12 ม.ค. 2021 เวลา 01:30 • ธุรกิจ
จากเด็กต่างจังหวัดธรรมดา ฐานะทางบ้านไม่ดี สู่ผู้วางรากฐานให้วงการสตาร์ทอัพไทย
วันนี้ Career Fact จะพาทุกคนมาสำรวจเส้นทางล้มลุกคลุกคลานก่อนจะขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อสตาร์ทอัพเมืองไทยของ ‘พี่กระทิง’ เรืองโรจน์ พูนผล ชายผู้เชื่อในพลังของวินัยและความมุ่งมั่น
3
#รู้จักกับพี่กระทิง
พี่กระทิง เรืองโรจน์ พูนผล เล่าให้ฟังว่าเขาได้ชื่อเล่นนี้มาเพราะตอนเด็กๆ ร่างกายไม่แข็งแรง คุณแม่จึงอยากให้โตมาแข็งแกร่ง ใจสู้ ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคเหมือนกับกระทิง เขาผ่านการทำงานในบริษัทชื่อดังมามากมายตั้งแต่ P&G, Google, Dtac รวมถึงเป็นผู้ก่อตั้ง Disrupt University โรงเรียนสอนสตาร์ทอัพและเป็นผู้จัดการกองทุน 500 Tuktuks ปัจจุบันพี่กระทิงดำรงตำแหน่งประธานบริษัท KASIKORN Business-Technology Group (KBTG) บริษัทหน่วยงานด้านเทคโนโลยีของกสิกร มีผลงานเด่นคือแอปพลิเคชั่น K-PLUS, KhungThong, Eatable, MAKE by KBank และ CU Nex เป็นต้น
8
#อุปสรรคมีมาตั้งแต่เกิด
9
เขาเกิดมาก็ต้องสู้เพื่อเอาชีวิตให้รอด เพราะคลอดผิดท่า และคลอดก่อนกำหนดด้วย ทำให้ตอนเด็กๆ ตัวเล็ก เลยโดนแกล้งจนต้องย้ายโรงเรียนอยู่บ่อยๆ
2
พี่กระทิงไม่เคยมีเพื่อนเลยจนกระทั่งขึ้นป.3 เพื่อนคนแรกของเขาคือคุณครูท่านหนึ่ง ที่เห็นว่าพี่กระทิงไม่มีเพื่อนจึงออกเงินซื้อข้าวกลางวันให้มาทานด้วยกัน คุณครูท่านนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขามีความมั่นใจขึ้นมาก เพราะคุณครูสังเกตเห็นข้อดีของเขา นั่นคือเป็นคนอ่านออกเสียงควบกล้ำชัด คุณครูจึงช่วยฝึกพี่กระทิงอ่านออกเสียงและพาไปประกวดอ่านร้อยแก้วจนได้ที่ 2 ของจังหวัด
4
“ถ้าเรามุ่งมั่นตั้งใจ แม้กระทั่งคนที่ดูไม่มีจุดแข็งอะไรเลยก็ประสบความสำเร็จได้ หน้าที่ของเราคือหาจุดขาวบนผ้าสีดำแล้วค่อยๆ ขยายมันขึ้นมา สร้างความมั่นใจแล้วไม่ท้อถอย”
5
#คุณพ่อให้อุดมการณ์ #คุณแม่ให้ความใจสู้
2
พี่กระทิงเริ่มสนใจในวิทยาศาสตร์เพราะมีนิสัยชอบอ่านหนังสือเหมือนคุณพ่อ หนังสือเล่มหนึ่งที่พี่กระทิงชอบมากในวัยเด็กคือ ‘สารานุกรมคนสำคัญของโลก’ เขาอ่านประวัติและเห็นภาพของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ แล้วมีความฝันอยากเป็นนักคิดที่ยิ่งใหญ่อย่างนั้นบ้าง และนั่นยังทำให้เขาอยากเก่งฟิสิกส์เหมือนนักวิทยาศาสตร์ชื่อก้องโลกคนนี้อีกด้วย
7
พี่กระทิงตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะต้องเป็นคนกำแพงเพชรคนแรกที่ได้เหรียญทองโอลิมปิกฟิสิกส์ระดับประเทศให้ได้ แน่นอนว่าเป้าหมายนี้ไม่ง่าย สิ่งแรกที่เขาต้องเอาชนะคือความรู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้เพราะคนส่วนใหญ่ปรามาสเขาไว้แบบนั้น โชคดีที่คนใกล้ชิดให้การสนับสนุนว่าเขาทำได้ ทำให้เขาตั้งใจทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าจะทำได้ไหม แต่ก็ยังมุ่งมั่นที่จะทำ
3
พี่กระทิงตื่นตีสี่มาอ่านหนังสือทุกวัน ต่อให้ไฟดับเขาก็จะควานหาเทียนมาจุด ที่ต้องทำขนาดนี้เพราะเขารู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนหัวดี ตอนเด็กๆ เขาเคยสอบได้ที่ 6 นับจากลำดับสุดท้ายเสียด้วยซ้ำ แต่เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ฉลาดก็ต้องใช้ความมุ่งมั่นและความพยายามเข้าสู้ พี่กระทิงบอกว่าทิศทางที่เขาเลือกมันเป็นสิ่งที่ถูกต้องอยู่แล้ว ต่อให้ทำไม่สำเร็จก็ไม่มีอะไรเสียหาย
3
สุดท้ายผ่านไป 6 ปี พี่กระทิงก็คว้าเหรียญทองโอลิมปิกฟิสิกส์ระดับประเทศมาได้สำเร็จ ทั้งยังพ่วงเหรียญทองแดงโอลิมปิกส์คณิตศาสตร์มาด้วย
8
พี่กระทิงยกความดีความชอบให้กับคุณแม่ที่ทำให้เขาเป็นคนมุ่งมั่นและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคขนาดนี้ เพราะครั้งหนึ่งคุณแม่เคยป่วยหนัก แต่บอกกับหมอว่ายังตายไม่ได้ เพราะเธอยังมีลูกเล็กต้องเลี้ยง
เหตุการณ์นี้เป็นจึงเป็นข้อเตือนใจของพี่กระทิงว่า ขนาดคุณแม่ยังสู้กับความตายได้ ถ้าอุปสรรคมันไม่หนักหนาสาหัสขนาดนั้นก็ต้องสู้กับมันให้ได้
1
#เรียนจบแล้วก็ยังไม่ราบรื่น
ตอนอยู่ม.5 พี่กระทิงสอบเทียบได้เข้าเรียนที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชฯ แต่สุดท้ายก็ลาออกเพราะไม่ชอบวิชาสายชีววิทยา เขากลับมาเรียนม.6 อีกครั้งแล้วเลือกเรียนต่อคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาคไฟฟ้า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
1
เขาเรียนจบมาทำงานที่แรกที่ P&G งานแรกที่เขาได้รับมอบหมายคือทำแชมพู ตอนนั้นเขายอมรับว่าตัวเองเริ่มมีความหยิ่งยโส ว่าตนจบถึงวิศวะ จุฬา เกียรตินิยมอันดับสอง เป็นถึงเด็กฟิสิกส์โอลิมปิก งานแค่นี้เขาทำได้อยู่แล้ว แต่สุดท้ายกลับทำไม่สำเร็จ โดยความผิดพลาดครั้งนั้นตีเป็นมูลค่าความเสียหายราว 3 ล้านบาท
เหตุการณ์นี้ทำให้เขาได้รับบทเรียนว่า ควรถ่อมตนอยู่เสมอ และอย่าประมาท โชคยังเข้าข้างที่เขาไม่โดนไล่ออกตั้งแต่ตอนนั้น ทำให้ได้มีโอกาสทำแผนกอื่นต่อ
1
แม้จะเรียนจบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศ มีหน้าที่การงานที่ดี แต่ชีวิตเขาก็ยังต้องเจอกับอุปสรรคเมื่อเขาตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโททางการตลาดหลักสูตรนานาชาติ (MIM) ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
1
อุปสรรคแรกคือการเดินทาง เพราะที่ทำงานและที่เรียนอยู่ห่างกันมาก เขาจึงต้องนั่งรถเมล์ ต่อด้วยเรือ และวิ่งเพื่อเข้าห้องเรียนให้ทันเวลาทุกวันที่มีเรียน เพราะมีข้อบังคับว่าสายแม้นาทีเดียวก็นับว่าขาดเรียน อุปสรรคที่สองคือพี่กระทิงไม่เก่งภาษาอังกฤษเลยแม้แต่น้อย แต่ต้องฟังอาจารย์ชาวต่างชาติสอนเป็นภาษาอังกฤษ พรีเซนท์งานก็ต้องเป็นภาษาอังกฤษ แต่สุดท้ายเขาก็บังคับตัวเองให้ทำสิ่งที่คิดว่าทำไม่ได้จนได้
2
#จงพาตัวเองไปอยู่ในที่ที่ทำให้เก่งขึ้น
8
“วันไหนที่คุณรู้สึกชิล วันนั้นคือ Bad Day เพราะคุณจะไม่ได้พัฒนาตัวเอง”
12
หลังจากเรียนจบปริญญาโท พี่กระทิงก็มาทำงานในฝ่ายขายและการตลาดของ P&G เขาประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานมาก เงินเดือนดี ได้โบนัส และทำยอดขายจนได้เป็น 1 ใน 2 ทีมในเอเชียที่ได้รับรางวัล CEO Stock Recognition Award จากสำนักงานใหญ่ แต่แทนที่เขาจะพอใจกับจุดที่ตัวเองอยู่ เขากลับรู้สึกอิ่มตัวและรู้สึกว่าไม่ได้พัฒนาตัวเอง ประจวบเหมาะกับตอนนั้นเป็นยุคที่ Internet เริ่มเข้ามา เขารับรู้เรื่องราวของ เจอร์รี่ หยาง และ เดวิด ไฟโล ผู้ก่อตั้ง Yahoo! กันสองคนในหอพักมหาวิทยาลัย Stanford แต่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ทำให้เขารู้สึกมีแรงบันดาลใจอยากไปเรียนที่นั่นบ้าง
5
ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่กระทิงแล้ว ก็คงไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ ภาษาอังกฤษเมื่อไม่ได้ใช้นานๆ ก็เลือนหายไปตามกาลเวลา เขาจึงต้องเริ่มกลับมาฝึกฝนตัวเองใหม่ด้วยการอ่าน Student Weekly ตั้งแต่หน้าปกยันปกหลัง จดจำศัพท์และสำนวนสละสลวยจาก Bangkok Post และฝึกสำเนียงการพูดด้วยการฟังข่าว BBC แล้วพูดตาม จนสามารถสอบ GMAT ได้ตามเป้าด้วยคะแนนสูงราว 730-750 จากคะแนนเต็ม 800 และสอบเข้า Stanford University ได้ตามที่หวัง
3
“ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ต่อให้คุณไม่ได้ยิ่งใหญ่มาจากไหน การที่คุณไม่ท้อถอยและมีวินัย นั่นคือพลังมหัศจรรย์ที่สุดที่คุณมี นั่นคือสิ่งที่ทำให้คุณมาไกลถึงขนาดนี้ได้ แต่คุณต้องใจเย็น มีความอดทน และให้อภัยตัวเองอยู่เสมอ วันนี้ทำไม่ได้ไม่เป็นไร แต่พรุ่งนี้ต้องทำได้ดีกว่าเดิม”
8
#หากวันใดรู้สึกหลงทางให้ย้อนกลับไปวันแรก
2
เมื่อเรียนจบปริญญาโท สิ่งที่พี่กระทิงต้องเจอคือความกดดันจากเพื่อนร่วมรุ่นที่มีแนวคิดว่าคนเก่งๆ ที่จบจาก MBA ต้องไปทำงานสายการเงินอย่าง Hedge Fund หรือ Consulting ทำให้เขาเกิดความลังเล เพราะงานก็มีความสนุกท้าทาย แถมรายได้ยังดีอีก
พี่กระทิงตัดสินใจโทรไปปรึกษาคุณแม่ ส่วนคุณแม่ถามกลับมาข้อหนึ่งว่า “เขาให้เขียนเหตุผลที่มาเรียนต่อไม่ใช่หรือ?” ทำให้พี่กระทิงนึกเป้าหมายเดิมของตัวเองขึ้นได้ ว่าสิ่งที่เขาต้องการคือสร้างการเปลี่ยนแปลง เหมือนกับคติประจำมหาวิทยาลัย Stanford ที่ว่า “Change lives. Change organizations. Change the world.”
3
ส่วนหนึ่งของ Statement of Purpose ของพี่กระทิงเขียนไว้ว่า
“I was born in poverty and inequality but I want to use technology and innovation to change that”
(ผมเกิดมาอยู่ท่ามกลางความยากจนและความเหลื่อมล้ำ ผมจึงอยากใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเปลี่ยนมัน)
7
#ชีวิตในSiliconValley
2
มีคำกล่าวว่า เมื่อคุณมาเหยียบที่ Silicon Valley คุณจะได้ใบอนุญาต 2 ใบ ใบแรกคือใบอนุญาตให้คุณล้มเหลวกี่ครั้งก็ได้ ใบที่สองคือใบอนุญาตให้คุณเปลี่ยนโลก
5
พี่กระทิงจึงตั้งมั่นว่าจะใช้ใบอนุญาตสองใบนั้นให้คุ้ม แล้วนำสิ่งที่ได้เรียนรู้จาก Silicon Valley กลับไปเปลี่ยนแปลงเมืองไทย เขาปฏิเสธทุกข้อเสนอ แม้กระทั่งจากบริษัทที่ให้เงินมากกว่า Google ถึง 40% เพื่อรอจดหมายตอบรับเข้างานจาก Google
อาจจะฟังดูเป็นการตัดสินใจที่ไม่ยากมาก เพราะ Google ก็เป็นบริษัทชื่อดังที่ใครๆ ก็รู้จัก แต่ตอนนั้นเขายังมีหนี้จากการกู้เงินเรียนอยู่ เพราะทุนจากมหาวิทยาลัยออกค่าเรียนให้แค่ครึ่งเดียว และกว่า Google จะตอบรับก็ใช้เวลานานถึง 6 เดือน ทำให้เมื่อมีจดหมายตอบรับส่งมา พี่กระทิงถึงกับกระโดดจนตัวลอย
2
โปรเจกต์หนึ่งที่เปลี่ยนชีวิตพี่กระทิงคือ การสร้างดวงจันทร์จำลองสามมิติร่วมกับ NASA เพื่อฉลองครบรอบ 40 ปีที่มนุษย์ไปเยือนดวงจันทร์สำเร็จเป็นครั้งแรก โดยพี่กระทิงได้รับมอบหมายให้เป็น Project Leader ของโปรเจกต์นี้ ความยากคือไม่สามารถเลื่อนเดดไลน์ได้ ต้องเปิดตัวในวันที่ฉลองครบรอบเท่านั้น ระหว่างทำโปรเจกต์นี้ก็เจอเหตุการณ์ที่ทำให้สะดุดมากมาย แต่ที่หนักสุดคือดวงจันทร์หายไปบางส่วนก่อนวันเปิดตัวเพียง 1 วัน ทำให้พี่กระทิงมีความคิดอยากยอมแพ้เป็นครั้งแรก แต่ก็เรียกสติกลับมาได้และเตือนตัวเองว่ายังมีเวลาอยู่ สุดท้าย พี่กระทิงทำทุกวิถีทางจนสุดท้ายก็ซ่อมดวงจันทร์จำลองสำเร็จ
3
เรียกได้ว่า Google พาพี่กระทิงไปอยู่ Stretch Zone ซึ่งเป็นจุดที่ต้องดึงศักยภาพทุกอย่างที่มีในตัวจริงๆ แม้กระทั่งตัวคุณในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของเมื่อวานก็ยังไม่พอ
2
#อะไรไม่มีก็สร้างมันขึ้นมา
1
หลังจากทำงานอยู่ใน Silicon Valley ราว 6-7 ปีพี่กระทิงก็กลับมาเมืองไทย โดยนอกจากจะเข้าทำงานที่ Dtac เขายังก่อตั้ง Disrupt University โรงเรียนสอนคนให้เป็นผู้ประกอบการสตาร์ทอัพขึ้นในปี 2555 เพราะต้องการให้เมืองไทยมีพื้นที่สำหรับสตาร์ทอัพเหมือนกับ Silicon Valley พี่กระทิงยืนสอนตั้งแต่เช้าถึงเย็นเป็นเวลานานหลายปีจนเมื่อปีที่แล้วโดนหมอสั่งห้ามไม่ให้ยืนนานๆ อีก
4
“ทุกความฝันที่ยิ่งใหญ่มีราคาที่ต้องจ่าย แต่ยิ่งใกล้ความฝันเท่าไหร่ โลกของคุณจะเปลี่ยน คุณจะดีใจที่ไม่ล้มเลิกไปก่อน”
2
ผ่านไป 1 ปีวงการสตาร์ทอัพไทยโตขึ้นมาอีกนิด แต่สิ่งที่พี่กระทิงสังเกตเห็นคือสตาร์ทอัพไทยขาดเงินทุนและแรง สนับสนุน แนวคิดหนึ่งของพี่กระทิงคือ “อะไรที่มันไม่มีก็สร้างมันขึ้นมา” พี่กระทิงจึงก่อตั้ง Dtac Accelerate โครงการบ่มเพาะผู้ประกอบการ และกองทุน 500 TukTuks ที่ลงทุนกับสตาร์ทอัพไปถึง 71 ตัว
2
#การศึกษาคือPassion
พี่กระทิงให้ความสำคัญกับการศึกษามากเพราะเขาประสบความเหลื่อมล้ำนั้นมาด้วยตัวเอง ตอนเรียนมัธยมห้องเรียนของเขาดัดแปลงมาจากเล้าหมูเล้าไก่ เพราะอย่างนั้น เขาจึงอยากให้เด็กที่ขาดโอกาสทางการศึกษาในไทยกว่า 4 ล้านคนเหมือนกับเขาในอดีตได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ พี่กระทิงจึงจับมือร่วมกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางด้านการศึกษาในการทำ Social Impact Venture ซึ่งจะลงทุนกับสตาร์ทอัพที่สร้างความเปลี่ยนแปลงกับสังคมจริงๆ
5
#KBTG
1
ปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยติด 1 ใน 20 ธนาคารที่ดีที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งสาเหตุที่ติดอันดับก็เป็นเพราะกสิกรไทยสร้างความแตกต่างให้ตัวเองผ่านการมีอยู่ของ KBTG เป้าหมายหลักของ KBTG ในตอนนี้จึงเป็นการ Transform กสิกรไทยให้เป็นอันดับ 1 ระดับภูมิภาคให้ได้
แต่พี่กระทิงยังไม่อยากหยุดแค่นั้นเมื่อเห็นว่าธนาคารดิจิทัลอันดับ 1 ของโลกคือธนาคาร DBS ของสิงคโปร์ จากประสบการณ์การทำงานทั้งใน Silicon Valley และ KBTG ทำให้เขามีโอกาสเจอคนไทยเก่งๆ และมีศักยภาพมากมาย สิ่งที่ขาดมีเพียงเวทีที่ได้แสดงความสามารถให้คนอื่นเห็น สำหรับพี่กระทิง เขาเชื่อว่าถ้าสิงคโปร์ทำได้ คนไทยก็ต้องทำได้
1
#ไม่เคยหมดหวังกับประเทศไทย
คนไทยผ่านวิฤตเศรษฐกิจมาหลายครั้ง ทั้งวิกฤติต้มยำกุ้งและแฮมเบอร์เกอร์ แต่ก็กลับมาอย่างแข็งแกร่งได้ทุกครั้ง เพราะหลังวิกฤติจะมีโอกาสที่ใหญ่กว่าอยู่เสมอ และคนจะเติบโตอย่างยิ่งใหญ่ได้ก็ต้องเจอกับวิกฤตที่บังคับให้เขาดึงศักยภาพตัวเองออกมา
1
พี่กระทิงเชื่อว่าบางครั้งเราก็ต้องหัดมองโลกในแง่ดี และวาดฝันที่สวยงามเอาไว้บ้าง เพราะแม้สิบปีที่ผ่านมาของประเทศไทยจะขึ้นชื่อว่าเป็นทศวรรษที่สูญหาย แต่อนาคตนั้นสร้างขี้นใหม่ได้เสมอ เขาเชื่อและหวังว่าอีกสิบปีข้างหน้าจะสามารถทำให้ประเทศไทยกลายเป็นทศวรรษแห่งความหวัง แห่งการเปลี่ยนแปลงและแรงบันดาลใจได้
3
“ฝันให้สูง สู้ให้สุด อย่ายอมแพ้ และจงมีวินัยในทุกๆ วันของชีวิต” พี่กระทิงกล่าวทิ้งท้าย
1
“Career Fact เพราะทุกอาชีพมีเรื่องราว”
#careerfact
………………
สามารถติดตามเรื่องราวดีๆ ต่อได้ที่ Career Fact เพราะทุกอาชีพ... มีเรื่องราว (อย่าลืมกด See First เพื่อไม่ให้พลาดคอนเท้นท์ดีๆ)
โฆษณา