26 ม.ค. 2021 เวลา 10:01 • หุ้น & เศรษฐกิจ
13 ข้อคิดการลงทุนในหุ้นของ "ปีเตอร์ ลินซ์"
หากต้องกล่าวถึงนักลงทุนแบบเน้นคุณค่า หรือนักลงทุนวีไอ (VI : Value Investor) ผู้ยิ่งใหญ่อันดับต้นๆในประวัติศาสตร์แห่งโลกการลงทุน ที่ชื่อว่า "ปีเตอร์ ลินซ์" (Peter Lynch) นักลงทุนชาวไทยมือเก๋าที่โลดแล่นอยู่ในวงการตลาดหุ้นมานานคงไม่มีใครไม่รู้จัก แต่สำหรับ "นักลงทุนหุ้นมือใหม่" อาจไม่เคยได้ยินชื่อเสียงเกียรติศัพท์ของเขามาก่อน คงไม่ใช่การพูดเกินความจริงไปนักถ้าหากจะเปรียบว่าลินซ์คือ "ครู" หรือแม้กระทั่ง "ศาสดา" ด้านการลงทุนหุ้นแบบเน้นคุณค่า (Value Investing) ที่เหล่านักลงทุนวีไอทั่วโลกให้การยอมรับนับถือในความสามารถมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ และยากเกินกว่าใครจะขึ้นมาทัดเทียม
3
cr. Heather Sten
ปีเตอร์ ลินซ์เกิดเมื่อปี ค.ศ.1944 และมีชื่อเสี่ยงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะผู้จัดการกองทุน "ฟิเดลลิตี้ แมคเจลลัน" (Fidelity Magellan) ในสหรัฐอเมริกา ระหว่างปี ค.ศ.1977 - 1990 ก่อนที่เขาจะเกษียณอายุตัวเองออกไปอย่างรวดเร็วเพื่อใช้เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตกับครอบครัวซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของเขา และทิ้งผลงานการบริหารจัดการกองทุนอย่างยอดเยี่ยมไว้เป็นอนุสรณ์เบื้องหลัง เขาสร้างผลตอบแทนทบต้นโดยเฉลี่ยได้ถึง 29.20% ต่อปี เป็นระยะเวลา 13 ปีติดต่อกันตลอดช่วงเวลาที่เขาบริหารกองทุนฟิเดลลิตี้ และสถิตินี้ยังคงเป็นประวัติศาสตร์แห่งโลกการลงทุนมาจนถึงปัจจุบัน
ด้วยความสามารถดังที่กล่าวมาของปีเตอร์ ลินซ์ ก็คงจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับ "นักลงทุนหุ้นมือใหม่" ที่จะได้รู้จักนักลงทุนวีไอที่เป็นตำนานให้มากขึ้นกว่านี้อีกสักนิด เพื่อให้เหล่ามือใหม่ได้เริ่มต้นจากการปรับทัศนคติ (Mindset) เกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นก่อนที่จะเข้าสู่สนามจริงอันโหดร้าย (ฮ่าๆ) ซึ่งผู้เขียนคิดว่าทัศนคตินั้นสำคัญมากๆในการเริ่มต้น สำคัญยิ่งกว่าวิธีการซื้อขายหุ้นเสียอีกนะครับ และในบทความนี้จะพาเหล่านักลงทุนมือใหม่ตัวน้อยๆไปทำความรู้จักกับแนวคิดด้านการลงทุนในหุ้นของลินซ์ที่ถูกทบทวนกลั่นกรอง ตกผลึกมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษผ่านประสบกาณ์อันโชกโชนของเขา นำมาบอกเล่าต่อแบบกระชับรวบรัดให้เข้าใจได้อย่างง่ายๆกันครับ
1. ถ้าหากคุณเตรียมตัวที่จะเข้าลงทุนในบริษัทใดก็ตาม คุณต้องอธิบายภาพรวมทั้งหมดของธุรกิจให้ได้ ด้วยภาษาง่ายๆ และรวดเร็วพอที่จะทำให้เด็กอายุ 7 ขวบ ฟังได้อย่างเข้าใจ และไม่เบื่อไปเสียก่อน
1
2. การลงพื้นที่ เข้าไปในร้านค้าและทดลองใช้สินค้า คือสิ่งสำคัญในการวิเคราะห์กิจการ
2
3. การศึกษาด้านประวัติศาสตร์และปรัชญานั้นมีประโยชน์มากๆสำหรับการลงทุนหุ้น
1
4. คณิตศาสตร์ที่จำเป็นต้องใช้คำนวณตัวเลขต่างๆ เพื่อการลงทุนในตลาดหุ้นนั้นเป็นเพียงการคำนวณหาค่าพื้นฐานง่ายๆเท่านั้น
5. ข่าวสารตามสื่อต่างๆที่เราได้รับในทุกๆวันนั้น ส่วนใหญ่แล้วมีแต่จะทำให้การลงทุนของคุณแย่ลง
1
6. เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ ที่ชอบทำอะไรเสี่ยงๆและสนุกๆ
cr. FIDELITY VIEWPOINTS
7. ในโลกของธุรกิจ ถ้าคุณเก่ง คุณจะทำถูก 6 ใน 10 ครั้ง ไม่มีใครทำถูก 9 ใน 10 ครั้งแน่นอน และการแข่งขันมันไม่สนุกหรอก ที่สนุกคือการกินรวบ (ผูกขาดทางธุรกิจ)
8. การลงทุนในหุ้นไม่ใช่การเสี่ยงโชค!! เพราะมันมีธุรกิจอยู่เบื้องหลัง
9. การขาดทุนหุ้นไม่ใช่เรื่องน่าอาย ที่น่าอายคือการถือหุ้นแย่ๆไว้ แล้วยังไปซื้อเพิ่มในตอนที่พื้นฐานกำลังแย่ลงไปอีกเรื่อยๆ
10. การลงทุนหุ้นก็เหมือนกับการมีลูก อย่ามีมากเกินไปจนดูแลไม่ไหว ถ้ายังไม่เจอหุ้นที่น่าสนใจมากพอก็จงเก็บเงินสดเอาไว้ก่อน จนกว่าคุณจะหาสิ่งที่ดีที่สุดเจอ
11. คนที่ขยันสืบเสาะหาหุ้นที่ดีตลอดเวลาคือ "ผู้ชนะ" ในตลาดหุ้น
12. การนั่งวิเคราะห์ถกเถียงเรื่องการลงทุนนั้นไม่มีประโยชน์ สิ่งที่ดีที่สุดคือลงมือทำซะ
13. ถ้าหากคุณประสบความสำเร็จในการลงทุนแล้ว เมื่อเดินทางมาถึงจุดหนึ่งคุณจะมีทางเลือกอยู่สองทาง หนึ่งคือ เป็นทาสของเงินโดยการหมกมุ่นกับการทำให้เงินงอกเงยมากขึ้นไปเรื่อยๆ หรือสองคือปล่อยให้เงินที่คุณหามาได้นั้นรับใช้คุณ!!
7
ข้อคิดทั้ง 13 ข้อนี้เป็นเพียงส่วนเสี้ยวหนึ่งที่ตกผลึกมาจากแนวคิดของปีเตอร์ ลินซ์ เท่านั้น ซึ่งต่อให้เวลานั้นผ่านล่วงเลยมานานเพียงใดจนถึงปัจจุบัน ข้อคิดเหล่านี้ก็ยังคงมีคุณค่า และใช้ได้ผลจริงในตลาดหุ้น รวมถึงการลงทุนด้านอื่นๆเป็นอย่างดีเสมอมา พิสูจน์แล้วด้วยนักลงทุนวีไอรุ่นหลังที่ประสบความสำเร็จโดยเดินตามรอยของลินซ์ และปรับเปลี่ยนแนวทางบางอย่างให้ย้อนกลับมาเป็น "เอกลักษณ์ของตนเอง"
2
ยังมีข้อคิดอีกมากมายมหาศาลในด้านการลงทุนหุ้นที่มือใหม่อย่างเราๆจะต้องเรียนรู้อีกมากมาย ค่อยๆเรียนรู้ ศึกษาทบทวน วิเคราะห์วางแผน และลงมือทำอย่างมีวินัยไปพร้อมๆกันนะครับ :)
หากผู้อ่านท่านใดทั้งมือใหม่หรือมือเก่าต้องการศึกษากระบวนการคิดเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นของปีเตอร์ ลินซ์ เพิ่มเติม ทางผู้เขียนก็มีหนังสือของลินซ์มาแนะนำถึง 3 เล่มด้วยกัน ซึ่งทั้ง 3 เล่มนี้สำหรับนักลงทุนสายวีไอสูตรเข้มข้นแล้วกล่าวตรงกันว่า "The must" คือ "ต้องอ่าน" ก่อนเข้าสู่สนามจริงเลยทีเดียว ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ซึ่งทั้ง 3 เล่มนี้ได้รับการแปลเป็นภาษาไทยทั้งหมดแล้ว ดีจริงๆ ขอให้มือใหม่ทุกท่าน "สนุก" กับการลงทุนนะครับ :)
cr. INVESTING.in.th
1. เหนือกว่าวอลสตรีท (One up on Wall Street)
ผู้เขียน : ปีเตอร์ ลินซ์ (Peter Lynch)
ผู้แปล : ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
2. ตีแตกวอลสตรีท (Beating the Street)
ผู้เขียน : ปีเตอร์ ลินซ์ (Peter Lynch)
ผู้แปล : ดร.กุศยา ลีฬหาวงศ์
3. เรียนหุ้นกับปีเตอร์ ลินซ์ (Learn to Earn)
ผู้เขียน : ปีเตอร์ ลินซ์ (Peter Lynch) และ จอห์น ร็อธชิลด์ (John Rothchild)
ผู้แปล : พิริยะ พาณิชย์ชะวงศ์
อ้างอิง
ลงทุนแมน. (2018). 'ตำนาน ปีเตอร์ ลินซ์'. สืบค้นเมื่อวันที่ 26 มกราคม, 2021.
Fidelity View Points. (2019). 'Lessons from an investing legend
Former Fidelity fund manager Peter Lynch shares some of his secrets to success'. Retrieved January 26, 2021.
Leslie P. Norton. (2019). 'Peter Lynch Draws on 50 Years of Stock-Picking to Find Growth Opportunities in Today’s Market' Retrieved January 26, 2021.
โฆษณา