Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หนังสือสนทนากับพระเจ้า
•
ติดตาม
17 ม.ค. 2021 เวลา 05:00 • หนังสือ
#30 เล่ม 1 บทที่ 5 หน้า 159 ~ 165
...
...
...
N : การสละละ ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตทางจิตวิญญาณรึเปล่าครับ?
G : ใช่! เพราะที่สุดแล้ววิญญาณทุกดวง "จะละทิ้งทุกสิ่งที่ไม่จริง" และ ไม่มีสิ่งใดเลยในชีวิตเธอที่เป็นจริงเว้นแต่สายสัมพันธ์ที่มีต่อฉัน
แต่การสละละและปฏิเสธตัวเองตามความหมายโบราณนั้น "ไม่จำเป็นหรอก"
คุรุที่แท้ "ไม่ละทิ้งสิ่งใด"
คุรุเพียงแต่ "เคลื่อนมันออกไปข้างๆ"
ดังที่ทำกับสิ่งซึ่งไม่ใช้ประโยชน์อีกต่อไป
คนมากมายบอกว่า "เธอต้องอยู่เหนือความต้องการของตนเอง" แต่ฉันขอบอกว่า "เธอเพียงแค่ต้องเปลี่ยนมันเท่านั้นก็พอ"
อย่างแรก ให้ความรู้สึกเหมือนต้องอยู่ในวินัยอันเข้มงวด
ส่วนอย่างหลัง ให้ความรู้สึกดั่งแบบฝึกหัดที่น่าเพลิดเพลิน
คนมากมายบอกว่าการจะรู้จักพระเจ้าได้นั้น "เธอต้องเอาชนะกิเลสตัณหาทางโลกทั้งหมดให้ได้ก่อน"
แต่จริงๆ "แค่เข้าใจและยอมรับก็พอแล้ว"
2
🔸อะไรที่เธอต่อต้านมันจะคงอยู่
🔸และอะไรที่เธอแค่มองดูมันจะหายไป
1
บรรดาผู้แสวงหาทางมีชัยเหนือตัณหาทางโลกย์ (เหนือโลกีย์) อย่างจริงจังนั้น บ่อยครั้งพวกเขามุ่งมั่นอย่างนั้นจนแทบจะพูดได้ว่า สิ่งนั้นได้กลายเป็นตัณหาประการหนึ่งของเขาไป
พวกเขามี "ตัณหาในพระเจ้า"
"มีตัณหาอยากใคร่รู้จักพระเจ้า"
แต่ตัณหาก็คือตัณหา การเปลี่ยนมันเป็นอีกแบบไม่ได้ทำให้มันหายไปไหนหรอก
ฉะนั้น ไม่ต้องพิพากษาสิ่งที่เธอ "รู้สึกมีแรงปรารถนา" แค่สังเกตแล้วดูว่า "มันเป็นประโยชน์ต่อเธอหรือเปล่า" เมื่อวัดจากตัวตนหรือสิ่งที่เธอต้องการจะเป็น
จำไว้ว่า "เธอกำลังสร้างสรรค์ตัวเองอย่างต่อเนื่อง" เธอกำลังตัดสินใจว่า "ตนคือใครและเป็นอะไรอยู่ทุกขณะ"
1
ส่วนใหญ่แล้วเธอตัดสินใจเรื่องพวกนี้ผ่านการ "เลือก" ของเธอ ซึ่งก็เกี่ยวกับว่า `ใคร` หรือ `สิ่งใด` ที่เธอหลงไหลปรารถนา
บ่อยครั้งผู้ที่เธอบอกว่าอยู่บนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณนั้น "ดูเหมือนจะละกิเลสทางโลกหรือตัณหาของมนุษย์ได้แล้ว"
แต่ที่เขาทำจริงๆคือ "ทำความเข้าใจ" และ "เห็นความเป็นมายาของมัน" แล้วก้าวออกจากตัณหาที่ไม่เกื้อหนุนตัวเขา
โดยที่ตลอดเวลานั้นก็🔹รักในทุกมายาการสำหรับสิ่งที่มันได้มอบให้🔹
นั่นคือ `มอบโอกาส` หรือ `ความท้าทาย`
ที่จะทำให้ 🔸มีอิสระอย่างแท้จริง🔸
"ไฟปรารถนา" คือ ความรักที่จะเปลี่ยนภาวะแห่งการเป็น (Being) ให้กลายเป็นการกระทำ (Doing)
1
มันเติมเชื้อเพลิงให้แก่เครื่องยนต์แห่งการสรรค์สร้าง และ 🔹เปลี่ยนแนวคิดให้กลายเป็นประสบการณ์🔹
"แรงปรารถนา" คือ เปลวไฟขับเคลื่อนให้เราแสดงถึงตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง เพราะฉะนั้นจงอย่าปฏิเสธแรงปรารถนา เพราะนั่นเท่ากับ 🔹ปฏิเสธตัวตนที่แท้จริงของเธอและตัวตนที่เธอต้องการจะเป็นด้วย🔹
1
"ผู้ละแล้ว" ไม่เคยปฏิเสธแรงปรารถนา
"ผู้ละแล้ว" เพียงปฏิเสธการยึดติดต่อผลลัพธ์
แรงปรารถคือ "ความรักที่จะทำบางสิ่ง" และการกระทำคือ "การมีประสบการณ์ถึงการดำรงอยู่"
แต่ก็มีสิ่งหนึ่งซึ่งมักเกิดขึ้นระหว่างการกระทำสิ่งใดๆอยู่เสมอ นั่นคือ
★ความคาดหวัง★
การมีชีวิตโดยไม่คาดหวัง
ไม่จำเป็นต้องได้ผลลัพธ์อันเฉพาะเจาะจง
นั่นล่ะ "เสรีภาพ"
นั่นคือ "ความเป็นพระเจ้า"
ชีวิตฉันเป็นแบบนั้นล่ะ
N : พระองค์ไม่ยึดติดกับผลลัพธ์เลยหรือครับ?
G : แน่นอน 🔸ความสุขของฉันอยู่ในขณะสร้างสรรค์ไม่ใช่ในผลลัพธ์🔸
3
"การสละละ"
ไม่ใช่การตัดสินใจที่จะ `ปฏิเสธการกระทำ`
แต่หมายถึงการตัดสินใจที่จะ🔹ปฏิเสธการต้องได้ผลลัพธ์ที่เฉพาะเจาะจง🔹
มันต่างกันมหาศาลเลยนะ
N : พระองค์จะกรุณาอธิบายได้มั๊ยครับว่า "ไฟปรารถนา" คือ ความรักที่จะเปลี่ยนสภาวะแห่งการเป็นให้กลายเป็นการกระทำน่ะหมายความว่ายังไง?
G : "การเป็น" (Being)
คือ "ภาวะสูงสุดของการดำรงอยู่"
มันคือ "สารัตถะอันบริสุทธิ์"
คือ "ปัจจุบัน - ไร้กาล"
คือ "ทุกสรรพสิ่ง - ความว่าง"
คือ "เสมอไป - ไม่เลย"
ซึ่งเป็น 🔸คุณลักษณะของพระเจ้า🔸
✴️ภาวะแห่งการเป็นอันบริสุทธิ์✴️
✴️คือภาวะบริสุทธิ์แห่งการเป็นพระเจ้า✴️
แต่สำหรับเราแล้ว ไม่พอหรอกที่จะเพียงแค่เป็น 🔹เรายังใฝ่หาที่จะมีประสบการณ์ถึงสิ่งที่เราเป็นด้วย🔹 ก็เลยทำให้ต้องมีคุณลักษณะของพระเจ้าเพิ่มขึ้นอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือ "การกระทำ"
ตัวอย่างว่า เธอคือ (ณ แก่นแท้แห่งตัวตนอันมหัศจรรย์ของเธอ) คุณสมบัติของพระเจ้าที่เรียกว่า "ความรัก" (นี่คือสัจธรรมของเธอ)
ที่นี้ 🔸การเป็นความรักถือเป็นเรื่องหนึ่ง🔸
แต่ก็เป็นคนละเรื่องกับ
🔸การทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งด้วยความรัก🔸
✴️วิญญาณปรารถนาที่จะทำสิ่งที่มันเป็น✴️ เพื่อจะได้ "รู้จักตัวเองผ่านประสบการณ์ของตัวเอง"
ดังนั้นมันจะพยายามบรรลุมโนคติสูงสุดของตน "ผ่านการกระทำ"
สิ่งที่กระตุ้นให้ทำดังนี้เรียกว่า :
🔸แรงปรารถนา🔸
ฆ่าแรงปรารถนาก็เท่ากับฆ่าพระเจ้าทิ้งด้วย
"ไฟปรารถนา"
คือการที่พระเจ้าอยากทักทายว่า "หวัดดี"
1
แต่เธอเห็นไหมล่ะว่า เมื่อพระเจ้า (หรือพระเจ้าในตัวเธอ) "ได้ทำสิ่งที่รัก"
ดังนั้นแล้ว 🔸พระเจ้าก็ประจักษ์ในตัวเองและไม่ต้องการอะไรอีก🔸
ส่วนมนุษย์นั้นตรงกันข้าม
พวกเขามักรู้สึกว่า
`เมื่อลงทุนไปแล้วต้องได้รับกลับคืน`
`หากเราจะรักใครสักคนก็เป็นเรื่องดีแต่เราควรได้รับรักตอบด้วย` อะไรทำนองนั้น
นี่ไม่ใช่ "แรงปรารถนา"
นี่คือ "ความคาดหวัง"
นี่เองคือสาเหตุใหญ่ที่สุดที่ทำให้มนุษย์ไม่มีความสุข
นี่คือสิ่งที่ "แยกมนุษย์ออกจากพระเจ้า"
"ผู้ละแล้ว" พยายามจะยุติการแยกจากนี้ผ่านประสบการณ์ ซึ่งผู้ปฏิบัติธรรมจากซีกโลกตะวันออกเรียกว่า "สมาธิ"
นั่นคือ การเป็นหนึ่งเดียวและรวมกับพระเจ้า คือ การผสมและผสานเข้ากับเบื้องบน
ดังนั้นผู้ที่ละแล้วจึง "ละจากผลลัพธ์"
แต่ไม่เคยและจะไม่มีวันละทิ้งแรงปรารถนา
แท้จริงแล้วคุรุหยั่งรู้ด้วยซ้ำไปว่า "ไฟปรารถนา คือ หนทาง"
1
มันคือ "ทางแห่งการประจักษ์แจ้งในตนเอง"
1
แม้ในภาษาทางโลกก็ยังพูดได้ถูกต้องทีเดียวว่า ถ้าเธอไม่มีไฟกับสิ่งใดเลยเธอก็เหมือนไม่มีชีวิตนั่นแหละ
N : เมื่อกี๊พระองค์บอกว่า "อะไรที่เธอต่อต้านมันจะคงอยู่" "อะไรที่เธอมองดูมันจะหายไป" อธิบายหน่อยได้มั๊ยครับ?
G : เธอไม่อาจ "ต่อต้าน" สิ่งใดโดยที่ไม่ได้ให้ความเป็นจริงแก่มันได้
การต่อต้านสิ่งใดๆหมายถึง
"การให้ชีวิตแก่มัน"
เมื่อเธอต่อต้าน
พลังงานเธอจะทำให้มันอยู่ที่นั่น
ยิ่งเธอต่อต้านมากเท่าไหร่
เธอยิ่งทำให้มันเป็นจริงมากขึ้นเท่านั้น
1
ไม่ว่าเธอจะต่อต้านอะไรก็ตาม
อะไรที่เธอเปิดตามองดูกลับหายไป
นั่นหมายถึงมัน "ยุติการก่อรูปมายา"
1
ถ้าเธอมองดูบางสิ่งอย่างแท้จริงนะ
เธอจะมองทะลุมัน
✴️ทะลุมายาที่ก่อตัวขึ้นบดบังเธอ✴️
จะไม่มีสิ่งใดเหลือ
นอกจากความจริงสูงสุดตรงหน้าเธอ
เมื่อ "เผชิญกับความจริงสูงสุดแล้ว"
มายาเล็กๆของเธอก็ไร้พลังอำนาจ
มันไม่อาจยึดเธอไว้ในอุ้งมืออ่อนแอของมันได้อีกต่อไป
1
"เธอมองเห็นความจริงแล้ว"...และความจริงนี้ 🔸จะปลดปล่อยเธอเป็นอิสระ🔸
N : แต่ถ้าเราไม่ต้องการให้อะไรที่มองดูอยู่หายไปล่ะครับ?
G : เธอควรต้องการอย่างนั้นเสมอนะ
เพราะว่า🔸ไม่มีอะไรเลยในโลกความจริงของเธอที่ควรยึดถือ🔸
แต่ถ้าเธอ`เลือก`มายาการของชีวิตแทนความจริงสูงสุดละก็
เธออาจ`สร้างมันขึ้นใหม่อีกครั้ง`ก็ได้
แบบเดียวกับที่สร้างครั้งแรกนั่นแหละ
ด้วยวิธีนี้สิ่งต่างๆในชีวิตจะมาจากการที่เธอ "เลือกให้เป็นเช่นนั้น"
และเธอก็จะขจัดสิ่งที่ไม่ต้องการมีประสบการณ์อีกต่อไปให้พ้นจากชีวิตของตัวเองได้
ทว่า🔸อย่าต่อต้านสิ่งใดเลย🔸
ถ้าเธอคิดว่าการฝืนต้านจะทำให้มันหายไปละก็ 🔹จงคิดใหม่🔹 เถิด
เธอจะ`ยิ่งตอกย้ำ`มันให้แน่นหนากว่าเดิม
ฉันไม่ได้บอกเธอหรือว่า :
"ทุกความคิดมีพลังสร้างสรรค์น่ะ?"
1
N : แม้กระทั่งความคิดที่ว่า "ผมไม่ต้องการบางสิ่ง" น่ะหรือครับ?
G : ✴️ถ้าไม่ต้องการแล้วไปคิดถึงมันทำไมเล่า
1
✴️อย่าไปคิดถึงอีก
แต่ถ้าเธอ `ต้องคิดถึง`
นั่นคือ `ไม่สามารถที่จะไม่คิดถึงมันได้`
ก็จง "อย่าต่อต้าน"
แต่จง "มองดูตรงๆ"
ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม (นั่นคือยอมรับความจริงนั้นว่าเป็นสิ่งที่เธอสร้างขึ้นมาเอง) แล้ว`เลือก`ที่จะ `เก็บไว้` หรือ `ทิ้งไป` ตามที่เธอปรารถนา
1
N : เราจะใช้อะไรเป็นตัวกำหนดในการเลือกครับ?
G : ตัวตนหรือสิ่งที่เธอ "คิดว่าเธอเป็น" และตัวตนหรือสิ่งที่เธอ "เลือกที่จะเป็น"
นี่คือ 🔹ตัวกำหนดทุกการเลือก🔹
คือทุกสิ่งที่เธอได้เลือกมาในชีวิต
และที่จะเลือกต่อไปในอนาคต
N : ถ้าอย่างนั้นชีวิตของผู้ละทางโลกจึงเป็นหนทางที่ผิด?
G : ไม่ใช่อย่างนั้น
คำว่า "สละละ" ให้ความหมายผิด
ความจริงคือ `เธอไม่สามารถละทิ้งสิ่งใดได้`
เพราะ `อะไรที่เธอต่อต้านมันจะคงอยู่`
1
🔸ผู้สละละที่แท้มิได้ละทิ้ง
🔸เพียงแต่เขาเลือกต่างออกไป
1
นี่คือ 🔹การเคลื่อนเข้าหาบางสิ่งไม่ใช่หนีไปจากอีกสิ่ง🔹
เธอไม่อาจหนีจากสิ่งใดได้
เพราะมันจะไล่ตามเธอไปทุกหนทุกแห่ง
ดังนั้น "จงอย่าต่อต้านสิ่งเย้ายวนใดๆ"
เพียงหันไปจากมัน "หันมายังฉัน"
และ "หันจากสิ่งใดๆที่ไม่เหมือนฉัน"
แต่โปรดรู้ว่าไม่มีสิ่งที่เรียกว่า :
🔹หนทางที่ผิด🔹
✴️ เพราะการเดินทางนี้เธอไม่อาจที่จะไปไม่ถึงที่ๆเธอกำลังไป
✴️ เป็นเรื่องของความเร็วช้าเท่านั้น
✴️ เป็นเพียงคำถามที่ว่าเมื่อไหร่ที่เธอจะไปถึง
แม้แต่เรื่องนี้ก็ `เป็นมายา`
เพราะจริงๆแล้วไม่มีคำว่า "เมื่อไหร่"
เช่นเดียวกับที่ไม่มี "ก่อน" หรือ "หลัง"
1
มีเพียง "เดี๋ยวนี้"
“อันเป็นห้วงเวลาไม่รู้จบแห่งปัจจุบันขณะ ”
ซึ่งเธอ ✴️กำลังมีประสบการณ์ถึงตัวเอง✴️
N : แล้วจุดหมายคืออะไรล่ะครับ?
ในเมื่อไม่มีทางที่จะไปไม่ถึง "ที่นั่น"
ถ้าอย่างนั้นจุดหมายของชีวิตคืออะไร?
ถ้างั้นทำไมเราถึงต้องวิตกกังวลกับทุกๆสิ่งที่ทำลงไปด้วยล่ะครับ?
G. : นั่นไง! เธอไม่ควรกังวลไปหรอก
แต่เธอจะทำได้ดี
ถ้าจะ “เฝ้าสังเกต” สักหน่อย
เพียงแค่คอย`สังเกต`ว่า ใครหรืออะไรที่เธอ "กำลังเป็น" "กำลังทำ" และ "กำลังมี"
และดูว่า "มันเกื้อหนุนเธอหรือเปล่า"
1
▶️ จุดหมายของชีวิตไม่ไช่เพื่อไปให้ถึงที่ใด
▶️ แต่คือการสังเกตว่าเธออยู่ตรงนั้นแล้ว (เช่นที่เป็นมาตลอด)
▶️ เธออยู่ในห้วงแห่งการสรรค์สร้างอันบริสุทธิ์ "เสมอมาและตลอดไป"
ดังนั้น ★จุดหมายของชีวิต★ ก็คือ :
✴️เพื่อสรรค์สร้างว่าเธอเป็นใครและเป็นอะไร
✴️จากนั้นจึงมีประสบการณ์ถึงสิ่งนั้น
1 บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
สนทนากับพระเจ้า เล่ม 1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย