12 ม.ค. 2021 เวลา 07:45 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
หนังทำเงินในอเมริกาเหนือหลังปีใหม่ Wonder Woman 1984 ยังไปได้สวย
จากรายงานของวาไรตี หนัง Wonder Woman 1984 ยังคงยืนหนึ่งในบ็อกซ์ออฟฟิศ ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกันแล้ว โดยปราศาจากคู่แข่ง หนังทำเงินไปอีก 3 ล้านเหรียญ จากวันศุกร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้รายได้รวมในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาขยับไปเป็น 32.6 ล้านเหรียญ สำหรับตลาดต่างประเทศ หนังทำเงินได้อีก 4.7 ล้านเหรียญ ทำให้รายได้รวมนอกอเมริกาเหนือเพิ่มเป็น 98.8 ล้านเหรียญแล้วในตอนนี้
ด้วยรายได้รวมทั่วโลก 131 ล้านเหรียญ หนัง Wonder Woman ภาคต่อถือว่าทำได้ดีกว่าบรรดาหนังที่ออกฉายในช่วงโรคระบาดครับ แต่ก็ยังไม่คุ้มทันสร้างของหนังที่ลงไปถึง 200 ล้านเหรียญอยู่ดี ด้วยตัวเลขในปัจจุบัน ถือว่าหนังซูเปอร์ฮีโรของกัล กาด็อทยังทำให้สตูดิโอต้องสูญเงิน แต่ทางวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ก็ประกาศเปิดไฟเขียวให้กับหนังภาคสามเรียบร้อยแล้ว โดยกาด็อทและผู้กำกับแพ็ตตี เจนคินส์ จะกลับมาทำหน้าที่เดิม
Wonder Woman 1984 เปิดตัวในอเมริกาเหนือทั้งในโรงภาพยนตร์และทางเอชบีโอแม็กซ์พร้อมๆ เพื่อที่จะกระตุ้นยอดสมัครใช้บริการของสตรีมิงรายนี้ด้วย แต่ยังไม่มีรายงานว่า มีผู้ใช้งานเอชบีโอแม็กซ์ดูหนังเรื่องนี้กันกี่ครั้ง ถึงทางเอชบีโอแม็กซ์จะมีการรายงานสถิติผู้ชมเป็นปกติก็ตามที หนังจะมีให้ชมทางสตรีมิงอีกสองสัปดาห์นับจากนี้ ก่อนที่จะชมได้เพียงในโรงภาพยนตร์อย่างเดียว ไปจนจบกรอบการฉายในโรงตามปกติ แล้วกลับมาให้ชมในบริการสตรีมิงอีกครั้ง
ที่เป็นเรื่องเซอร์ไพรส์สำหรับหนังก็คือ ในแคนาดา ที่มีโรงภาพยนตร์เปิดให้บริการเพียง 5% และเอชบีโอแม็กซ์ ยังไม่เปิดให้บริการที่นั่น วอร์เนอร์ฯ เลยเลือกเปิดหนังในโรงที่พร้อมให้บริการ และบริการหนังตามสั่งแบบพรีเมียมไปพร้อมๆ กัน ซึ่งหากเป็นในช่วงก่อนโรคระบาด เป็นกลยุทธที่ทางบรรดาโรงภาพยนตร์คงไม่ยอมแน่ๆ แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้น ทางสตูดิโอยังเปิดเผยตัวเลขที่บรรดาสตูดิโอในฮอลลีวูดไม่ยอมแจงออกมา นั่นก็คือรายได้จากหนังตามสั่งแบบพรีเมียม โดยหนังทำรายได้จากข่องทางนี้ในแคนาไปถึง 7.2 ล้านเหรียญ จากผู้ให้บริการออนไลน์อย่าง ไอทูนส์ และแอมะซอน
มาดูแอนิเมชันของพิกซาร์และดิสนีย์ Soul ที่ไม่เข้าโรงฉายในอเมริกาเหนือกันบ้างครับ เพราะหนังจะมีให้ชมในดิสนีย์พลัส ทำให้มีแตาตัวเลขรายได้จากตลาดต่างประเทศ หนังทำรายได้อย่างน่าทึ่ง 8.9 ล้านเหรียญ จาก 11 ประเทศ ทำให้รายได้นอกอเมริกาในตอนนี้ขยับเป็น 47.3 ล้านเหรียญ โดยรายได้หลักๆ ก็มาจากจีน เมื่อทำเงินให้ Soul ไปถึง 36 ล้านเหรียญ กลายเป็นหนังพิกซาร์ทำเงินมากสุดในจีนเป็นอันดับ 4 และน่าจะแซงหน้า Finding Dory ในอันดับ 3 ที่ทำเงินไป 38.4 ล้านเหรียญได้ในอีกไม่ช้า ส่วนอันดับ 1 และ 2 เป็น Coco กับ Incredibles 2
กลับมาดูในอเมริกาเหนือกันต่อ สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังไม่มีหนังใหม่เปิดตัวในวงกว้างครับ อันดับของหนังเลยยังทรงๆ อันดับ 2 เป็นแอนิเมชันดรีมเวิร์คส์/ ยูนิเวอร์แซล The Croods: A New Age ทำรายได้อีก 1.8 ล้านเหรียญในสัปดาห์ที่เจ็ดของการฉาย รายได้รวมในอเมริกาเหนืออยู่ที่ 36.8 ล้านเหรียญ ส่วนตลาดนอกอเมริกา The Croods ทำเงินผ่าน 90 ล้านเหรียญไปแล้ว หลังได้เงินเพิ่มมาอีก 5.1 ล้านเหรียญจาก 17 ประเทศ รายได้รวมทั่วโลกถือว่าทำได้ดีในยุคนี้ 127 ล้านเหรียญครับ ตอนนี้หนังลงตลาดหนังตามสั่งแบบพรีเมียมเรียบร้อยแล้วในสหรัฐฯ ตามข้อตกลงที่ยูนิเวอร์แซลทำกับบรรดาเครือโรงหนังใหญ่ ที่ให้สตูดิโอสามารถปล่อยหนังใหม่ๆ ลงตลาดดิจิตัลได้หลังจากเปิดตัวฉายในโรงไปเพียง 17 วัน และทางโรงภพายนตร์จะได้ส่วนแบ่งจากผลกำไรในตลาดกลับมา รวมไปถึงจะได้มีหนังใหม่ๆ ทะยอยฉายเรื่อยๆ
หนังอีกเรื่องของยูนิเวอร์แซล News of the World อยู่่ในอันดับสาม ด้วยรายได้ 1.2 ล้านเหรียญ หนังดรามา-ตะวันตกของทอม แฮงค์ส เรื่องนี้กำกับโดยพอล กรีนกราสส์ เปิดตัวมาตั้งแต่ช่วงคริสต์มาส และเก็บเงินมาถึงตอนนี้ 7 ล้านเหรียญ โดยในตลาดต่างประเทศเป็นสิทธิในการจัดจำหน่ายของเน็ตฟลิกซ์
หนังแอ็คชัน, แฟนตาซี ของโซนี Monster Hunter ทำรายได้อีก 1.1 ล้านเหรียญ ซึ่งมากพอที่จะทำให้หนังเกาะอยู่ในอันดับที่ 4 หลังฉายมาแล้วหนึ่งเดือน หนังสร้างจากวิดีโอเกมของมิลลา โจโววิชเรื่องนี้ ทำเงินไปแล้ว 7.8 ล้านเหรียญ ส่วน Fatale หนังระทึกขวัญจิตวิทยาของฮิลลารี สแวงค์ และไมเคิล อีลี ยังไม่หลุดจากท็อปไฟว์ หนังทำเงินไป 670,000 เหรียญจากการฉายในสัปดาห์ที่สี่ รายได้รวมอยู่ที่ 4 ล้านเหรียญ
หนังระทึกขวัญล้างแค้นของโฟกัส ฟีเฌอร์ส Promising Young Woman ทำรายได้ไป 560,000 เหรียญตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พาตัวเองมาอยู่ในอันดับ 6 รายได้รวมเป็น 2.7 ล้านเหรียญ หนังของผู้กำกับเอเมอราลดฺ เฟนเนลล์ ที่นำแสดงโดยแคร์รีย์ มุลลิแกนเรื่องนี้ ก็เหมือนๆ กัน The Croods ภาคสองและ News of the World ที่อยู่ในสัญญาของยูนิเวอร์แซลกับโรงภาพยนตร์ หนังจะลงตลาดหนังตามสั่งแบบพรีเมียม 15 มกราคมนี้
ในภาพรวมสถานการณ์ของธุรกิจภาพยนตร์ในอเมริกาเหนือยังไม่ดีนัก มีโรงภาพยนตร์เปิดให้บริการเพียง 35% เท่านั้น
อ่านแล้วชอบ อย่าลืมกดติดตาม และยังมีเรื่องราวมากมายให้อ่านได้ที่ www.sadaos.com และทำความรู้จักกันได้มากกว่านี้ด้วยการกดไลค์เพจ www.facebook.com/Sadaos

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา