25 ม.ค. 2021 เวลา 14:50 • ธุรกิจ
#คิดผิดคิดใหม่ได้นะ EP.4 : Idea is cheap !!! ไอเดียแทบไม่มีมูลค่าอะไรเลย จนกว่าคุณจะทำมันให้สำเร็จขึ้นมาได้จริง ดังนั้นการหวงไอเดียที่คุณคิดว่าดีไว้ ทั้งที่คุณก็ไม่ได้คิดจะทำมัน หรือไม่สามารถทำมันได้ ก็มีแต่ทำให้ไอเดียนั้นไร้ประโยชน์ไปจริงๆ
"ไอเดียผมดีมากเลยอาจารย์ แต่ผมไม่อยากพูดไป เดี๋ยวคนอื่นเอาไปทำ" นี่คือคำพูดหนึ่งที่ผมมักได้ยินเวลาเข้าไปสอนให้กับบริษัทหรือหน่วยงานต่างๆ
ทุกคนหวงไอเดียตัวเองเอาไว้ กอดมันประหนึ่งว่ามันเป็นทองคำล้ำค่า
แล้วพอผมถามต่อว่า คิดไอเดียนั้นมานานหรือยัง คำตอบที่ได้รับก็คือ หลายปีแล้ว
ผมจึงถามต่อไปว่า แล้วได้เริ่มนำไอเดียนั้นไปทำจริงหรือยัง หลายคนก็คงพอจะเดาออกใช่มั้ยครับว่าคำตอบที่ผมมักได้รับกว่า 99.9% คือ "ยัง"
ไม่กล้าถามต่อเลยว่า แล้วจะทำเมื่อไหร่
แล้วรู้อะไรมั้ยครับว่า ไอเดียเหล่านั้นมักเป็นไอเดียที่แก้ไขปัญหาให้กับตัวพวกเขาเองนี่แหละ
ตัวเองก็ยังไม่ยอมเริ่มทำ แล้วก็ไม่อยากให้คนอื่นเอาไปทำ ปัญหาที่ทำให้ตัวเองอึดอัดทนทุกข์อยู่ จึงไม่ได้รับการแก้ไขเสียที
ถ้ามีคนเอาไอเดียนั้นไปทำให้เกิดขึ้นได้จริง ปัญหาตัวเองก็จะหมดไปแล้วแท้ๆ น่าเสียดายเนอะ
ไอเดียธุรกิจก็เช่นกัน ตั้งแต่สมัยเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว บรรดา SMEs มือใหม่ที่เข้ามาขอรับคำปรึกษา ก็มักจะหวงเอาส่วนที่สำคัญที่สุดของธุรกิจเอาไว้ไม่ยอมบอกที่ปรึกษา เพราะกลัวความลับรั่วไหล
แต่ก็คาดหวังให้ที่ปรึกษาสามารถให้คำแนะนำได้ตรงจุด แก้ปัญหาได้ตรงประเด็น
แล้วมันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะครับ จริงมั้ย
มาถึงทุกวันนี้ เวลาผมได้เจอคนที่อยากเป็นสตาร์ทอัพหลายๆ คน ก็ยังไม่ยอมแชร์ไอเดียออกมา ให้ไปพิชชิ่งก็ไม่ไป กลัวความลับรั่วไหล แล้วเจ้าใหญ่ๆ เอาไปทำก่อน
แต่ก็คาดหวังให้นักลงทุนให้เงินมาลงทุน จะได้เอาไปทำธุรกิจตัวเองให้เกิดขึ้นมาได้จริง
แล้วนักลงทุนที่ไหนจะยอมให้เงินล่ะครับ
สุดท้ายไอเดียดีๆ นั้นก็ไม่ได้เกิดสักที เผลออีกทีผ่านไปปีสองปี ก็มีคนอื่นทำสำเร็จไปแล้ว
ไอเดียโดยตัวของมันไม่ค่อยมีมูลค่าอะไรหรอกครับ เพราะ "ใครๆ ก็คิดได้"
แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้
ถ้าไอเดียของคุณเป็นประเภทที่ว่า คนได้ยินปุ๊บ เอาไปทำตามได้ปั๊บ เชื่อผมเถอะครับว่า แค่วันแรกที่โปรดักส์คุณออกมาสู่ตลาด เขาก็จะใช้เวลาไม่ถึงเดือนในการทำตาม แล้วก็ทำได้ยิ่งใหญ่กว่าคุณแน่นอน
แปลว่า กลัวโดนลอกเลียนไอเดียไปก็เปล่าประโยชน์ครับ
ครั้งหนึ่งที่ผมเคยร่วมทีมกับพี่โต้ สุหฤท สยามวาลา (ขออนุญาตเอ่ยนาม) ตอนพี่โต้ลงสมัครเลือกตั้ง ผู้ว่า กทม.
มีหนึ่งนโยบายที่พี่โต้หาเสียงไว้ด้านการศึกษา ก็คือ "เลิกเกรียน" ตอนนั้นพี่โต้บอกว่าจะให้โรงเรียนในสังกัด กทม. เลิกบังคับเด็กตัดผมทรงนักเรียน เพราะเราเชื่อว่านั่นไม่ได้มีผลอะไรกับการเรียนรู้ของเด็ก แต่กลับเป็นการสร้างภาระให้ผู้ปกครองที่ต้องเสียเงินค่าตัดผมให้เด็กทุก 3 สัปดาห์
ไม่นานหลังจากที่เราดีเบตนโยบายนี้ไป กระทรวงศึกษาฯ ก็ออกประกาศยกเลิกการบังคับเด็กไว้ผมทรงนักเรียนออกมา
ในวันนั้นบางคนก็มองว่า เราเสียหมัดเด็ดที่ใช้เรียกคะแนนเสียงไป
แต่พี่โต้กลับบอกว่า "ดีใจ ที่เห็นไอเดียของเราถูกเอาไปทำในระดับที่ใหญ่กว่า ตอนแรกเราคาดหวังจะเปลี่ยนแค่ กทม. แต่กลายเป็นว่า การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ทั้งประเทศเลย ส่วนใครได้ผลงาน อันนั้นไม่ใช่สาระสำคัญอะไร ขอให้ประชาชนได้ประโยชน์ก็พอแล้ว" (ผมจำประโยคที่พี่โต้พูดไม่ได้เป๊ะๆ นะครับ แต่สาระสำคัญประมาณนี้)
นี่แหละครับ ต้นแบบตัวจริงของคนที่มีไอเดียมากมายเพื่อการพัฒนาประเทศ และไม่เคยหวงไอเดียไว้กับตัว ไม่หวังแค่ว่าตัวเองจะได้หน้าได้ชื่อ แต่หวังแค่ว่าประชาชนจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุด
แล้วคุณล่ะครับ มีไอเดียอะไรมั้ย ที่คุณฝังมันไว้ในไหหลังบ้าน เก็บมันไว้ในซอกหลืบของความทรงจำ หรือสมุดโน้ตที่เตรียมจะเอาไปทิ้งแล้ว
วันที่คุณไอเดียนั้นขึ้นมาได้ คุณรู้สึกตื่นเต้นกับมันมาก คุณอยากเห็นไอเดียนั้นปรากฎขึ้นมาบนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเพื่อตัวคุณ เพื่อองค์กรของคุณ หรือเพื่อประเทศชาติก็ตาม และแน่นอนว่า คุณอยากลงมือทำมันด้วยตัวเอง
แต่จนถึงวันนี้ คุณก็ยังไม่ได้ลงมือทำมันสักที
ถ้าคุณคิดว่าไอเดียนั้นดีจริง แก้ปัญหาได้จริง คุณอยากเห็นมันเกิดขึ้นมาจริงๆ เพียงแต่คุณยังไม่พร้อมที่จะทำมัน
เอาไอเดียนั้นมาบอกต่อให้คนอื่นเถอะครับ แล้วให้คนที่เขาทำได้ เอาไปทำ
แล้วคุณรู้อะไรมั้ย
จากประสบการณ์ของผมเองและคนที่เป็นเจ้าของไอเดียสร้างสรรค์มากมายเคยแชร์ให้ผมฟัง
ยิ่งเราเป็นคนที่มีไอเดีย แล้วพร้อมแชร์ออกไปให้คนอื่นรับรู้ ยินดีพูดคุยแลกเปลี่ยนไอเดียนั้นกับคนอื่นบ่อยๆ ไอเดียที่เรามีนั้น จะยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ คมขึ้นเรื่อยๆ เป็นไปได้จริงมากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่แค่นั้นนะ เราก็จะมีไอเดียใหม่เพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ มันเหมือนกับว่า พอเราปล่อยไอเดียเดิมออกไป สมองเราก็จะมีที่ว่างสำหรับไอเดียใหม่ แต่ที่ว่างนั้นจะขยายตัวใหญ่ขึ้น จากเดิมรับได้แค่หนึ่งไอเดีย กลายเป็นสองไอเดีย สามไอเดีย .... สิบไอเดีย
มาสร้างวัฒนธรรมการแชร์ไอเดียดีๆ เพื่อให้ใครบางคนเอามันไปทำให้เกิดขึ้นจริงกันเถอะครับ
ใครสนใจอยากแชร์ไอเดียกับเพื่อนๆ มาเจอกันในกลุ่มที่ผมตั้งขึ้นก็ได้นะครับ ชื่อกลุ่มว่า "สร้างความสำเร็จในแบบที่เป็นคุณ" https://www.facebook.com/groups/successinyourstyle
#โค้ชความคิด #โค้ชกาย #ฐิติกรพูลภัทรชีวิน
Illustration by Freepik Storyset

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา