Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หนังสือสนทนากับพระเจ้า
•
ติดตาม
14 ม.ค. 2021 เวลา 03:09 • หนังสือ
#27 เล่ม 1 บทที่ 4 หน้า 141 ~ 149
N : วิ้ว! พระองค์จุดประกายผม!
G : ถ้าพระเจ้าจุดประกายเธอไม่ได้แล้วผีนรกที่ไหนจะทำได้ล่ะ?
1
N : พระองค์ชอบพูดเล่นอย่างนี้เรื่อยรึเปล่าเนี่ย?
G : ฉันไม่ได้พูดเล่นนะ ฉันหมายความตามนั้นจริงๆ ลองอ่านดูใหม่สิ
N : โอ ผมเข้าใจล่ะ
G : ใช่แล้ว แต่ถึงแม้ฉันจะพูดเล่นบ้างก็ไม่เป็นไรไม่ใช่เหรอ?
N : ไม่รู้สินะ ผมเคยชินแต่พระเจ้าที่ดูจริงจังกว่านี้น่ะ
G : อืม...ขออะไรหน่อยได้ไหม อย่าจำกัดฉันเลยนะแล้วก็ทำอย่างนั้นกับตัวเองด้วย
1
ก็แค่ฉันเป็นคนมีอารมณ์ขันเยอะเท่านั้นเอง
เธอเองก็ต้องมีแหละ ถ้าได้เห็นว่าเธอทำอะไรลงไปกับชีวิตของตัวเองบ้าง? ...หมายความว่าบางทีฉันก็ได้แต่หัวเราะกับมัน
1
แต่ไม่เป็นไรหรอก เพราะเธอเห็นไหมล่ะว่าฉันรู้ว่า "ทุกอย่างจะออกมาดีในท้ายที่สุด"
1
N : หมายความว่าไงครับ?
G : หมายความว่า..."เธอไม่มีวันแพ้ในเกมส์นี้น่ะสิ" เธอไม่อาจไปผิดทางได้ มันไม่ใช่ส่วนหนึ่งของแผนการนี้ ไม่มีทางเลยที่จะไปไม่ถึงในที่ที่เธอกำลังจะไป ไม่มีทางที่เธอจะพลาดจุดหมายไปได้
2
หากพระเจ้าคือจุดหมายของเธอแล้วล่ะก็ เธอโชคดีแล้วล่ะ เพราะพระเจ้าใหญ่โตมากจนเธอไม่มีทางพลาดเป้าได้
2
N : นั่นล่ะที่เป็นความกังวลข้อใหญ่ ความวิตกกังวลนั้นก็คือ ไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตามเราได้ทำผิดพลาดจนไม่อาจได้พบหรืออยู่ร่วมกับพระองค์
G : หมายถึงไม่ได้ไปสวรรค์น่ะหรือ?
N : ครับ เราทุกคนกลัวตกนรกกันทั้งนั้นล่ะ
G : เธอจึงเริ่มพาตัวเองไปที่นั่นเพื่อจะได้ไม่ต้องไปที่นั่น อืม...เป็นยุทธวิธีที่น่าสนใจ
N : นั่นไงล่ะ พูดเล่นอีกละ
G : ช่วยไม่ได้ ก็เรื่องนรกๆนี่ดึงส่วนที่แย่ที่สุดของฉันออกมาเอง
N : ให้ตายเหอะ พระองค์ทำตลกอยู่เรื่อย
G : ใช้เวลานานขนาดนี้เลยเหรอกว่าจะรู้ว่าฉันเป็นอย่างนี้น่ะ ที่ผ่านมาดูโลกบ้างหรือยังล่ะ
N : นี่นำผมไปสู่อีกคำถามหนึ่ง ทำไมพระองค์ไม่แก้ไขโลกนี้ให้มันเข้าที่เข้าทางล่ะ แทนที่จะปล่อยให้มันตกนรกไปอย่างนี้?
G : แล้วทำไมเธอไม่ทำล่ะ?
