15 ม.ค. 2021 เวลา 17:08 • ท่องเที่ยว
สวัสดีค่ะทุกท่าน จูต้องขอขอบพระคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาในบล็อค Juu’s Journey หรืออาจจะเป็นแค่โพสต์ผ่านๆตาของทุกคนนะคะ วันนี้จูจะมาเล่าเรื่องราวย้อนอดีตเมื่อตอนจูไปเที่ยวไต้หวันมาค่ะ
ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดจูคงต้องบอกก่อนว่าซีรี่ย์ Juu’s Journey In Taiwan EP.6 จะเป็นอีพีสุดท้ายของซีรี่ย์นี้แล้วนะคะ ซึ่งที่จูเล่าเรื่องราวจนมาถึงตอนนี้แล้ว จูยินดีเป็นอย่างมากที่จะให้ทุกคนสามารถคอมเม้นแนะนำให้จูนำไปแก้ไขในเรื่องราวหน้าได้นะคะ
ไม่พร่ำเพ้อมากมายเรามาเดินทางย้อนเวลาไปเที่ยวกับจูที่ไต้หวันกันดีกว่าค่ะ 😊
Juu’s Journey In Taiwan EP.6
หลังจากอรุณสวัสดิ์ตอนเช้าก็ได้มีโอกาสทำความรู้จักกับรูมเมทอย่างเป็นจริงเป็นจังสักที ก็ได้ความมาว่านางอายุ 26 ปี และเป็นคนชาวจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ที่มาไต้หวันเพราะมาท่องเที่ยวคนเดียวก่อนจะไปหาแฟนของนางที่ไทเป ซึ่งเราก็เอ้ะ !
จู: ยูๆ ไอก็เช็คเอ้าท์โรงแรมวันนี้นะ และไอจะบินกลับไทยวันนี้แล้วด้วย แต่ไฟล์บินของไอดึกมากเลย
เพื่อนคนจีน: เห้ยย งั้นวันนี้ตอนกลางวันยูก็ว่างใช่ป่าว? เราไปหาอะไรทานแล้วเดินเล่นกันก่อนดีไหม
จู: เอาสิเอา ไหนๆก็อยู่ไต้หวันวันสุดท้ายแล้ว เราไปเที่ยวกันหน่อยก็ดีนะ
หลังจากจบคอนเวอร์เซชั่นแล้วนางก็สวมบทบาทเป็นพี่สาวคนสวยที่คอยปกป้องจูจากทุกสรรพสิ่ง ไม่ว่าจะเดินกลางร่มให้ เลี้ยงข้าว เคลียร์ปัญหากับชาวไต้หวันให้ จนสุดท้ายแล้วเราก็ตกลงกันที่จะไปดูหนัง (เพราะนางได้ตั๋วหนังฟรีมา ตอนแรกจะเก็บไว้ดูกับแฟนแต่ฉันสำคัญกว่า ยะฮู้)
นั่นแหละค่ะ เอาง่ายๆก็คือจูไปแย่งชิงตั๋วหนังฟรีของแฟนนางเพื่อมาดูกับนาง ถือว่าเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ผ่านไปด้วยเกือบดี เพราะอะไรหน่ะหรอ? เพราะนางเลือกหนังผี แม่เจ้า นอกจากไอนี่จะฟังไม่ออกแล้วต้องเน้นดูเพื่อจินตนาการถึงเนื้อเรื่องแล้ว ฉากตุ้งแฉก็ช่างสรรหามาเยอะเหลือหลาย เล่นเอาซะจูแอบคิดว่าจะแกล้งๆหลับไปเลยแต่พอฉากตุ้งแฉมาเมื่อไหร่อินี่ก็กรี๊ดก่อนชาวบ้านเขาอยู่ดี 😂
เซลฟีกันก่อนที่จะกลัวจนหัวหดค่ะทุกคน
นั่นแหละค่ะทุกท่าน หนังผีสานความสัมพันธ์ได้แท้จริง อยู่ๆเราก็ซี้กันแบบแทบจะแยกจากกันไม่ได้ มันเป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆและจูเองก็รู้สึกว่าแต้มบุญที่เหลือในครั้งนี่มันคุ้มค่าซ๊ะเหลือเกิน เราได้แลกเปลี่ยนไอจีแล้วก็พากันไปทานข้าวก่อนที่จูจะกลับ และแน่นอนค่ะ บทบาทพี่สาวสุดสวยจะยังไม่จบถ้ายังมีนังจูอยู่ตรงนี้ 😂 (น่าจะเรียกว่าภาระง่ายกว่า)
เอาเป็นว่าข้าวมื้อสุดท้ายนางเป็นคนเลี้ยงอีกเช่นเคย (เป็นมื้อที่กินไปร้องไป ฮื่ออ) หลังจากทานอาหารกันเสร็จแล้วก็เกือบจะ 3 โมง นางก็เดินไปส่งจูที่โรงแรมเพื่อเอากระเป๋าที่ฝากไว้ รวมถึงนางเรียกแท็กซี่ จ่ายเงิน และสั่งแท็กซี่เรียบร้อยว่าต้องพาน้อนไปถึงสนามบินให้ได้ 😭😭
จู: เทอใจดีมากเกินไปแล้วนะ ถ้าเราไม่ได้เธอวันนี้คงกลายเป็นวันหน้าเบื่ออีกวันสำหรับเรา ขอบคุณสำหรับทุกอย่างมากเลยนะ ขอบคุณที่เลี้ยง ที่พาเที่ยว ที่พาไปดูหนังสนุกๆ แล้วยังจะเรียกแท็กซี่ให้ไปสนามบินอีก เรารู้สึกโชคดีมากๆที่ได้มาเจอเทอจริงๆ
เพื่อนคนจีน: โธ่เทออย่าพูดแบบนั้นเลย เธอจะทำฉันร้องไห้แล้วนะ ไว้เราเจอกันที่ไทยถ้ามีโอกาสอีกนะ โชคดีนะเธอ ถึงสนามบินแล้วไดเรกบอกฉันด้วยนะ
จากนั้นเราก็กอดจากลากันหน้าโรงแรม แน่นอนค่ะเมื่อเข้ามานั่งในรถแท็กซี่นังจูก็ร้องไห้ฟูมฟายจะเป็นจะตาย ไม่สนคุณลุงผู้ขับรถใดๆทั้งสิ้น คิดในใจว่ายังไงลุงก็ได้เจอหนูเป็นวันสุดท้ายหล่ะน่ะ 😛
เมื่อมาถึงสนามบินเราก็รีบรายงานพี่สาวคนสวยทันทีและเตรียมพร้อมที่จะบินกลับคืนสู่ประเทศไทยในค่ำคืนนี้ ทุกท่านน่าจะทราบดีว่าเราต้องเข้าเช็คอินก่อนเครื่องออก 1 ชม. แต่ด้วยความที่เราไม่มีที่จะไปจึงเข้าไปเช็คอินก่อนและเดินเล่นภายในสนามบินพลางๆไปก่อนรอเวลาขึ้นเครื่อง
แล้วคือบั่บว่าา ขอแต่ละชิ้นนี่นังจูไม่กล้าแม้แต่จะแตะต้อง ค่าเสียหายน่าจะสาหัสเอาเรื่อง แต่ก็ยังคงปั่นหน้าเดินเข้าบูธโน้นบูธนี้แบบสวยๆ (ก็ฉันเบื่อ)
เมื่อได้เวลาขึ้นเครื่องเราเองกลับน้ำตาตกอีกรอบและรู้สึกว่าตัวเองแต้มบุญเยอะเหลือเกิน ถึงแม้แต้มบุญจะมาแบบขาดๆหายๆบ้าง อาจจะเพราะระยะทางที่ไกลและมีสัญญาณรบกวนแต่อย่างน้อยวันนี้ก็กลายเป็นวันที่ดีที่สุดในไต้หวันแล้ว
นั่งคิดนั่งยิ้มคนเดียวรู้ตัวอีกทีก็อยู่บนเครื่อง อย่างที่บอกค่ะ แต้มบุญส่งมาไม่ถึง เราได้ที่นั่ง E ซึ่งจะเป็นที่นั่งขั้นกลางระหว่างที่นั่ง D และ F
ขอให้ทุกท่านนึกภาพให้ดีๆนะคะทุกคน นอกจากนั้นข้างๆนังจูคือเป็นชาวจีนทั้งคู่ ไม่รู้จักกัน แต่ดันนนน มาสานความสัมพันธ์กันเหมือนอิชั้นไร้ตัวตนอะคะ ได้แต่บอกตัวเองว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงเราก็จะคืนสู่ไทยแลนด์แล้วอดทนนะลูกน้าาา
แต่หารู้ไม่ว่ามันคืออีกไม่กี่ชั่วโมงที่ยาวที่สุดในชีวิตของนังนี่แล้วว 😖
สุดท้ายแล้วจูอยากจะบอกว่า
เรื่องราวที่เราพบเจอ เรื่องราวที่มีทั้งดีและแย่
ทุกเรื่องราวเราเป็นคนออกแบบมันเอง
และไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องราวที่ดีหรือแย่ สุดท้ายแล้วมันจะกลายเป็นสิ่งสวยงามและมีคุณค่าอยู่ภายในจิตใจของเราไปตราบนานเท่านาน
การเที่ยวคนเดียวครั้งนี้ของจูได้สอนบทเรียนที่จูไม่สามารถหาอ่านหรือหาซื้อที่ไหนได้อีกแล้ว มันกลายเป็นบทเรียนที่ทำให้จูโตขึ้นและมองโลกได้กว้างขึ้นกว่าเดิม และสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงจูไปตลอดการคือ
‘การท่องเที่ยวคนเดียวไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด’
แล้วพบกันใหม่ใน จู เจอร์นี่ ซีรี่ย์หน้านะคะ ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาติดตาม ทุกท่านสามารถเม้นแนะนำได้ตามอัธยาศัยและจูจะนำไปปรับปรุงแก้ไขค่ะ สำหรับวันนี้ขอให้ทุกท่านโชคดีและมีแต้มบุญกันเยอะๆนะคะ
จู เจอร์นี่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา