ชายผู้ขโมยถ้วยเอฟเอ คัพ
โดย Ploy Honisz
เอฟเอ คัพ ฟุตบอลถ้วยรายการที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเริ่มต้นแข่งขันมาตั้งแต่ปี 1871 แชมป์ของรายการนี้ต้องเป็นผู้ชนะเท่านั้น เพราะแข่งแบบน็อกเอาต์ แพ้ตกรอบไม่มีแก้ตัว นัดเดียวรู้ผล เราจึงได้เห็นเหตุการณ์แจ็คผู้ฆ่ายักษ์บ่อยๆ ทีมเล็กเอาชนะทีมใหญ่ ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ฟุตบอลรายการอื่นๆ ไม่มี แต่ใช่ว่าผู้ชนะเท่านั้นที่ได้สัมผัสถ้วยแชมป์เอฟเอ คัพ มีขโมย 3 คนที่ได้สัมผัสถ้วยใบนี้ และเก็บเป็นความลับนานกว่า 63 ปี
ช่วงเที่ยงคืนของวันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน ปี 1895 ท่ามกลางเสียงฟ้าร้องเหนือท้องฟ้าเมืองเบอร์มิงแฮม มีชายสามคนยืนอยู่ท่ามกลางความมืดบนหลังคาของร้านรองเท้าร้านหนึ่งทางตอนเหนือของเมือง พวกเขาเปิดแผ่นหลังคาก่อนที่จะเจาะรูบนเพดาน จากนั้นสองในสามคนค่อยๆ ปีนลงมาในร้านที่ไร้ผู้คน ขโมยเศษเหรียญได้ไป 2-3 ชิลลิ่ง แต่เป้าหมายจริงๆ แล้วซ่อนอยู่ด้านหลังกระจกตู้โชว์หน้าร้าน ท่ามกลางรองเท้าฟุตบอล มีถ้วยแชมป์เอฟเอ คัพ ของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ สีเงินแวววาว สูงราวๆ 16 นิ้ว ที่มีชื่อเล่นว่า “Little Tin Idol” ตั้งอยู่ ไม่รอช้า หัวขโมยหยิบถ้วยออกจากตู้ ส่งต่อขึ้นไปให้เพื่อนที่รออยู่บนหลังคา และไม่มีใครเห็นถ้วยใบนั้นอีกเลย เหลือไว้เพียงแท่นไม้ซึ่งเป็นฐานของถ้วยไว้ให้ดูต่างหน้า
ก่อนหน้านั้น 5 เดือน แอสตัน วิลลาเพิ่งได้แชมป์เอฟเอ คัพ ด้วยการเอาชนะทีมคู่ปรับร่วมถิ่นมิดแลนด์ อย่างเวสต์บรอมวิช อัลเบียน ซึ่งแชมป์ครั้งที่ 24 ของรายการนี้ตัดสินกันด้วยประตูชัยที่เกิดขึ้น 30 วินาทีหลังจากเริ่มเกม ด้วยประตูยิงแฉลบของ แจ็ค เดวีย์ กัปตันทีมสิงห์ผยอง จริงอยู่ที่ว่าวิลลาเพิ่งป้องกันแชมป์ดิวิชัน 1 ได้สำเร็จในฤดูกาล 1894-95 แต่ถ้วยเอฟเอ คัพ เป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่กว่า แฟนบอลมากมายมารอรับแชมป์ที่สถานีรถไฟเมืองเบอร์มิงแฮม ถ้วยเอฟเอ คัพถูกเติมด้วยแชมเปญจนเต็ม เพื่อให้นักฟุตบอลดื่มฉลอง หลังจากนั้นถ้วยก็ถูกเก็บใส่ตู้เซฟไว้ที่เพอร์รี บาร์ สนามเหย้าของทีม
วิลเลียม ชิลล์ล็อก เป็นผู้ผลิตรองเท้า และเป็นผู้สนับสนุนรองเท้าฟุตบอลให้กับแอสตัน วิลลา นอกจากนี้ยังขายเสื้อแข่งและลูกฟุตบอลอีกมากมายหลายแบบ พอชายวัย 73 ปี ผู้สนับสนุนหลักของสโมสรเอ่ยปากขออนุญาตให้นำถ้วยเอฟเอ คัพ มาตั้งโชว์ที่หน้าร้านรองเท้าของเขา ทางสโมสรมีหรือจะไม่ยอม ถ้วยที่มีราคาต้นทุนอยู่ที่ 20 ปอนด์ในตอนนั้น มีมูลค่าทางจิตใจต่อคนที่รักฟุตบอลมากมายกว่านั้น
ถ้วยเอฟเอ คัพถูกนำมาตั้งโชว์ที่หน้าร้านของชิลล์ล็อก ในช่วงใกล้สิ้นเดือนสิงหาคมปี 1895 ดึงดูดผู้คนจำนวนมากให้มุ่งมาดูถ้วยใบดังกล่าว และเรียกเงินจากกระเป๋าคนที่ชื่นชอบฟุตบอลให้ซื้อสินค้าในร้านได้มากมาย ในช่วงเย็นของวันที่ถ้วยถูกขโมย ชิลล์ล็อกปิดร้านของเขาอย่างแน่นหนาตอนราวๆ 21.15 น. เหมือนเช่นทุกวัน เมื่อเขากลับมาตอน 8 โมงตรงของเช้าวันรุ่งขึ้น ชายชราสังเกตเห็นทันทีว่าลิ้นชักของเครื่องเก็บเงินวางว่างเปล่าอยู่บนเคาน์เตอร์ มีเศษซากหลังคากองกระจายบนพื้น มีรูบนเพดาน แต่ตู้เซฟสองใบและของมีค่าอื่นๆ ในร้านไม่ถูกแตะต้อง เขานึกแปลกใจ จนกระทั่งเดินไปดูที่ตู้โชว์หน้าร้าน และพบว่าถ้วยเอฟเอ คัพ หายไปแล้ว
เจ้าหน้าที่สืบสวนบราวน์และเดวิส จากสถานีตำรวจเบอร์มิงแฮมมายังที่เกิดเหตุ พวกเขาเชื่อว่าคนที่ลงมือโจรกรรมในครั้งนี้ต้องเป็นคนหนุ่มและแข็งแรงมาก เพราะการจะลงมาจากเพดานที่สูงราวๆ 12 ฟุตและปีนกลับขึ้นไปนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แม้ว่าร้านของชิลล์ล็อกมีการทำประกันเอาไว้ แต่นั่นไม่รวมถึงถ้วยเอฟเอ คัพ มีการแจกใบปลิวไปทั่วเบอร์มิงแฮมเสนอเงิน 10 ปอนด์ หรือราวๆ 1,200 ปอนด์ถ้าเทียบกับค่าเงินปัจจุบัน ให้กับใครก็ตามที่สามารถบอกเบาะแสจนค้นพบถ้วยเอฟเอ คัพ ส่วนแอสตัน วิลลาในฐานะผู้ครอบครองถ้วยมีการตกลงกับทางสมาคมฟุตบอลฯ ไว้ว่าในกรณีที่ถ้วยหาย พวกเขาจะต้องรับผิดชอบเป็นเงิน 200 ปอนด์
63 ปีต่อมา ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1958 แฮร์รี เบิร์จ ชายวัย 80 ปี อาศัยอยู่ในบ้านพักคนชราสารภาพถึงสิ่งที่เกิดขึ้น “ผมนี่แหละเป็นคนขโมยถ้วยเอฟเอ คัพ” ในปี 1895 เขาและเพื่อนอีกสองคนเป็นผู้ลงมือโจรกรรมถ้วยฟุตบอลรายการที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เบิร์จเดินทางกลับไปยังสถานที่เกิดเหตุพร้อมด้วยช่างภาพของหนังสือพิมพ์ Sunday Pictorial หรือที่เรารู้จักในชื่อ Sunday Mirror ชายชราเล่าย้อนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากขโมยถ้วยออกมาได้สำเร็จว่า “พวกเรากลับมายังบ้านของผมที่ถนนฮอสพิตัล ที่อยู่ห่างไปไม่กี่นาที คืนนั้นเราทำลายถ้วย และหลอมละลายทำเป็นเหรียญเงิน Half Crown ซึ่งเพื่อนผมมีแม่พิมพ์อยู่” ถึงว่าไม่มีใครเห็นหรือได้ข่าวถ้วยที่ถูกขโมยไปเลย
เหรียญ Half Crown ในตอนนั้นมีมูลค่า 2 ชิลลิ่งกับ 6 เพนซ์ หรือราวๆ 15 ปอนด์ในตอนนี้ เบิร์จและเพื่อนนำเหรียญปลอมหลายเหรียญที่ทำจากถ้วยเอฟเอ คัพ ไปใช้ที่ผับในเบอร์มิงแฮมที่ชื่อว่า Salutation ที่มี เดนนิส ฮอดเกตต์ ตำนานกองหน้าของแอสตัน วิลลา เป็นเจ้าของ แล้วก็เหมือนตลกร้าย เบิร์จบอกว่าต่อมามีผู้เล่นของสิงห์ผยองได้ใช้เหรียญเหล่านั้นโดยที่ไม่รู้ว่าทำมาจากถ้วยที่ถูกขโมย หัวขโมยในวัยชราบอกว่าสาเหตุที่ออกมาเปิดเผยเรื่องดังกล่าวก็เพราะ “ผมเป็นคนแก่แล้ว และผมอยากจะยกภูเขาออกจากอก เรื่องนี้มันส่งผลกับจิตสำนึกของผมมานานแล้ว”
ทั้งนี้ชีวิตของเบิร์จไม่ธรรมดา เขามีคดีโจรกรรมมากกว่า 42 ครั้งย้อนไปตั้งแต่ปี 1897 และใช้เวลา 46 ปีกับ 11 เดือนในเรือนจำมาแล้ว สามเดือนหลังจากที่เขาสารภาพเรื่องถ้วยเอฟเอ คัพ ในเดือนพฤษภาคมปี 1958 เขายังถูกจับเพราะขโมยเสื้อโค้ท 3 ตัวจากรถตู้คันหนึ่ง และถูกตัดสินจำคุก 7 ปีในวัย 80 ปี เรียกว่าแก้ไม่หาย แต่ด้วยปัญหาสุขภาพ เบิร์จเสียชีวิตลงในปี 1964
ย้อนกลับไปในปี 1895 ฤดูกาลใหม่เริ่มต้นขึ้น และสมาคมฟุตบอลยังมีหวังว่าจะหาถ้วยเอฟเอ คัพที่ถูกขโมยไปเจอ จนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1896 รอบรองชนะเลิศขยับเข้ามาใกล้ ถึงเวลาที่จะยอมรับความจริงว่าจะไม่ได้ถ้วยกลับมาแล้ว สมาคมฟุตบอลอังกฤษตัดสินใจที่จะมอบถ้วยทองคำใบใหม่มูลค่า 250 ปอนด์แทน แต่ถูกคัดค้าน เพราะถ้วยควรมีรูปแบบใกล้เคียงกับใบเดิม ด้วยเหตุผลว่า “มันสำคัญมากที่จะรู้ว่าไม่เกี่ยวกับมูลค่าของถ้วยรางวัล แต่เป็นเรื่องเกียรติยศของชัยชนะต่างหาก”
โชคยังดี ตอนที่วูล์ฟแฮมป์ตันได้แชมป์ในปี 1893 ประธานสโมสรมีการสั่งทำถ้วยจำลองไว้ และหล่อขึ้นจากแม่พิมพ์ของถ้วยใบจริง ถ้วยใบใหม่จึงถูกหล่อขึ้นที่โรงหล่อในเบอร์มิงแฮม ที่มี ฮาเวิร์ด วอห์ตัน อดีตผู้เล่นของแอสตัน วิลลา เป็นหุ้นส่วนอยู่ ถ้าไม่สังเกตก็จะไม่รู้ว่ามีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่แตกต่างจากถ้วยใบเดิม แถมยังถูกวางบนแท่นไม้อันเดิมที่หัวขโมยวางทิ้งไว้
สมาคมฟุตบอลอังกฤษใช้ถ้วยนั้นมาจนถึงปี 1910 ก่อนที่จะเปลี่ยนมาใช้ถ้วยใบที่เราเห็นอยู่ในปี 1911 โดยมอบถ้วยเอฟเอ คัพใบเก่าให้กับ อาเธอร์ คินนาร์ด เจ้าของแชมป์เอฟเอ คัพ 5 สมัย และประธานสมาคมฟุตบอลอังกฤษในตอนนั้นเก็บไว้ จนในเดือนกันยายน ปี 2020 ถ้วยเอฟเอ คัพ ใบจำลองถูกประมูลไปด้วยราคา 760,000 ปอนด์
รู้เรื่องปริศนาของถ้วยเอฟเอ คัพแบบนี้แล้ว วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคมนี้น่าจะดูเกมแดงเดือดเวอร์ชั่นเอฟเอ คัพ ได้สนุกกว่าเดิมเยอะเลย
#เอฟเอคัพ #แดงเดือด #ลิเวอร์พูล #แมนยู #ขโมย #ผลฟุตบอล #ผลบอล #ฟุตบอล #Football #Soccer #PlayNowThailand #KhelNowThailand
อัพเดตข่าวสารกีฬาก่อนใคร พร้อมมีของรางวัลพิเศษให้ร่วมสนุกกันเป็นประจำ
ร่วมไลค์ ร่วมแชร์ Play Now Thailand
- 2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
