงใจที่จะกดแชร์ออกไปให้เพื่อนๆ ของเราได้อ่านด้วย
สำหรับคนที่อยากพูดคุยใกล้ชิดกันมากขึ้น สามารถเข้าร่วมกลุ่มแล้วเข้าไปพูดคุยกันในกลุ่มได้นะครับ คลิ๊กเข้าร่วมกลุ่มเลย https://www.facebook.com/groups/227843851136853/
- 2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