N : ผมไม่มีอำนาจนั้น
G : ไร้สาระน่า! ตอนนี้เธอ "มีอำนาจและความสามารถที่จะยุติความอดอยากในโลกได้ตั้งแต่วินาทีนี้และเริ่มรักษาโรคร้ายต่างๆได้ทันที"
จะเป็นอย่างไรถ้าฉันบอกเธอว่า...การแพทย์ของพวกเธอนั่นเองที่ `เหนี่ยวรั้ง`การรักษาไว้ไม่ยอมรับรองการรักษาและกระบวนการแพทย์ทางเลือก เพราะมันไปสั่นคลอนโครงสร้างวิชาชีพ "ผู้บำบัด" เข้าให้
1
จะเป็นอย่างไรถ้าฉันบอกเธอว่า...รัฐบาลของประเทศต่างๆ `ไม่อยาก` ยุติความอดอยากหรอก
เธอจะเชื่อฉันไหมล่ะ?
N : เป็นเรื่องยากที่ผมจะยอมรับได้ ผมรู้ว่ามันเป็นทัศนะของคนจำนวนมากในสังคม แต่ก็ไม่อยากเชื่อว่ามันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ คงไม่มีหมอคนไหนปฏิเสธการรักษา ไม่มีผู้นำคนไหนอยากเห็นประชาชนในชาติของตนอดตายหรอก
G : ก็ใช่...ไม่มีแพทย์คนไหนในเชิงปัจเจก ก็ถูก...ไม่มีผู้นำคนใดเป็นการเฉพาะ การแพทย์และการเมืองถูกทำให้เป็นสถาบัน และสถาบันดังกล่าวก็ต่อสู้กับสิ่งที่ว่านี้ บางครั้งมันลึกซึ้งมาก บางทีก็เป็นไปแบบไม่รู้ตัว แต่ก็เลี่ยงไม่พ้นอยู่ดี เพราะสำหรับสถาบันพวกนั้นมันคือ`ความอยู่รอด`
ฉันจะยกตัวอย่างที่ง่ายและเห็นชัดอันหนึ่งคือ แพทย์ตะวันตกปฏิเสธความสามารถในการรักษาโรคของแพทย์ตะวันออก เพราะการยอมรับแพทย์ตะวันออก รวมทั้งวิธีบำบัดแบบทางเลือกว่าอาจบำบัดรักษาโรคบางอย่างได้ จะเป็นการฉีกทำลายโครงสร้างที่ก่อร่างสถาบันนี้ขึ้นมา
นี่ไม่ใช่เพราะเจตนาร้ายแต่เป็นลักษณะแฝงเร้น วิชาชีพแพทย์ไม่ได้ทำอย่างนั้นเพราะตนชั่วร้ายแต่เพราะตน "รู้สึกกลัว"
3
🔹การโจมตีทุกชนิดคือสัญญาณร้องขอความช่วยเหลือ🔹
2
N : ผมเคยอ่านเจอในหนังสือ A Course in Miracles
G : ฉันใส่เข้าไปเองแหละ
N : โอ...พระองค์มีคำตอบสำหรับทุกอย่างเลยนะ
G : นี่ทำให้ฉันนึกขึ้นได้ว่าเราเพิ่งจะเริ่มเข้าสู่คำถามของเธอเอง เรากำลังคุยกันว่า ทำอย่างไรชีวิตเธอถึงจะเข้ารูปเข้ารอยเพื่อจะ "โงหัวขึ้น" มาได้ และฉันกำลังพูดเรื่อง "กระบวนการการสร้างสรรค์" อยู่
N : ครับ และผมก็คอยขัดจังหวะอยู่เรื่อยๆ
G : ไม่เป็นไร แต่ว่าเรากลับเข้าเรื่องดีกว่า เพราะไม่อยากให้เสียความต่อเนื่องในเรื่องสำคัญมากๆไป
🔸ชีวิตคือการสร้างสรรค์ไม่ใช่การค้นหา🔸
1
เธอไม่ได้มีชีวิตในแต่ละวันเพื่อจะ`ค้นหา`ว่าชีวิตมีอะไรให้เธอบ้างแต่เพื่อจะ`สร้างสรรค์`มันขึ้นมา
2
เธอกำลังสร้างความจริงของตนอยู่ทุกขณะนาทีโดยอาจไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ
2
นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น...และเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร
(1) ฉันได้สร้างเธอตามฉายาลักษณ์ของพระเจ้า
1
(2) พระเจ้าคือผู้สร้าง
(3) เธอคือสิ่งมีชีวิตสามแบบในหนึ่งเดียว เธอจะเรียกสามคุณลักษณ์แห่งการดำรงอยู่นี้อย่างไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น :
พระบิดา พระบุตร พระวิญญาณบริสุทธิ์ /จิต กาย วิญญาณ /
จิตเหนือสำนึก จิตสำนึก จิตใต้สำนึก
(4) การสร้างสรรค์คือกระบวนการที่เกิดจากสามส่วนนี้ในร่างกายเธอ พูดอีกอย่างก็คือ เธอทำการสร้างจากสามระดับ `เครื่องมือ` ในการสร้างสรรค์ได้แก่ "ความคิด ถ้อยคำ และ การกระทำ"
(5) ทุกการสร้างสรรค์เริ่มต้นจาก "ความคิด" (อันมาจากพระบิดา) จากนั้นแปลเป็น "ถ้อยคำ" (จงขอแล้วท่านจะได้ จงเอ่ยแล้วสิ่งนั้นจะเกิดแก่ท่าน) ทุกการสร้างจะสมบูรณ์ด้วย "การกระทำ" (พระวาทะทรงบังเกิดเป็นมนุษย์และประทับอยู่ท่ามกลางเรา)
1
(6) สิ่งที่เธอ "คิด" แต่ไม่เคยเอ่ยออกมาจะถูกสร้างในระดับที่หนึ่ง สิ่งที่เธอ "คิด และ กล่าววาจา" จะถูกสร้างในระดับที่สอง สิ่งซึ่งเธอ "คิด พูด และ ทำ" จะปรากฏขึ้นในโลกความจริงของเธอ
1
(7) การคิด พูด และทำบางอย่างที่เธอไม่เชื่อนั้นเป็นไปไม่ได้ กระบวนการสร้างสรรค์จึงประกอบด้วย ความเชื่อ หรือ การรู้ (Knowing) ซึ่งก็คือ "ศรัทธาที่ไม่คลอนแคลนนั่นเอง" นี่เป็นยิ่งกว่าความหวัง แต่คือ "การรู้แท้แน่ชัด" (ด้วยศรัทธาท่านจะหาย)
1
ดังนั้นกระบวนการสร้างสรรค์จึงรวมภาวะแห่งการรู้ไว้ด้วยเสมอ นี่คือความชัดเจนจากเบื้องลึก และความแน่ชัดอย่างสิ้นเชิง คือ การยอมรับอย่างสมบูรณ์ว่าสิ่งนั้นเป็นความจริง
1
(8) ภาวะแห่งการรู้ นี้คือ... "ภาวะแห่งความซาบซึ้งคุณอย่างแรงกล้าไม่น่าเชื่อ" "เป็นการขอบคุณล่วงหน้า"
1
นี่อาจเป็นกุญแจสำคัญที่สุดในการสร้างสรรค์ นั่นคือ "ให้รู้สึกขอบคุณก่อนการสร้างสรรค์" และ "ขอบคุณสำหรับการสร้างสรรค์นั้น"
1
1
การเชื่อมั่นตามนั้นไม่เพียงไม่เป็นไรเท่านั้นแต่ยังได้รับการสนับสนุนให้ทำด้วย มันคือสัญญาณแน่ชัดของการเป็นคุรุ คุรุทุกคนรู้ล่วงหน้าว่า..."การกระทำนั้นถูกปฏิบัติไปเรียบร้อยแล้ว"
(9) "จงชื่นชมยินดี" และ "สนุกกับทุกสิ่งที่เธอได้สร้างขึ้น"
1
🔹การปฏิเสธส่วนใดส่วนหนึ่งของมันเท่ากับปฏิเสธบางส่วนของตัวเธอเองด้วย🔹
1
ไม่ว่าจะปรากฏสิ่งใดขึ้นมาในฐานะส่วนหนึ่งแห่งการสร้างสรรค์ของเธอก็ตาม "จงรับมันไว้" "จงยืนยัน" "สรรเสริญ" "ขอบคุณ"
2
"จงอย่าประณาม" เช่น พระเจ้าให้ตายเถอะ! เพราะการประนามมันเท่ากับประณามตัวเธอเอง
(10) หากมีแง่มุมใดในการสร้างสรรค์ที่เธอ`ไม่ชอบใจ` "จงอวยพรและทำการเปลี่ยนแปลง" "เลือกใหม่" "ดึงความจริงอันใหม่ออกมา" "คิดด้วยความคิดใหม่" "พูดคำใหม่" "ทำสิ่งใหม่" "ทำสิ่งนี้ด้วยความผึ่งผาย" "แล้วโลกจะตามเธอไป" "จงร้องบอกและเรียกให้โลกทำเช่นนั้น"
3
1
จงกล่าวว่า เราเป็นชีวิตและเป็นทางนั้น ตามเรามา* (*วจนะของพระเยซู)
นี่คือการทำให้เจตนารมณ์ของพระเจ้าปรากฏขึ้นบนพื้นโลกดุจเดียวกับสรวงสวรรค์
N : ถ้ามันง่ายดายขนาดนั้น ถ้าที่เราต้องการมีเพียงแค่ 10 ขั้นนี้ ทำไมมันถึงไม่ได้ผลแบบนั้นกับพวกเราส่วนใหญ่ล่ะครับ?
G : มันได้ผลแบบนั้นกับพวกเธอทุกคนนั่นล่ะ พวกเธอบางคนใช้ "ระบบ" นี้ อย่างตระหนักรู้เต็มเปี่ยม แต่บางคนใช้อย่างขาดสติ ไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่
1
เธอบางคนใช้ชีวิตด้วยความ "ตื่นรู้" ขณะที่บางคนใช้ชีวิตแบบ "ครึ่งหลับครึ่งตื่น" แต่ไม่ว่าอย่างไรเธอทุกคนก็กำลังสร้างความจริงของตนอยู่ดี
"สร้างนะไม่ใช่ค้นพบ" โดยพลังอำนาจที่ฉันมอบให้ รวมทั้งกระบวนการที่ได้อธิบายไป
เธอถามว่า เมื่อไหร่ชีวิตเธอจะ "โงหัวขึ้นเสียที" และฉันก็ให้คำตอบไปแล้ว
ชีวิตเธอจะ "โงหัวขึ้นได้" โดยอันดับแรก...
🔹ความคิดของเธอต่อเรื่องนี้ต้องชัดเจนเสียก่อน🔹
คิดถึงสิ่งที่เธอ "ต้องการเป็น" "ต้องการทำ" และ "ต้องการมี"
1
"คิดถึงมันบ่อยๆ" จนเธอ "รู้สึกชัดมากๆ"
1
เมื่อชัดเจนแจ่มแจ้งแล้ว "อย่าคิดถึงสิ่งอื่นอีก"
1
จินตนาการว่า "ไม่มีความเป็นไปได้อย่างอื่นนอกเหนือจากนี้"
1
โยนความคิดลบๆออกไปให้พ้น "กระบวนการทางจิตใจ" ของเธอ
1
"ทิ้งการมองโลกในแง่ร้าย" ทุกอย่างเสีย
ปลดปล่อย "ความสงสัย"
ถอดถอน "ความกลัว"
กำหนดจิตใจให้อยู่กับ "ความคิดสร้างสรรค์แรกที่ผุดขึ้นมา"
2
เมื่อ "ความคิดชัดเจนแน่วแน่แล้ว" จงเริ่มเอ่ยออกมาเยี่ยงสัจจะ พูดออกมาดังๆ จงใช้บัญชาที่ยิ่งใหญ่เพื่อดึงพลังแห่งการสร้างสรรค์ให้ปรากฏออกมา
1
นั่นคือคำว่า 🔸ฉันคือ (I AM)🔸
จงใช้ประโยค "ฉันคือ" กับ `ผู้อื่น`
"ฉันคือ" 🔹เป็นประโยคแห่งการสร้างที่มีพลังที่สุดในจักรวาล🔹
ไม่ว่าเธอจะ "คิด" หรือ "พูดอะไร" หากสิ่งนั้นต่อท้ายคำว่า "ฉันคือ" แล้ว 🔸มันจะเกิดเป็นประสบการณ์และเป็นจริงขึ้นมาและนำมามอบต่อเธอ🔸
ไม่มีหนทางอื่นให้จักรวาลดำเนินไป ไม่มีทางสายอื่นที่จักรวาลรู้จัก และ เลือกเดิน เพราะจักรวาลตอบสนองต่อคำว่า "ฉันคือ" ดุจยักษ์ในตะเกียงวิเศษ
N : พระองค์บอกว่า "ปลดปล่อยความสงสัย ถอดถอนความกลัว ทิ้งการมองโลกในแง่ร้ายทุกชนิด" เหมือนกับพูดว่า "ส่งขนมปังมาให้ฉันแถวหนึ่ง" ยังไงยังงั้นแหละ พูดมันง่ายกว่าทำนะครับ
"โยนความคิดแง่ลบออกไปจากโครงสร้างจิตใจของเธอเสีย" อาจจะอ่านได้ว่า "จงไปปีนยอดเขาเอเวอร์เรสต์ก่อนมือเที่ยง" มันเป็นคำสั่งที่ค่อนข้างหนักหนาเอาการเลยนะ
G : จงเป็น..."นายเหนือความคิด" "ฝึกควบคุมมัน" ไม่ได้ยากอย่างที่คิดหรอก (เรื่องปีนภูเขาเอเวอร์เรสต์ก็เหมือนกัน!) ทั้งหมดเป็นเรื่องของวินัยและความมุ่งมั่น
1
ก้าวแรกคือ เรียนรู้ที่จะ "ตรวจสอบความคิดตัวเอง" จง `คิดถึง` สิ่งที่เธอ `กำลังคิดอยู่`
1
เมื่อจับได้ว่า..."เธอกำลังคิดในแง่ลบ" "ความคิดซึ่งปฏิเสธมโนคติสูงสุดที่เธอมีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง"
จงคิดใหม่❗
ฉันต้องการให้เธอทำอย่างนี้ "ตรงตามตัวอักษร" เลยนะ
"ถ้าคิดว่าตัวเองห่อเหี่ยวหรือกำลังยากลำบาก" และ "ไม่มีอะไรดีเลยในภาวะการณ์เหล่านี้"
จงคิดใหม่❗
"ถ้าเธอคิดว่าโลกนี้เป็นสถานที่เลวร้ายเต็มไปด้วยเรื่องราวแย่ๆ"
จงคิดใหม่❗
"ถ้าเธอคิดว่าชีวิตกำลังพังทลายเป็นเสี่ยงๆ" และ "ดูเหมือนจะไม่มีวันนำมาประสานดังเดิมได้อีก" ละก็
จงคิดใหม่❗
เธอสามารถฝึกตนเองให้ทำอย่างนี้ได้ (ก็ดูสิว่าเธอได้ฝึกฝนตัวเอง "ไม่ให้ทำอย่างนี้" ได้ดีขนาดไหน")
N : ขอบคุณครับ ไม่เคยมีใครมาบอกวิธีที่ชัดเจนขนาดนี้กับผมมาก่อน หวังว่าจะทำได้ง่ายเหมือนเวลาพูดนะ แต่อย่างน้อยตอนนี้ผมก็เข้าใจแจ่มแจ้งดี คิดว่านะครับ...
G : เอาน่า ถ้าเธอต้องการทบทวนใหม่
`เรายังมีเวลาอีกหลายชาติภพ
2
ผมอยากให้คุณ "บันทึก"
ตั้งแต่ 10 เหตุผลที่พระองค์บอกว่า
"ชีวิตคือการสร้างสรรค์ไม่ใช่การค้นหา"
ไปจนจบบทความนี้ลงไปในมือถือของคุณ
แล้วสละเวลาอันเล็กน้อยอ่านมันทุกๆวัน
1
1
จนมันกลายเป็นสิ่งที่คุณจะไม่มีวันลืม
และกลายเป็นสิ่งที่คุณทำเป็นปรกติ
(เป็นอัตโนมัติ)ในชีวิตคุณ
เมื่อคุณทำแบบนั้นได้เมื่อไหร่
ชีวิตคุณจะเป็นดั่งปาฏิหาริย์
คุณคือปาฏิหาริย์
ที่จะสร้างสรรค์ได้ทุกสิ่ง
ตามแต่ที่ใจคุณนั้นปรารถนา
แอดมิน
6 บันทึก
1
3
5
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
สนทนากับพระเจ้า เล่ม 1
6
1
3
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย