18 ม.ค. 2021 เวลา 07:30 • หนังสือ
#31 เล่ม 1 บทที่ 6 หน้า 167 ~ 172
N : แล้วความทุกข์ล่ะครับ การทนทุกข์คือวิธีหรือหนทางเพื่อไปถึงพระเจ้าใช่มั้ย?
บางคนบอกว่ามันคือหนทางเดียวเท่านั้น
G : ฉันไม่ได้ชอบความทุกข์หรอกนะ
แล้วใครที่บอกว่าฉันยินดีกับมันแสดงว่า "ไม่รู้จักฉันจริง"
ความทุกข์ไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับประสบการณ์มนุษย์เลย
1
ไม่ใช่แค่ไม่จำเป็นเท่านั้นนะ
แต่ยังไม่ฉลาด ไม่สบาย
และ ไม่ดีต่อสุขภาพเธอด้วย
1
N : ถ้างั้น ทำไมถึงได้มีความทุกข์มากมายนัก?
ถ้าพระองค์คือพระเจ้าทำไมถึงไม่ยุติมันเสียล่ะในเมื่อพระองค์ก็ไม่ชอบมากถึงขนาดนั้น?
G : ฉันทำให้สิ้นสุดแล้ว เธอต่างหากที่`ไม่ยอมใช้`เครื่องมือที่ฉันให้ไว้เพื่อบรรลุสิ่งนั้น
1
เธอเข้าใจไหมว่า...ความทุกข์
"ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตัวเหตุการณ์"
แต่เกี่ยวกับ..."ปฏิกิริยาที่ผู้คนมีต่อเหตุการณ์นั้น ๆ ต่างหาก"
✴️สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้น
✴️ส่วนเธอรู้สึกอย่างไรกับมันถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
1
ฉันได้ให้เครื่องมือแก่เธอเพื่อจะตอบสนองและมีปฏิกิริยาต่อเหตุการณ์ในลักษณะที่จะช่วยลด (จริงๆคือ 'ขจัด') ความเจ็บปวดลง แต่เธอก็ไม่ใช้
N : โทษนะครับ แต่ว่าทำไมพระองค์ถึงไม่ขจัดเหตุการณ์เหล่านั้นออกไปเสียเลยล่ะ?
G : แนะได้เข้าท่า แต่โชคไม่ดีที่ฉัน`ไม่มีอำนาจควบคุม`เหตุการณ์ต่างๆหรอก
N : พระองค์น่ะหรือควบคุมเหตุการณ์ไม่ได้?
G : ก็ไม่ได้น่ะสิ
“เหตุการณ์” คือ `สิ่งที่เกิดขึ้นบนพื้นที่และเวลา` ซึ่งเธอ "สร้างขึ้นจากการเลือก"
และฉันจะ "ไม่มีวันแทรกแซงการเลือกนั้น"
 
เพราะการทำอย่างนั้นคือ 🔸การหักล้างเหตุผลที่ฉันสร้างเธอขึ้นมาตั้งแต่แรก🔸 ตามที่อธิบายไปก่อนหน้านี้
1
บางเหตุการณ์เธอ `สร้างขึ้นโดยเจตนา` บางเหตุการณ์เธอ `ดึงดูดเข้าสู่ชีวิต`
🔸โดยรู้ตัวบ้าง ไม่รู้ตัวบ้าง🔸
1
และบางเหตุการณ์ (ภัยธรรมชาติขนาดใหญ่อาจจัดรวมอยู่ในหมวดนี้) ก็ถูกปัดให้เป็นเรื่องของ "ชะตากรรม" ไป
แม้กระทั่ง "ชะตากรรม" (fate) ในที่นี้ก็คือตัวย่อของ "form all thought everywhere"
หรือ ★จากทุกๆความคิดในทุกหนแห่ง★
หรืออีกนัยหนึ่งคือ ★จิตสำนึกของโลก★ นั่นเอง
N : 🔸จิตสำนึกรวมหมู่?🔸
G : ใช่ ถูกต้องแล้ว
N : มีหลายคนพูดว่าโลกอยู่ในกระเช้าที่กำลังดิ่งลงนรก ระบบนิเวศน์ของเรากำลังจะสิ้นใจ ดาวเคราะห์ของเรากำลังประสบภัยพิบัติร้ายแรงทางภูมิศาสตร์ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด หรือกระทั่งถึงขั้นแกนโลกเอียง
มีคนที่บอกว่า🔸จิตสำนึกรวมหมู่🔸สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้ได้ เราสามารถช่วยโลกได้โดยใช้ความคิดของเรา
G : ✴️ความคิดที่แปรเปลี่ยนเป็นการกระทำ✴️
ถ้ามี "คนมากพอจากทุกแห่ง" `เชื่อว่า` จะต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อช่วยโลกละก็
"เธอจะช่วยโลกไว้ได้"
แต่ต้องด่วนเลยนะ เพราะความพินาศมากมายได้เกิดขึ้นมานานแล้ว จะต้องอาศัย “การเคลื่อนย้ายกระบวนทัศน์ครั้งใหญ่”
N : พระองค์หมายความว่าถ้าเราไม่ทำ เราจะได้เห็นโลกและสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บนโลกถูกทำลายงั้นหรือครับ?
G : ฉันได้สร้างกฏจักรวาลทางกายภาพไว้ชัดเจนพอให้ทุกคนเข้าใจ นักวิทยาศาสตร์และนักฟิสิกส์เข้าใจกฏของเหตุและผลเหล่านี้ดีพอ ซึ่งผู้นำโลกก็ได้เรียนรู้ผ่านพวกเขา กฏเกณฑ์พวกนั้นไม่จำเป็นต้องนำมาแสดงอีกที่นี่
N : กลับไปที่เรื่องความทุกข์อีกครั้งนะครับ เราไปได้ความคิดมาจากไหนว่าความทุกข์`เป็นสิ่งดี` เช่น นักบุญ "ทนทุกข์โดยไม่ปริปาก"?
G : นักบุญ "ทนทุกข์โดยไม่ปริปาก" จริง
✴️แต่ไม่ได้หมายความว่าความทุกข์เป็นสิ่งดีนะ✴️
ผู้อยู่บนหนทางแห่งการเคี่ยวกรำตนเองจะทนทุกข์โดยไม่ปริปากเพราะเข้าใจดีว่า "ความทุกข์ไม่ใช่วิถีของพระเจ้า" หากแต่เป็น`สัญญาณ`ที่บ่งชัดว่ามีบางอย่างที่ต้อง`เรียนรู้`ถึงวิถีแห่งพระเป็นเจ้าอยู่ มีบางอย่างที่ยังต้อง ★ระลึก★ ให้ได้
1
คุรุที่แท้ไม่ได้ทนทุกข์โดยไม่ปริปาก ทว่าเพียง`ปรากฏให้เห็นว่าทุกข์โดยไม่พร่ำบ่น`
เหตุผลที่คุรุไม่พร่ำบ่นก็คือ เขา`ไม่ได้กำลังทุกข์`อยู่หรอก แต่แค่กำลังประสบกับกลุ่มสถานการณ์ที่เธอเรียกว่าเกินทานทนเท่านั้น
คุรุผู้ปฏิบัติจะ `ไม่พูดถึงความทุกข์`
เพราะเข้าใจชัดถึง 🔸พลังของถ้อยคำ🔸
ดังนั้นจึง 🔹เลือกที่จะไม่พูดถึง🔹
1
✴️เราพุ่งความสนใจไปยังสิ่งใด
✴️เราจะทำให้สิ่งนั้นเป็นจริงขึ้นมา
คุรุรู้เรื่องนี้ดี เขาจึง `กำหนดตัวเอง`🔸ให้เลือกแต่สิ่งที่ต้องการให้เป็นจริงเท่านั้น🔸
3
เธอทุกคนเคยทำแบบนี้ในบางครั้ง ในบรรดาพวกเธอไม่มีคนไหนเลยที่ไม่เคยทำให้ตัวเองหายปวดหัวหรือไปหาหมอฟันด้วยความเจ็บปวดน้อยลง
`เพียงเพราะเธอตัดสินใจให้เป็นอย่างนั้น`*
[*หมายความว่า เราหายปวดหัวและปวดฟันน้อยลง เพราะเราตัดสินใจให้เป็นแบบนั้นด้วยความมุ่งมั่น (ในบางครั้งไม่ใช่ทุกครั้ง) เพราะส่วนใหญ่เราชอบคิดว่า ปวดเหลือเกิน (หรือคิดแย่ๆ) กับมันอยู่ตลอดเวลา มันก็เลยไม่หายหรือไม่ลดลง ~ แอดมิน]
คุรุเองก็ตัดสินใจแบบเดียวกัน
เพียงแต่ `ในเรื่องที่ใหญ่กว่า`
N : แต่ทำไมถึงต้องมีสิ่งที่เรียกว่าความทุกข์ด้วยล่ะครับ?
ทำไมต้องมี `ความเป็นไปได้` ว่าจะต้องทุกข์ขึ้นมาด้วย?
G : เธอไม่อาจจะรู้ (และเป็น) ถึงสิ่งที่เธอ`เป็น` ถ้าไม่มีสิ่งที่เธอ`ไม่ได้เป็น`ดำรงอยู่ อย่างที่อธิบายให้ฟังแล้ว
[*เราจะไม่อาจรู้ได้ว่าความสุขเป็นอย่างไร ถ้าไม่เคยรู้จักความทุกข์ว่าเป็นอย่างไรมาก่อน ~ แอดมิน]
1
N : ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ว่าเราไปได้ความคิดมาจากไหนกันว่า `ความทุกข์เป็นสิ่งดี` ?
G : ฉลาดดีที่ยืนยันคำถามเดิม
ภูมิปัญญาเก่าแก่เรื่องการทนทุกข์โดยไม่ปริปาก ★ถูกตีความไปผิดๆ★
จนเดี๋ยวนี้ก็มีผู้คนมากมายที่ยังเชื่อ
หลายๆศาสนาถึงกับ "สอน" ว่า `ความทุกข์เป็นสิ่งดี` และ `ความรื่นเริงเบิกบานคือความชั่ว`
เธอจึง `ตัดสิน` ว่าหากใครสักคนเป็นมะเร็งแล้วเก็บงำไว้กับตนเอง `เขาคนนั้นคือนักบุญ`
แต่ถ้าใครบางคน (เอาประเด็นล่อแหลมเลยนะ) มีอารมณ์ทางเพศสูงและแสดงออกอย่างเปิดเผย`หล่อนคือคนบาป`
N : โอ...พระองค์ใช้ประเด็นล่อแหลมจริงๆแหละ แล้วยังฉลาดเปลี่ยนสรรพนามจาก "เขา" เป็น "หล่อน" อีกด้วยนะ จะสื่ออะไรบางอย่างใช่มั้ย?
G : ก็แค่จะแสดงถึง`อคติทางเพศ`ของพวกเธอเท่านั้นแหละ
เธอ`ไม่ชอบ`ที่จะคิดว่าผู้หญิงมีอารมณ์กระตือรือล้นทางเพศ ยังไม่ต้องพูดถึงว่าหล่อนจะแสดงออกมาอย่างเปิดเผยหรอกนะ
เธอชอบนึกภาพผู้ชายที่กำลังจะตายในสนามรบโดยไม่ร้องครวญคราง — มากกว่าภาพผู้หญิงร่วมรักด้วยเสียงครวญครางบนถนน
N : แล้วพระองค์ ไม่เป็นอย่างนั้นหรือ? *
[*มีอคติ - แอดมิน]
G : ฉันไม่มีคำพิพากษาไปในทางใดทางหนึ่งหรอก
แต่เธอน่ะ "มีคำพิพากษาให้ทุกอย่างเลย"
ฉันขอแนะนำว่า...เพราะ "การตัดสินพิพากษา" ของเธอนั่นแหละ ที่ทำให้เธอ ★ไม่ร่าเริงเบิกบาน★
1
และเพราะ "ความคาดหวัง" ของเธอเอง ที่ทำให้เธอ ★ไม่มีความสุข★
1
ทั้งหมดนี้`รวมกัน`
จึงทำให้เธอไม่สบาย (Dis-ease)*
และเป็น ✴️จุดเริ่มต้นของความทุกข์✴️
[*Dis = ไม่ , ease = สบาย
Disease = โรคภัย , ความเจ็บป่วย
- แอดมิน]
N : ผมจะรู้ได้ยังไงว่าที่พระองค์พูดมาเป็นความจริง?
ผมจะรู้ได้ยังไงว่านี่พระเจ้าพูด ไม่ใช่จินตนาการเลยเถิดของผมเอง?
G : เธอถามอย่างนี้มาครั้งหนึ่งแล้วนะ
คำตอบของฉันก็ยังเหมือนเดิม นั่นคือ :
✴️แล้วมันต่างกันตรงไหน?
✴️ถ้าหากที่ฉันพูดมานั้น "ผิด" แล้วเธอคิดหาวิธีที่จะใช้ชีวิต`ได้ดีกว่านี้`หรือเปล่าล่ะ?
N : ไม่ได้ครับ
G : ถ้างั้น "ผิด" ก็คือถูก แล้ว "ถูก" ก็คือผิด!
แต่ฉันจะบอกคำนี้กับเธอ
เพื่อช่วยเธอให้พ้นจากความสับสน
นั่นคือ :
✴️อย่าเชื่อแม้แต่คำเดียวที่ฉันพูด
✴️แต่ให้ลองใช้ชีวิตตามนั้นดู
✴️ลองมีประสบการณ์แบบนั้นดู
✴️จากนั้นก็🔸ลองทำแบบอื่น🔸
ตามที่เธออยากจะสร้างสรรค์ขึ้น
1
★สุดท้าย★
✴️จงมองดูประสบการณ์ของเธอ✴️
✴️เพื่อจะค้นพบความจริงของตัวเอง✴️
2
วันหนึ่งเมื่อเธอกล้าหาญพอ
เธอจะมีประสบการณ์ถึงโลกใบที่เห็นว่า :
★การร่วมรักดีกว่าการก่อสงคราม★
วันนั้นแหละ เธอจะชื่นชมยินดี.

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา