6 มิ.ย. 2021 เวลา 23:55 • นิยาย เรื่องสั้น
พ่อพระนาซี
Blockdit Originals ซีรีส์บทความพิเศษ
เสียงร้องขอความช่วยเหลือของผู้หญิงดังลั่น เมื่อชายในเครื่องแบบทหารหลายคนรายล้อมร่างเปลือยของหญิงสาวคนหนึ่ง เธอกำลังจะถูกข่มขืนหมู่
 
มันคือเมืองนานกิงปี ค.ศ. 1937 กองทัพญี่ปุ่นบุกยึดเมือง เข่นฆ่าและข่มขืนคนไปทั่วเมืองอย่างเสรี เหยื่อคือหญิงสาวชาวจีนผู้เคราะห์ร้ายถูกทหารจากแดนอาทิตย์อุทัยพบ เธอร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครกล้าช่วย เพราะทหารญี่ปุ่นยิงใครก็ตามที่ไม่ชอบหน้าโดยไม่ต้องมีเหตุผล
6
ทันใดนั้นรถยนต์คันหนึ่งแล่นมาเทียบ ชายร่างใหญ่คนหนึ่งถลันออกจากรถ ตรงไปที่ทหารกลุ่มนั้น เขากระชากร่างทหารญี่ปุ่นบนร่างหญิงสาวออกมา
ชายคนนี้เป็นชาวตะวันตก ศีรษะล้าน สวมแจ็คเก็ต ผูกโบว์ไท เหมือนนักธุรกิจชาวตะวันตกทั่วไป แต่นัยน์ตาของชายคนนี้ แข็งกร้าว เขม่นมองทหารญี่ปุ่นอย่างไม่เกรงกลัว
2
ทหารญี่ปุ่นชักปืนขึ้นมาหมายยิงผู้มาขัดขวาง ชายตะวันตกชี้ไปที่ปลอกแขนของเขา มันเป็นตราสวัสดิกะของนาซี
1
ทหารญี่ปุ่นชะงัก แล้วพากันล่าถอยไป
ชายตะวันตกผู้นี้ชื่อ จอห์น ราเบ เป็นชาวเยอรมัน เขาเป็นผู้นำพรรคนาซีในนานกิง
2
จอห์น ราเบ
จอห์น ราเบ (John Rabe) เกิดที่ฮัมบูร์ก เยอรมนีในปี 1882 เมื่อโตขึ้น อีกาตัวนี้บินท่องโลก (Rabe แปลว่าอีกา) ไปทำงานที่แอฟริกาหลายปี
1
ปี 1908 อายุยี่สิบหก อีกาบินไปถึงเมืองจีน ทำงานในตำแหน่งระดับล่างที่บริษัทซีเมนส์จีน เขาทำงานหนัก ขยันขันแข็งไต่เต้าขึ้นมาตามลำดับ
1
ระหว่างปี 1910-1938 งานของเขาทำให้ต้องเดินทางไปเมืองต่าง ๆ ในจีน มุกเดน (เสิ่นหยาง) เทียนจิน ปักกิ่ง นานกิง
2
ก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง ตำแหน่งของเขาคือผู้จัดการทั่วไปในนานกิงซึ่งเป็นเมืองหลวงของจีนในเวลานั้น ดูแลสถานีไฟฟ้าของเมือง โดยใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าของซีเมนส์
1
บริษัทของเขาทำงานใหญ่หลายโครงการให้รัฐบาลจีน ดูแลระบบไฟฟ้านานกิง ระบบชุมสายโทรศัพท์ในกระทรวงต่าง ๆ ระบบสัญญาณเตือนในสถานีตำรวจและธนาคารทั้งหลาย ไปจนถึงเครื่องเอ็กซเรย์ในโรงพยาบาลกลาง นอกจากนี้ซีเมนส์ยังขายโทรศัพท์และอุปกรณ์ไฟฟ้า
ระหว่างทำงานที่นานกิง เขาป่วยเป็นโรคเบาหวาน ต้องพึ่งยาอินซูลินอย่างต่อเนื่อง
3
เขากลายเป็นเสาหลักของชุมชุนชาวเยอรมันในนานกิง เขาเปิดโรงเรียนชั้นประถมและมัธยมต้นสำหรับนักเรียนชาวเยอรมัน
วันที่ 3 สิงหาคม 1937 ญี่ปุ่นบุกเซี่ยงไฮ้ จอมพลเจียงไคเช็กสั่งสู้สุดฤทธิ์แต่แสนยานุภาพอันเกรียงไกรของญี่ปุ่นเหมือนคลื่นยักษ์โถมใส่กองทราย เซี่ยงไฮ้แตกในวันที่ 26 พฤศจิกายน สูญเสียชีวิตหลายแสนคนในสงคราม
2
จอห์น ราเบ (ซ้าย) หน้าสำนักงานบริษัทซีเมนส์ นานกิง 1935
เมืองต่อไปที่ญี่ปุ่นจะยึดคือนานกิง ญี่ปุ่นทิ้งระเบิดทางอากาศต่อเนื่อง คนต่างชาติพากันออกจากเมืองจีน คนจีนที่มีฐานะดีก็หนีเช่นกัน
รัฐบาลเยอรมนีสั่งให้ชาวเยอรมันออกจากเมืองจีน จอห์น ราเบ ให้ครอบครัวออกจากเมืองไป ส่วนตนเองอยู่เฝ้าจัดการเรื่องคนเดียว
1
ชาวตะวันตกในนานกิงหนีออกนอกเมืองหมด เหลือเพียงจำนวนราวยี่สิบสองคนไม่ยอมทิ้งคนจีนหนีเอาตัวรอดไป เป็นบาทหลวง มิชชันนารี นักธุรกิจ รวมทั้งนาซีสองคนคือ จอห์น ราเบ และนายพลอเล็กซานเดอร์ ฟอน ฟอลเคนฮาวเซน
1
นายพลเยอรมันผู้นี้เป็นที่ปรึกษาจอมพลเจียงไคเช็ก ทหารของเขาช่วยฝึกทหารจีนหน่วย 88 เขากับทหารเยอรมันกลุ่มหนึ่งยังคงอยู่ช่วยในเมืองจีน
1
แต่เบอร์ลินสั่งให้ฟอลเคนฮาวเซนกลับเยอรมนี มิเช่นนั้นครอบครัวจะได้รับโทษด้วย
ฟอลเคนฮาวเซนไม่มีทางเลือกต้องกลับ แต่ก่อนกลับช่วยเจียงไคเช็กวางแผนยุทธศาสตร์ต้านญี่ปุ่น
รังปืนกลทหารจีน ระหว่างการรบช่วงญี่ปุ่นบุกจีนในปี 1937
ก็เหลือแต่ จอห์น ราเบ
1
เขาเลือกที่จะอยู่ต่อ เมืองจีนเป็นบ้านของเขา
1
เขามองเห็นว่านานกิงจะแตกแน่ จึงร่วมกับคนจำนวนหนึ่งก่อตั้งเขตปลอดภัยหลายแห่งในนานกิง เป็นที่พักพิงของคนจีน เพื่อไม่ให้ทหารญี่ปุ่นฆ่า เขตปลอดภัยหลายแห่งตั้งบนพื้นที่ของสถานทูตต่าง ๆ และมหาวิทยาลัยนานกิง ให้ที่พักและอาหารแก่ชาวจีน
1
เขาได้รับเลือกเป็นหัวหน้าเขต เหตุหนึ่งเพราะเขาอยู่เมืองจีนมานานอีกเหตุหนึ่งเพราะนาซีเป็นพันธมิตรกับญี่ปุ่น สถานะนาซีของเขาอาจช่วยเจรจาเพื่อลดความสูญเสียชีวิตได้มากขึ้น
1
รัฐบาลญี่ปุ่นตกลงไม่บุกรุกเขตปลอดภัยนานาชาติเหล่านี้ โดยมีข้อแม้ว่าต้องไม่มีทหารจีนประจำอยู่
ทหารญี่ปุ่นบุกนานกิง
ทหารญี่ปุ่นกลางซากเมืองนานกิง
จอห์น ราเบ รู้จักพวกทูตญี่ปุ่นในนานกิง ซึ่งแนะนำให้เขาเดินทางออกไปเพื่อความปลอดภัย ทหารญี่ปุ่นยศพันตรีคนหนึ่งถามเขา "คุณจะอยู่ต่อไปทำไม? คุณจะเกี่ยวข้องกับกิจการการทหารของเราทำไม? มันสำคัญกับคุณยังไง? คุณไม่มีอะไรต้องสูญเสียที่นี่"
1
เขาตอบนายพันตรีญี่ปุ่นว่า "ผมอยู่ในจีนมาสามสิบปี ลูกหลานผมเกิดที่นี่ ผมมีความสุขที่นี่ ผมประสบความสำเร็จที่นี่ คนจีนดูแลผมดี แม้แต่ในช่วงสงคราม..."
4
เขาบอกทหารญี่ปุ่นว่า "ถ้าผมอยู่ที่ญี่ปุ่นสามสิบปี และคนญี่ปุ่นดูแลผมอย่างดี คุณก็แน่ใจได้ว่าในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉิน เหมือนตอนนี้ในจีน ผมก็ไม่มีทางทิ้งคนญี่ปุ่นเหมือนกัน"
4
นายพันญี่ปุ่นพอใจคำตอบนั้น และโค้งคำนับ จอห์น ราเบ อย่างนอบน้อม เพราะมันเป็นวิถีลูกผู้ชาย เหมือนหลักซามูไร
2
จอห์น ราเบ ก็มีเหตุผลอื่นที่ไม่ไปจากเมืองจีน เขาเชื่อว่าหากไปแล้ว ลูกจ้างบริษัทซีเมนส์ทั้งหมดจะถูกญี่ปุ่นฆ่าตาย อีกประการหนึ่ง คนเหล่านี้ยังมีหน้าที่ดูแลโรงงานไฟฟ้านานกิง ชุมสายโทรศัพท์ เพื่อให้นานกิงหายใจได้ต่อไป
2
เขาใช้บ้านและสำนักงานเป็นที่ซ่อนตัวของลูกจ้างและครอบครัวและชาวบ้านอื่น ๆ ที่หนีตายด้วย มากที่สุดเท่าที่พื้นที่อำนวย
2
ค่ำวันที่ 12 ธันวาคม 1937 ท้องฟ้าสว่างด้วยแสงเพลิง ญี่ปุ่นโจมตีนานกิงอย่างหนัก ทั้งเมืองจมในเปลวไฟ
3
ชาวบ้านจำนวนมากมาออแออัดที่ประตูรั้วหน้าเขตปลอดภัย ทุกคนรู้ว่าเมืองกำลังแตก จึงมาขอหลบภัย แต่พื้นที่เขตปลอดภัยแน่นขนัดอยู่แล้ว
1
จอห์น ราเบ สั่งเปิดประตูรั้ว
ชาวนานกิงห้าหมื่นคนยัดเข้าไปในพื้นที่เขตปลอดภัย 2.5 ตารางไมล์ กระจายไปทุกจุดของพื้นที่จนไม่มีที่ว่าง สนามหญ้า ทางเดิน นอนบนพื้น ทุกจุดที่พอเบียดเข้าไปได้
1
วันต่อมานานกิงก็แตก
1
พลเรือนนานกิงถูกทหารญี่ปุ่นจับตัว
เช้าวันต่อมา จอห์น ราเบ สำรวจตัวเมืองนานกิง พบเห็นแต่ศพชาวจีนที่ถูกญี่ปุ่นสังหาร ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน
2
ที่มุมหนึ่งของเมือง เขาพบทหารจีนราวสี่ร้อยคนกำลังมุ่งหน้าไปทิศหนึ่ง เขาเตือนว่ามีทหารญี่ปุ่นอยู่ ณ จุดที่ทหารจีนกำลังมุ่งหน้าไป เขาแนะนำให้ทหารจีนถอดเครื่องแบบ ทิ้งอาวุธ และมาร่วมในกลุ่มผู้ลี้ภัยในเขตปลอดภัยนานาชาติ เหล่าทหารจีนยอมทำตาม
2
ทหารจีนหน่วยอื่นก็พบชะตากรรมคล้ายกัน ติดกับในนานกิง ไปที่ไหนไม่ได้ เห็นชัดว่าจะต้องถูกทหารญี่ปุ่นฆ่าตายทั้งหมด จึงขอเข้าไปในเขตปลอดภัยนานาชาติเขตอื่น ๆ แม้เจตนาแรกของเขตปลอดภัยคือช่วยเฉพาะพลเรือน แต่ในที่สุดค่ายอื่น ๆ ก็ยอมให้ทหารจีนเข้าไปหลบภัย
2
หนังสือพิมพ์ญี่ปุ่นลงข่าวทัพญี่ปุ่นบุกนานกิงว่า ทหารญี่ปุ่นเข้าเมืองอย่างสันติ ทหารญี่ปุ่นเล่นกับเด็ก ๆ ชาวจีน แต่ความจริงตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง การเข่นฆ่าดำเนินไปทุกวัน การข่มขืนผู้หญิงในนานกิงเกิดขึ้นทุกวัน
3
เมื่อยึดนานกิง ทหารญี่ปุ่นบุกเข้าค้นบ้านเรือนทีละหลัง ยิงพลเรือนทิ้งอย่างเหี้ยมโหด
1
เมื่อนานกิงแตก พวกเขาก็ติดธงขาวรอบพื้นที่ กับธงองค์การกาชาดสากล จอห์น ราเบ สั่งให้ติดธงนาซีผืนใหญ่ เห็นเด่นชัดแต่ไกล
1
ตราสวัสดิกะที่นาซีนำไปใช้ในทางชั่วร้ายกลายเป็นยันต์คุ้มกันชีวิต
4
คืนวันที่ 14 ธันวาคม ทหารญี่ปุ่นจับคนจำนวน 1,300 คนจากเขตปลอดภัยแห่งหนึ่งไปยิงเป้า ในจำนวนนั้นมีทหารด้วย ทั้งหมดถูกมัดเชือกเป็นกลุ่ม และเดินไปสู่ความตาย
1
ช่วงหลายวันต่อมา ทหารญี่ปุ่นฆ่า ข่มขืน ฆ่าหมดทั้งชาวบ้าน ทหาร ตำรวจ ญี่ปุ่นฆ่าคนจีนไปราวสามแสนคน ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก
2
มีการแข่งขันกันว่าใครฆ่าคนจีนได้มากกว่า
2
บ้านเมืองถูกเผา คนถูกฆ่า ผู้หญิงถูกข่มขืน มันคือนรกบนดิน
บางวันทหารญี่ปุ่นข่มขืนผู้หญิงพันกว่าคน ทั้งหมดเป็นเด็กนักเรียนหญิงในโรงเรียนของพวกมิชชันนารีแห่งหนึ่ง มีการประเมินว่า ทหารญี่ปุ่นน่าจะข่มขืนผู้หญิงจีนไม่น้อยกว่าสองหมื่นคน
1
ซากศพชาวนานกิงที่ถูกทหารญี่ปุ่นสังหารริมฝั่งแม่น้ำ
ทัพญี่ปุ่นรุกนานกิงในปี 1937 (ภาพจาก AP)
จอห์น ราเบ พลันรู้สึกว่าต้องทำบางอย่างมากกว่าแค่เฝ้าดู จึงขับรถตระเวณเมืองนานกิง ป้องกันไม่ให้เกิดเรื่อง หยุดยั้งการข่มขืนและการฆ่า
1
บางวันเขาก็ขับรถพาผู้หญิงที่ถูกข่มขืนหมู่และถูกทำร้ายสาหัสไปโรงพยาบาล บางวันเขาไล่ทหารญี่ปุ่นที่กำลังหาเหยื่อข่มขืนไป บางครั้งก็กระชากร่างทหารที่กำลังข่มขืนออกมา
2
จอห์น ราเบ โทรเลขรายงานส่งไปให้ฮิตเลอร์ เรื่องทหารญี่ปุ่นปล้น ฆ่า ข่มขืนชาวเมืองนานกิง และโทรเลขหาเพื่อนที่มีเส้นสายถึงระดับบนให้ช่วยโน้มน้าวใจฮิตเลอร์ นอกจากนี้ยังเขียนจดหมายบอกรัฐบาลญี่ปุ่นด้วย แต่ไม่ได้ผล
1
การเข่นฆ่าดำเนินต่อไป
จอห์น ราเบ สั่งให้ผู้หญิงหลายร้อยคนมาหลบภัยข่มขืนเตรียมการเตือนภัยจากการข่มขืน ถ้าทหารญี่ปุ่นบุกเข้ามาหมายข่มขืน ให้เป่านกหวีด เขาก็ออกมาไล่ทหารญี่ปุ่นไป มันเกิดขึ้นบ่อยจนเขาแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน
1
คืนหนึ่งทหารญี่ปุ่นบุกเข้ามาในเขตบ้านของเขา จอห์น ราเบ ส่องไฟฉายใส่หน้าทหารญี่ปุ่น คนหนึ่งชักปืนขึ้นมาจะยิงเขา แต่เมื่อเห็นปลอกแขนติดตราสวัสดิกะ ก็หยุดชะงัก และถอยไป
3
จอห์น ราเบ ทำงานที่สำนักงานนานกิง
เมื่อเกิดการเผชิญหน้า จอห์น ราเบ จะชี้ไปที่ปลอกแขนพิมพ์ตราสวัสดิกะ ขู่ทหารญี่ปุ่นว่า "เฮ้ย! มึงรู้ไหมว่านี่คืออะไร?" มันใช้ได้ผล
2
ทหารญี่ปุ่นไม่กล้ายุ่งกับพวกนาซี เนื่องจากเป็นพันธมิตรสงครามกัน การทำร้ายหรือฆ่านาซีอาจทำให้เบื้องบนลงโทษสถานหนัก
1
ทหารญี่ปุ่นทุบตีทำร้ายคนชาติตะวันตกอื่น ๆ เช่น อเมริกัน แต่ไม่กล้าทำร้ายชาวเยอรมัน
1
แม้ จอห์น ราเบ และตราสวัสดิกะของนาซียังศักดิ์สิทธิ์พอ แต่ทหารญี่ปุ่นก็มักบุกเข้ามา แย่งอาหารบ้าง ข่มขืนผู้หญิงบ้าง
2
จอห์น ราเบ ช่วยผู้หญิงให้รอดจากการข่มขืนนับไม่ถ้วน ช่วยคนจากการถูกฆ่า ชาวจีนเห็นเขาเป็นดังเทพเจ้าผู้มาโปรด
2
ผู้หญิงหลายคนตั้งท้องเมื่อเข้ามาในเขต และคลอดลูก หากเป็นลูกชาย มักได้ชื่อ จอห์น ลูกสาวได้รับชื่อ ดอรา ตามชื่อภรรยาของเขา
3
ประวัติศาสตร์โลกบันทึกตรงกันว่า นาซีเป็นกลุ่มคนที่เลวร้ายที่สุดกลุ่มหนึ่งในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ แต่นาซีทุกคนชั่วร้ายจริงหรือ?
2
จอห์น ราเบ เป็นนาซี แต่สิ่งที่เขากระทำสวนทางกับที่นาซีส่วนใหญ่ทำ
1
สวัสดิกะเป็นสัญลักษณ์โบราณของฮินดู อินเดีย มีความหมายถึงความมงคล ความศักดิ์สิทธิ์ และจิตวิญญาณดีงาม จนกระทั่งฮิตเลอร์นำสัญลักษณ์นี้ไปใช้เพื่อความเกลียดชัง
3
แต่นาซี จอห์น ราเบ กลับนำสัญลักษณ์นี้มาใช้ช่วยชีวิตคน
3
เอกสารทางการของนานกิงในเวลาต่อมาบ่งว่าเขาช่วยชีวิตพลเรือนคนจีนราว 200,000 - 250,000 คน
ชาวจีนยกย่องนาซีคนนี้เป็นพระโพธิสัตว์ยุคใหม่
2
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 1938 เขาเดินทางกลับเยอรมนี ถึงในเดือนเมษายน เขาแสดงหลักฐานความทารุณโหดร้ายของทหารญี่ปุ่น
1
จอห์น ราเบ เดินสายเล็กเชอร์ตามสถานที่ต่าง ๆ เรื่องความโหดร้ายทารุณของทหารญี่ปุ่น เขายังเขียนจดหมายถึงฮิตเลอร์ ขอให้ฮิตเลอร์ช่วยปรามพวกญี่ปุ่น อย่าทำร้ายประชาชน
2
จดหมายจากชาวนานกิงที่ จอห์น ราเบ ช่วยชีวิต ถึง Carl Friedrich von Siemens ประธานบริษัท Siemens มกราคม 1938
จดหมายของเขาไปไม่ถึงฮิตเลอร์ ตรงกันข้ามเขาถูกเกสตาโปจับ สอบสวนนาน แต่ด้วยเส้นสายของบริษัทซีเมนส์ เขาได้รับการปล่อยตัว ถูกยึดฟิล์ม และถูกห้ามเล็กเชอร์เรื่องนี้อีก ต่อมาเขาก็ถูกปลดออกจากพรรคนาซี
2
เขาทำงานกับบริษัทซีเมนส์ต่อจนสิ้นสงครามโลก
ปลายสงครามฝั่งยุโรป โซเวียตบุกเข้าเบอร์ลิน ฮิตเลอร์ฆ่าตัวตาย จอห์น ราเบ ถูกโซเวียตจับ ต่อมาถูกส่งไปให้พวกอังกฤษ หลังจากสอบสวนอย่างหนัก อีกาก็เป็นอิสระในสภาพสิ้นเนื้อประดาตัว
1
เขายังคงทำงานให้บริษัท แต่ไม่ต่อเนื่อง เงินค่าจ้างน้อยมากจนอยู่ไม่ได้
2
เมื่อไม่มีงานทำ ก็ไม่มีเงินเลี้ยงครอบครัว จอห์น ราเบ ใช้เงินเก็บจนหมด เขากับครอบครัวอยู่ในอพาร์ตเมนต์ห้องเดียว กินอาหารไม่พอจนเป็นโรคขาดสารอาหาร ชะตาชีวิตพลิกผันกลายเป็นคนยากจน ครอบครัวอด ๆ อยาก ๆ
2
ในปี 1948 ข่าวความยากลำบากของ จอห์น ราเบ เดินทางไปถึงหูชาวนานกิง พากันเรี่ยไรเงินให้เขาสองพันเหรียญสหรัฐฯ นายกเทศมนตรีนานกิงเดินทางไปพบเขาที่เยอรมนี มอบอาหารให้ครอบครัวเขา ทุกเดือนชาวนานกิงตอบแทนบุญคุณโดยส่งอาหารให้เขา จนกระทั่งเขาตายในวันที่ 5 มกราคม 1950
5
สี่สิบเจ็ดปีต่อมา ป้ายหลุมศพของเขาถูกย้ายจากเบอร์ลินไปตั้งที่นานกิง เป็นอนุสรณ์สถานซึ่งชาวนานกิงไม่มีวันลืม
5
อีกาบินข้ามโลกกลับไป ณ สถานที่ที่มีคนมากมายรักเขา และไม่เคยลืมสิ่งที่เขาทำ
3

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา