ไอน์สไตน์เขียนทั้งบทความ จดหมาย ปาฐกถา สัมภาษณ์ เรื่องการใช้ชีวิต บทความต่าง ๆ ที่เขาเขียนมาก่อนปี ค.ศ. 1935 รวมเป็นหนังสือชื่อ The World As I See It ในหนังสือเล่มนี้เขาตั้งคำถามความหมายของชีวิต สาระของชีวิตคืออะไร ชีวิตที่มีความหมายเป็นอย่างไร และบางเรื่องก็เข้าไปเกี่ยวข้องกับความเลื่อมใสศาสนา และความเชื่อว่าเราต้องมีศาสนา จึงจะพบความหมายของชีวิต
ในหนังสือ Einstein and the Poet: In Search of the Cosmic Man โดย William Hermanns ไอน์สไตน์กล่าวว่า "ถ้าเราต้องการพัฒนาโลก เราไม่สามารถกระทำโดยวิทยาศาสตร์ แต่กระทำโดยอุดมคติ ขงจื๊อ พระพุทธเจ้า พระเยซู และคานธี ได้กระทำเพื่อมนุษยชาติมากกว่าที่วิทยาศาสตร์ได้ทำ เราต้องเริ่มด้วยหัวใจ พร้อมกับมโนธรรม และคุณค่าของมโนธรรมสามารถชัดแจ้งด้วยการกระทำที่ปราศจากความเห็นแก่ตัวต่อมนุษยชาติ"
ไอน์สไตน์เขียนใน The World As I See It ว่า "มันมีสภาวะที่สามของประสบการณ์ทางจิตวิญญาณ ที่ผมเรียกว่าความรู้สึกแห่งศาสนาจักรวาล (cosmic religious feeling) เป็นการยากที่จะอธิบายความรู้สึกนี้ต่อคนที่ปราศจากมันเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันไม่มีความคิดเรื่องพระเจ้าที่เหมือนคนมาเกี่ยวข้อง ปัจเจกชนทั่วไปรู้สึกความว่างเปล่าของตัณหามนุษย์และจุดประสงค์ และจิตที่ยกสูง และการจัดระเบียบที่ยอดเยี่ยมซึ่งเผยตัวเองทั้งในธรรมชาติและในโลกแห่งความคิด เขามองการดำรงอยู่ของตัวตนเป็นคุกชนิดหนึ่ง และต้องการสัมผัสจักรวาลที่เป็นหนึ่งเดียว"