20 ม.ค. 2021 เวลา 15:30 • การเมือง
LGBTQ+มีที่ยืนในสังคมเกาหลีไหม? ว่าด้วยความหลากหลายทางเพศในแดนกิมจิ
เมื่อกาลเวลาหมุนเวียนไป พร้อมกับระบบเศรษฐกิจสังคมและการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป อุดมการณ์และมาตรฐานของสังคมก็เปลี่ยนไปเช่นกันอย่างไม่มีกวนกลับ
การเปิดรับความหลากหลายทางเพศก็เป็นหนึ่งในเทรนด์นั้นเช่นกัน สมัยก่อน ในหลายๆภูมิภาค แม้แต่อเมริกาและยุโรปที่มีการยอมรับความหลากหลายทางเพศในระดับหนึ่ง ทั้งมีการรับรองการแต่งงานของเกย์และทรานส์ในหลายๆรัฐ รวมถึงกฎหมายห้ามเลือกปฏิบัติต่างๆ
ทั้งนี้ ทัศนคติเกลียดชังและเหยียดLGBTQ+ที่เรียกว่า homophobiaก็ไม่ได้หายไปไหน
LGBTQ+ คืออะไร? มันก็คือ คำเรียกรสนิยมทางเพศที่แตกต่างไปจากรสนิยมแบบชายรักหญิง หญิงรักชาย ซึ่งย่อมาจาก lesbian, gay, bisexual, transgender and queer or questioning (กำลังตัดสินใจ)
ประเทศเราก็มีการต่อสู้ของLGBTQเพื่อสิทธิที่เท่าเทียมทั้งทางสังคมและกฎหมายมานานแล้ว แม้ทัศนคติของคนบ้านเราต่อLGBTQจะถือว่าเปิดกว้างเมื่อเทียบกับประเทศเอเชียอื่นๆ เราก็ยังมีการเลือกปฏิบัติอยู่ระดับหนึ่ง รวมถึงไม่ได้รับรองการสมรสของLGBTในทางกฎหมายด้วย
หลังจากเผชิญกับการยึดครองของญี่ปุ่น สงครามโลกครั้งที่ 2 และสงครามเกาหลีติดต่อกัน เกาหลีเป็นประเทศที่เติบโตทางเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดดอย่างไม่น่าเชื่อ
ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง ตั้งแต่การพัฒนาอุตสาหกรรมจากหน้ามือเป็นหลังมือภายใต้ระบอบเผด็จการทหารที่ผงาดขึ้นมาหลังสงครามสงบลง พร้อมกับซุกปัญหาสังคมต่างๆไว้ใต้พรมมานาน
จนวันนี้ เกาหลีก็เข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยมาได้ไม่ถึง 4 ทศวรรษและกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงของประเด็นสังคมต่างๆอย่าง ตั้งแต่ขบวนการประชาธิปไตย การต่อต้านคอร์รัปชั่น สิทธิมนุษยชนของผู้อพยพ ผู้หญิง และชนกลุ่มน้อยทางเพศ ฯลฯ เรียกได้ว่า สังคมเกาหลีมีปัญหาที่ย้อนแย้งสะสมอยู่มากมายเพราะว่าการเปลี่ยนแปลงของประเทศอย่างรุนแรงฉับพลันมาหลายรอบดังที่กล่าวมานั่นเอง
บอกได้เลยว่าโดยรวมแล้ว เกาหลียังมีลักษณะอนุรักษ์นิยมอยู่มาก คนส่วนใหญ่ไม่กล้าแสดงออกอัตลักษณ์ทางเพศที่แตกต่างจากชายรักหญิง เราไม่สามารถเห็นกระเทยสวยๆเดินตามถนน หรือคู่รักเกย์หนุ่มที่จับมือเดินห้างเหมือนไทยได้ ถ้าใครดูซีรีส์เกาหลีบ่อยๆ จะสังเกตได้ว่า นานๆทีจะมีเรื่องที่มีตัวละคร LGBTQ+ หรือถ้ามีก็มักจะเป็นตัวตลกหรือพบจุดจบที่ไม่งามเท่าไร ถึงอย่างงั้น ก็มีหลายเสียงบอกว่า วันนี้เกาหลีเริ่มเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ แล้วนะ ตกลงมันยังไงกัน?
วันนี้ นางเอกเกาหลี 한국 주인공 เลยอยากชวนทุกคนมาสำรวจกันว่า เมื่อก่อน LGBTQ+ในเกาหลีใต้อยู่กันยังไง และสังคมเกาหลีใต้ในวันนี้ยอมรับLGBTQมากขนาดไหน
❤ ยุคเผด็จการทหารกับการเน้นย้ำบรรทัดฐานความรักแบบชาย-หญิง
ระบอบเผด็จการเกาหลีใต้เริ่มตั้งแต่นายพลพัคจองฮี (พ่อของพัคกึนเฮ ปธน.หญิงไม่กี่ปีก่อน)ทำการรัฐประหารในปี 1963 และทำการปฏิรูปสังคมเกาหลีที่เคยเป็นสังคมเกษตรกรรมให้เป็นสังคมอุตสาหกรรมใหญ่ รวมถึงปราบปรามขบวนการประชาธิปไตยและการเรียกร้องสิทธิมนุษยชนของกลุ่มต่างๆ อย่างรุนแรงในนามของการปกป้องชาติจากคอมมิวนิสต์
1
สมัยนั้น นอกจากจะมีการปลูกฝังค่านิยมเกลียดกลัวคอมมิวนิสต์อย่างแข็งขันแล้ว รัฐบาลก็ปลูกฝังค่านิยมสังคมชายเป็นใหญ่ด้วย ผู้ชายต้องมีบทบาทแบบผู้ชาย และผู้หญิงก็ต้องมีบทบาทแบบผู้หญิง ค่านิยมครอบครัวและความรักโรแมนติกของชาย-หญิงแบบ heterosexualเท่านั้นที่ได้รับการยอมรับ
แน่นอนว่า ในยุคสมัยนั้น หากไม่มีพื้นที่ให้ประชาธิปไตยแม้แต่น้อยแล้ว พื้นที่ของLGBTQ+ก็ไม่ต้องพูดถึงเลย
พัคจองฮี
❤ ศาสนาคริสต์นิกายโปรแตสแตนท์มีอิทธิพลทางการเมืองอย่างมากในการเมืองเกาหลี ประชาชนราวๆ 1 ใน 3ของเกาหลีใต้ แสดงตัวเป็นชาวคริสต์ และ 2 ใน 3ส่วนของชาวคริสต์นั้นก็คือ ชาวคริสต์นิกายโปรแตสแตนท์ ส่วนที่เหลือนั้นจะเป็นนิกายคาทอลิก
เนื่องจากผู้มีอิทธิพลในการเมืองเกาหลีล้วนมีผลประโยชน์กับโบสถ์คริสต์นิกายโปรแตสแตนท์ จึงไม่แปลกที่พรรคการเมืองเกาหลีหลายๆพรรคจะผลักดันนโยบายที่อนุรักษ์นิยม โดยเฉพาะพรรคฝ่ายค้านปัจจุบัน นอกจากนี้ สื่อเกาหลีเจ้าใหญ่ๆยังมีผลประโยชน์กับพรรคการเมืองเหล่านี้ ดังนั้น วาทกรรมสร้างความเกลียดชังจึงถูกผลักดันเพื่อต่อต้านการให้สิทธิLGBTQในเกาหลีมาตลอด
เช่น วาทกรรมที่ว่าLGBTQจะทำลายชาติ เพราะพวกเขาไม่ผลิตประชากร หรือถึงอยากแต่งงานก็ไม่ควรแต่ง เพราะผิดประสงค์ของพระเจ้า เกย์ทำให้วิกฤติขาดแคลนประชากรคนรุ่นใหม่ของเกาหลีหนักเข้าไปอีก นอกจากนี้ก็มีวาทกรรมที่คล้ายๆกับไทย คือ LGBTQเป็นพาหะนำเชื้อ HIV ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่พรรคอนุรักษ์นิยมเท่านั้น แต่คนจากพรรคเสรีนิยมอย่าง ปธน.มุนแจอินที่มีภาพลักษณ์หัวก้าวหน้าเองก็เคยพูดเปรยๆว่าเขาไม่สนับสนุนLGBTQ แล้วก็ขอโทษในภายหลัง
ชายชาวเกาหลีทุกคนต้องไปเกณฑ์ทหารเป็นเวลา 2 ปี โดยแทบจะไม่มีข้อยกเว้น แต่กฎของทหารนั้นยังมีความเป็นอนุรักษ์นิยมสูงมาก มีการลงโทษจำคุกทหารที่ถูกจับได้ว่ามีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน แถมสื่อและนักการเมืองก็มักผลักดันวาทกรรม"LGBTQจะทำลายชาติ" โดยบอกว่าหากคนพวกนี้มาเป็นทหาร ประเทศจะล่มสลายได้ เพราะคนที่มีอัตลักษณ์ทางเพศที่แตกต่างเหล่านี้มักมองว่าการเกณฑ์ทหารเป็นการตอกย้ำวาทกรรมความเป็นชายที่ล้าสมัยไปแล้ว
2
อันนี้ก็มองได้ว่า เป็นมรดกสังคมชายเป็นใหญ่แบบ toxic mascuilinityที่ถูกเน้นย้ำมาตั้งแต่สมัยเผด็จการก็ว่าได้
เทศกาลเควียร์ในโซล
❤เกาหลีเริ่มมีการดีเบทเกี่ยวกับสิทธิของเพศที่หลากหลายเพียงตั้งแต่ 20ปีก่อนเท่านั้น
ตั้งแต่ช่วงปี 1980 เกาหลีก็เริ่มมีพื้นที่สำหรับชาว LGBTQ+ที่ค่อนข้างปิดมิดชิดและแยกต่างหากจากพื้นที่ของสังคมกระแสหลัก เช่น บาร์ ไนท์คลับ เว็บเดททางอินเตอร์เน็ท มีตติ้งระหว่างกลุ่มแบบลับๆ เพราะสังคมไม่ยอมรับและไม่มีใครกล้าเอาประเด็นนี้ขึ้นมาพูด
จนกระทั่งปี 2000 กลุ่มนักเคลื่อนไหวเริ่มจัดเทศกาล Korean Queer Festival ที่ยังคงทำมาอยู่ทุกวันนี้ ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ดาราเกาหลีนามว่า ฮงซอกชอน (홍석천) ได้ออกมา"คัมมิ่งเอ้าท์(coming out)" หรือประกาศตัวว่าเขาเป็นเกย์ผ่านสื่อครั้งแรกหลังจากปกปิดอัตลักษณ์มาทั้งชีวิต เรื่องราวของเขาทำให้คนเกาหลีตื่นตัวกันมากขึ้นมากๆ
และปี2008 ก็มีการรวมตัวกันอย่างหลวมๆขององค์กรเคลื่อนไหวทางสังคมต่างๆ เรียกว่า The Rainbow Action ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากคนเกาหลีส่วนหนึ่งและชาวต่างชาติด้วย พวกเขาพยายามรณรงค์เพื่อกฎหมายปกป้องสิทธิLGBTQ+หลายอย่าง แต่ก็ยังไม่เป็นผลมากเท่าไร
ฮงซอกชอนถ่ายแบบให้ PLAYBOY
❤ ทุกวันนี้ เวลามีการจัดเทศกาลQueerขึ้นมานั้น ในขณะที่พาเหรดPrideเดินขบวนและสังสรรค์กันอย่างสนุกสนาน โดยมีรั้วกั้นและตำรวจยืนรายล้อม นอกวงพาเหรดใกล้ๆนั้นเองเต็มไปด้วยกลุ่มชาวคริสต์โปรแตสแตนต์ที่ยืนชุมนุมต่อต้าน พร้อมถือป้ายก่นด่าLGBTQ และเปิดเพลงกอสเปลภาษาเกาหลีดังกระหึ่ม
ผู้ชุมนุมฝ่ายโบสถ์ถือป้ายต่อต้านพาเหรดเควียร์ ขอบคุณภาพจาก นสพ.คยองฮยาง https://m.khan.co.kr/view.html?art_id=201906080600015#c2b
❤ ข้อมูลจากการวิจัย Korea social integration survey ปี2019 โดย
Korea Institute of Public Administration ซึ่งสำรวจ"ทัศนคติต่อชนกลุ่มน้อยทางเพศ"ของคนเกาหลีอายุ 19-60ปี แสดงให้เห็นว่า คนเกาหลีเกินครึ่ง (57.1%)ยังไม่ยอมรับLGBTQ+ ซึ่งก็ไม่ได้ดีขึ้นกว่าปี 2013เท่าไรเลย
นอกจากนี้ ผลการวิจัยจากสถาบันกิจการสุขภาพและสังคมในปี 2019 ก็ยังคอนเฟิร์มอีกว่า เมื่อเทียบทัศนคติต่อแรงงานต่างชาติ ชาวเกาหลีเหนืออพยพ และชาวLGBT ชาวเกาหลีเหยียดกลุ่มหลังมากที่สุดและอย่างเปิดเผย ในขณะที่การเหยียดแรงงานต่างชาติและชาวเกาหลีเหนืออพยพมักจะทำแบบลับๆ เหตุผลส่วนหนึ่งก็เพราะ วาทกรรมกระแสหลักของสื่อและการเมือง รวมถึงสังคมส่วนรวมสนับสนุนให้คนเกาหลียอมรับแรงงานต่างชาติและชาวเกาหลีเหนืออพยพ แต่ยังไม่มีการสนับสนุนLGBTQ+อย่างจริงจังนั่นเอง ทุกวันนี้คนรอบตัวชาวเกาหลีที่เป็นเกย์ก็ไม่ได้เปิดเผยตน เพราะสังคมไม่ให้การยอมรับ
ความเข้าใจเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศยังคงถูกจำกัดอยู่ในคอนเซปต์ชายรักชาย หรือทรานส์เท่านั้น ทั้งๆที่จริงๆแล้วอัตลักษณ์ทางเพศหลากหลายกว่านี้มาก นอกจากนี้ พื้นที่ที่แสดงออกทางอัตลักษณ์ได้ก็จำกัดอยู่แต่พื้นที่ปิดของกลุ่มและพื้นที่ส่วนตัวเท่านั้น ชาวLGBTQ+ยังคงอยู่ในพื้นที่ชายขอบของสังคมเกาหลีจนถึงวันนี้
ฉันได้แต่หวังว่าเกาหลีจะเป็นสังคมที่เปิดกว้างต่อ LGBTQ+มากขึ้น เพราะอัตลักษณ์ไม่ใช่ข้ออ้างที่ใครจะมาพรากสิทธิมนุษยชนของคนกลุ่มหนึ่งไปได้
เรียบเรียงจาก:
Yi, J., Jung, G., & Phillips, J. (2017). Evangelical Christian Discourse in South Korea on the LGBT: The Politics of Cross-Border Learning. Society, 54(1), 29-33. doi:10.1007/s12115-016-0096-3
강오름. (2015). “LGBT,* 우리가 지금 여기 살고 있다” : 현대 한국의 성적소수자와 공간.
정성조, 이나영 (2018). 보이지 않는 군인들. 문화와 사회, 26(3), 83-145
2019 사회적 소수자에 대한 한국인의 인식 연구
โฆษณา