30 พ.ค. 2021 เวลา 23:55 • นิยาย เรื่องสั้น
ทหารผู้ไม่ยอมจับปืน
Blockdit Originals ซีรีส์บทความพิเศษ
ตั้งแต่เขาจำความได้ ก็อยู่ใกล้ชิดพระเจ้า
เขาจำได้ว่าในตอนเด็ก บ้านของเขาติดรูปวาดบัญญัติสิบประการ มีรูปวาดเคนกับเอเบล และข้อความว่า 'Thou shalt not kill' (เจ้าต้องไม่ฆ่า) ซึ่งเป็นเนื้อหาจากคัมภีร์ไบเบิล ตำนานเกี่ยวกับเคนและเอเบล
1
เคนกับเอเบลเป็นลูกของอะดัมกับอีฟ เคนเป็นชาวนา เอเบลเป็นคนเลี้ยงแกะ ทั้งสองทำเครื่องบูชายัญต่อพระเยโฮวาห์ แต่พระเยโฮวาห์ชอบเครื่องบูชายัญของเอเบลมากกว่า เคนจึงฆ่าน้องชาย
1
เขาถามแม่ว่าทำไมเคนจึงฆ่าเอเบล เขาไม่เข้าใจว่าทำไมพี่น้องจึงฆ่ากัน
พ่อของเขาเป็นทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ฝังความเจ็บปวดของสงครามในขวดเหล้า เมามายเป็นนิจสิน ส่วนแม่พาเขาไปโบสถ์เสมอ สอนเขาเรื่องบาปของการฆ่า ปลูกฝังความไม่รุนแรง
1
เขาชื่อ เดสมอนด์ ดอสส์ (Desmond Doss)
เขาไม่เคยเห็นด้วยกับการจับปืน
เดสมอนด์เป็นชาวรัฐเวอร์จิเนีย พ่อเป็นช่างไม้ แม่เป็นคนงานโรงงานทำรองเท้า ครอบครัวของเขาเดินตามรอยของศาสนาสายเซเวนธ์-เดย์ แอดเวนทิสต์ (Seventh-day Adventist) ตั้งแต่เด็ก เขาได้รับการปลูกฝังให้ต่อต้านความรุนแรง การฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
1
เดสมอนด์ ดอสส์
ในช่วงที่สหรัฐฯจมดิ่งในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ (The Great Depression) เขาอายุสิบกว่าขวบ ช่วยครอบครัวทำงานที่บริษัทไม้แห่งหนึ่ง
วันที่ 7 ธันวาคม 1941 กองทัพญี่ปุ่นโจมตี เพิร์ล ฮาร์เบอร์ ดึงสหรัฐฯเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่สอง สี่เดือนต่อมา เดสมอนด์ก็เดินเข้าสู่กองทัพ
1
ความจริงเขาสามารถเลื่อนการเป็นทหารได้ เพราะกำลังทำงานที่อู่ต่อเรือ Newport News Naval ของกองทัพเรือ แต่เขาอยากทำบางอย่างมากกว่านั้นเพื่อชาติโดยเข้าสู่สมรภูมิ
เขาโตมาในโลกทัศน์ของการต่อต้านความรุนแรง แต่ในโลกของทหารต้องเกี่ยวข้องกับความรุนแรง
เขาจะเข้าสู่สมรภูมิอย่างไรถ้าไม่จับปืน?
เดสมอนด์สมัครเป็นทหาร คาดหมายว่าจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องจับปืน เนื่องจากแจ้งทางการว่าเป็นพวก conscientious objector
conscientious objector หรือ pacifist คือคนที่ต่อต้านการเป็นทหาร ด้วยเหตุผลทางมโนธรรม ศาสนา และอิสรภาพทางความคิด
1
ในบางประเทศอนุญาตให้บุคคลที่เป็น conscientious objector ไม่ต้องเป็นทหาร หรือไปปฏิบัติหน้าที่ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการใช้ความรุนแรง
1
อย่างไรก็ตาม เดสมอนด์ไม่ได้คิดหนีทหารแต่อย่างใด เขาอยากเป็นทหารรับใช้ชาติ แต่ด้วยวิถีไร้ความรุนแรง เขาต้องการทำงานด้านเสนารักษ์ ช่วยทหารบาดเจ็บเท่านั้น แนวคิดนี้ในมุมมองของคนทั่วไปเป็นเรื่องตลก
1
เดสมอนด์ถูกส่งไปฝึกที่ ฟอร์ต แจ็คสัน รัฐ เซาธ์ แคโรไลนา
หน่วยปืนยาว
1
ด้วยความเชื่อสาย เซเวนธ์-เดย์ แอดเวนทิสต์ เขาปฏิเสธที่จะจับปืน ทำให้ทั้งครูผู้ฝึกและเพื่อนทหารไม่ชอบหน้าเขา
1
เดสมอนด์ ดอสส์
เขามาอยู่ผิดที่ผิดทาง
ทหารบางคนขู่เขาว่า "ถ้าเข้าสู่สนามรบเมื่อไร กูจะรับรองว่ามึงไม่ได้กลับมา"
1
ไม่มีใครเห็นว่าทหารที่ไม่จับปืนจะเป็นทหารได้อย่างไร
ผู้บังคับบัญชาของเขาล้วนต้องการ 'กำจัด' เขาให้พ้นจากหน่วย หาข้ออ้างต่าง ๆ เช่น เขาเป็นพวกวิกลจริต ไปจนถึงส่งเขาขึ้นศาลทหาร ข้อหาไม่ยอมจับปืน ขณะเดียวกัน คนรอบตัวก็ด่าทอเขา ดูหมิ่นเขา กลั่นแกล้งเขาต่าง ๆ นานา แต่ก็ไม่สามารถขับเขาออกจากกองทัพได้ เขาไม่ยอมออกไป เขาก็อยากรับใช้ชาติเช่นคนอื่น ๆ เพียงด้วยทางของเขาเอง
3
ในที่สุดเดสมอนด์ก็ได้ไปประจำการในหน่วยเสนารักษ์ เข้าสู่สมรภูมิต่าง ๆ เสี่ยงอันตรายเท่ากับทหารในแนวหน้าทุกประการ ข้อแตกต่างเดียวคือเขาไม่ถือปืน เขาถือแค่กระเป๋ายา
4
ในปี 1944 เขาไปปฏิบัติการที่เกาะกวมและฟิลิปปินส์ เดสมอนด์เสี่ยงชีวิตช่วยทหารบาดเจ็บกลางห่ากระสุนอย่างไม่กลัวตาย
ในสมรภูมิ ท่ามกลางลูกปืนและระเบิด ทหารสหรัฐฯถูกยิง เลือดสาดไม่หยุด แต่เมื่อเสียงร้องเรียก "Medic" (หมอทหาร) ดังขึ้น เดสมอนด์ก็วิ่งออกไปทันที ช่วยชีวิตทหารบาดเจ็บโดยไม่รีรอ และไม่กลัวตาย
2
ในที่สุดทหารรอบตัวเขาก็รู้ว่า จิตวิญญาณของดอสส์ไม่ได้อ่อนด้อยหรือขลาดกลัวกว่าคนถือปืนแต่อย่างใด
เขาวิ่งฝ่าห่ากระสุน และลูกปืนใหญ่ที่หล่นลงมาจากฟ้า แบกร่างคนเจ็บกลับมาที่จุดปลอดภัย ผลการกระทำนี้ทำให้เขาได้รับเหรียญกล้าหาญ Bronze Star ถึงสองครั้ง
1
ในช่วงสุดท้ายของสงครามแปซิฟิก ญี่ปุ่นกำลังแพ้ แต่รบสุดใจขาดดิ้น การรุกเข้าไปยึดเกาะแต่ละเกาะของญี่ปุ่นคือความตายของทั้งสองฝ่าย ต่างสูญเสียกำลังทหารจำนวนมาก
เมื่อถึงเดือนพฤษภาคม 1945 ญี่ปุ่นก็เหลือที่มั่นเพียงไม่กี่แห่งเพื่อต้านทัพสัมพันธมิตรซึ่งกำลังยาตราสู่แผ่นดินแม่ โอกินาวาเป็นหนึ่งในนั้น ทหารญี่ปุ่นได้รับคำสั่งให้ต้านสุดฤทธิ์ด้วยชีวิต ทั้งหมดถือคติ รบจนตัวตาย
ที่โอกินาวา ความสูญเสียของทหารอเมริกันมหาศาล เดสมอนด์ได้รับบาดเจ็บถึงสี่ครั้ง และเฉียดตายที่สมรภูมิโอกินาวา กองทหารของเดสมอนด์ได้รับคำสั่งให้ยึด Maeda Escarpment เป็นสันเขาที่เหล่าทหารเรียกว่า Hacksaw Ridge เพราะมันเป็นหน้าผาขาดสูงชัน เหมือนภูผาถูกใบเลื่อยหั่นขาด (hacksaw แปลว่า ใบเลื่อย ridge แปลว่าสันเขา)
1
กองทหารสหรัฐฯยึดยอดผาสำเร็จ แต่ทหารญี่ปุ่นกลับบุกเข้ามาอย่างฉับพลัน ทหารอเมริกันถอยร่นไม่เป็นกระบวน เหล่าทหารพากันปีนลงมาจากผาชัน
2
แต่เดสมอนด์ยังคงปักหลักบนยอดผาใบเลื่อย เขารู้ว่ายังมีทหารบาดเจ็บติดบนผานั้นอีกร้อยกว่าคน คนเหล่านั้นบาดเจ็บ หนีไปไหนไม่ได้เพราะข้าศึกล้อม ได้แต่นอนรอความตาย
1
แล้วเขาก็กระทำเรื่องที่เสี่ยงอันตรายอย่างยิ่งยวด เขาวิ่งฝ่าห่ากระสุนเข้าไปในสมรภูมิ แบกคนเจ็บออกมาทีละคน ๆ
1
ยุทธภูมิโอกินาวา พฤษภาคม 1945 (ภาพจาก AP)
เดสมอนด์ ดอสส์ ยืนบนผา Hacksaw Ridge
ยุทธภูมิโอกินาวา พฤษภาคม 1945
ไม่ว่าเหนื่อยหอบแค่ไหน อ่อนเปลี้ยเพียงใด เขาก็ไม่ยอมหยุดพัก แบกทหารบาดเจ็บออกมาทีละคน รวมเจ็ดสิบห้าคน
เมื่อตั้งหลักใหม่ ทหารอเมริกันยึดผาใบเลื่อยกลับไปได้
หลายวันต่อมาเกิดการปะทะครั้งใหญ่ เขาได้รับบาดเจ็บ และหลบในหลุมแห่งหนึ่ง ทันใดนั้นปรากฏระเบิดมือที่ทหารญี่ปุ่นโยนลงมาในหลุม ตามมาด้วยเสียงระเบิด แรงระเบิดเหวี่ยงร่างของเดสมอนด์ออกมากองบนพื้น สะเก็ดระเบิดสิบเจ็ดชิ้นฝังทั่วขาและตะโพกของเขา
2
เดสมอนด์ ดอสส์
เขาพยายามหนีออกไปสู่จุดปลอดภัย พลันเสียงปืนดังขึ้นนัดหนึ่ง กระสุนปืนจากสไนเปอร์ข้าศึกเจาะแขนซ้ายของเขา
1
บทบาทของทหารผู้ไม่จับปืนยุติลงแค่นั้น
1
เดสมอนด์ใช้เวลารักษาตัวอยู่นานจนหาย นอกเหนือจากเหรียญกล้าหาญ Bronze Star สองเหรียญ Purple Heart และอื่น ๆ เขายังได้รับเหรียญกล้าหาญ Medal of Honor จากวีรกรรมช่วยชีวิตเพื่อนทหารบาดเจ็บเจ็ดสิบห้าคน มันเป็นเกียรติสูงสุดที่ทหารคนหนึ่งจะได้รับจากชาติ
1
เขาเป็น conscientious objector คนแรกที่ได้รับรางวัลนี้
บางครั้งทหารผู้ไม่เคยจับปืนก็สามารถกระทำเรื่องใหญ่ได้มากกว่าทหารที่ถือปืน เพราะความกล้าหาญของมนุษย์มิได้อยู่ที่ขนาดของปืน มันอยู่ที่ขนาดของหัวใจ
4
หมายเหตุ
เดสมอนด์ ดอสส์ ตายที่บ้านในวันที่ 23 มีนาคม 2006 อายุแปดสิบเจ็ดปี
ดอสส์รับเหรียญกล้าหาญ Medal of Honor จากประธานาธิบดี แฮร์รี ทรูแมน วันที่ 12 ตุลาคม 1945

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา