เริ่มต้นตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป ทางเพจมีความคิดคร่าวๆ ว่าอยากจะมีช่วงพิเศษสัปดาห์ละ 1 บทความ ใช้ชื่อว่า “One stock per week” รายละเอียดเป็นการนำเสนอข้อมูล “หุ้นรายตัว” ที่คิดว่าน่าสนใจลงทุน เหตุผลหลักมีสองประการคือ กระตุ้นตัวผมเองให้ “ขยัน” ทำการบ้านหุ้นมากกว่านี้ และบทความนี้อาจเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุน “มือใหม่” หลายๆท่านที่เริ่มต้นศึกษา ยังจับต้นชนปลายไปถูก ไม่รู้ว่าการที่จะเลือกลงทุนในหุ้นสักบริษัทหนึ่ง เราจำเป็นต้องรู้อะไรบ้างในระดับ “พื้นฐาน” สำหรับท่านที่มีประสบการณ์มาพอสมควรแล้ว คงไม่มีประโยชน์มากนัก ก็ถือเสียว่าอ่านกันเล่นๆ ทบทวนความทรงจำครับ เพราะข้อมูลไม่ได้เจาะลึกและเฉียบคมอะไรมากมาย ....................... บทความไม่ได้เป็นการชี้นำ ชักจูง หรือเชิญชวนให้เข้าลงทุนแต่อย่างใด ไม่มีการนำเสนอว่าหุ้นตัวนั้นตัวนี้ราคาถูกหรือแพง ซื้อหรือขายดีหรือไม่ เป็นเพียงการรวบรวมข้อมูลพื้นฐานระดับเบื้องต้น (ปัจจัยเชิงคุณภาพ) จากรายงานประจำปี งบการเงิน Opportunity Day ข่าวสารที่เกี่ยวข้องตามสื่อต่างๆ ปัจจัยทางเศรษฐกิจ ซึ่งหาอ่านกันได้ทั่วไป ผนวกกับการวิเคราะห์ขั้นพื้นฐานเท่าที่ประสบการณ์และความรู้ผมจะพึงมี ว่าเหตุใดบริษัทดังกล่าวจึงน่าสนใจ ถือเสียว่าเป็นบทความเพื่อ “ฝึกฝน” กระบวนการลงทุนไปพร้อมๆกัน ระหว่างทางหากมีส่วนใดผิดพลาด ขาดตกบกพร่อง ข้อแนะนำเพิ่มเติม สามารถสื่อสารกันได้เต็มที่ครับ ....................... ข้อมูลหุ้นไม่ได้จำกัดเพียงเฉพาะหุ้นไทย แต่จะพยายามมองภาพรวมตลาดหุ้นใหญ่ๆทั่วโลกในเชิงเปรียบเทียบ แน่นอนว่าช่วงแรกคงมุ่งเน้นที่ตลาดหุ้นไทยเป็นหลัก เหตุเพราะหาข้อมูลได้ง่าย ใกล้ชิด มีประสบการณ์ ปราศจากข้อจำกัดด้านภาษา ในอนาคตหากอยู่ตัวแล้วก็จะพยายามเพิ่มหุ้นต่างประเทศเข้ามาเรื่อยๆ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในด้านการพัฒนาตนเองแก่ตัวผมเองและเพื่อนนักลงทุนทุกท่านนะครับ ................................................ ขอให้มีความสุขกับการลงทุน ในทุกๆวันนะครับ
ทัศนคติ หลักการ และแนวคิดด้านการลงทุนในหุ้นแบบเน้นคุณค่า สำหรับนักลงทุนผู้มุ่งมั่น
เรื่องเล่าแนวคิด หลักการ และกระบวนการลงทุนแบบเน้นคุณค่า (Value investment : VI) ผ่านประสบการณ์อันยาวนานจากนักลงทุนวีไอที่ได้รับการยอมรับ มีชื่อเสียงทั้งระดับโลกและในประเทศไทย ทุกเรื่องเล่าได้รับการพิสูจน์เชิงประจักษ์ผ่านกาลเวลาว่าสามารถประยุกต์ใช้ ปฏิบัติตาม และประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นได้จริง “หลักการลงทุนแบบเน้นคุณค่า” คือแนวคิดซึ่งมุ่งเน้นกระบวนการแสวงหามูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์ต่างๆ ผ่านการสืบค้นข้อมูลปัจจัยเชิงพื้นฐาน คิด วิเคราะห์ ตั้งสมมติฐาน และคาดการณ์ไปยังอนาคตในระยะยาว พร้อมจินตนาการว่าสินทรัพย์เหล่านั้นมี “มูลค่า” หรือ “คุณค่า” มากเพียงพอที่เราจะฝากชีวิตทางการเงินให้เติบโตต่อไปในอนาคตได้หรือไม่? ซีรีส์หลักการลงทุนในหุ้นแบบเน้นคุณค่าตั้งแต่พื้นฐานเริ่มต้นสำหรับมือใหม่ จนกระทั่งสามารถพึ่งพาตนเองและยืนหยัดอยู่ในตลาดหุ้น ไม่ไหวเอนไปกับคลื่นมวลชน ลงทุนและใช้ชีวิตอย่างสบายใจ โดยไม่จำเป็นต้องถามหาความคิดเห็นจากผู้ใด เหตุเพราะการลงทุนเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล และอิสรภาพทางการเงินอย่างยั่งยืนเป็นเรื่องที่เราต้องกำหนดมันด้วยตนเอง
ย้อนอดีตวันเวลากลับไปราว 4-5 ปีก่อน ผมได้รู้จักตลาดหุ้น พร้อมอาการหลงใหลใฝ่ฝันและเป้าหมายของชีวิตอันสดใหม่ “อิสรภาพทางการเงิน” สำหรับคนทั่วไปคือเรื่องเพ้อฝัน หรือประโยคจูงใจลวงโลกของเหล่ามิจฉาชีพปลิ้นปล้อนทั้งหลาย หากแต่สำหรับนักลงทุนนั้น “อิสรภาพทางการเงิน” คือเป้าหมายศักดิ์สิทธิ์อันสูงสุด พาลพร่ำเพ้อคิดว่าหากเรามีความมุ่งมั่นมากพอ นี่คงเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ไกลเกินกว่ามนุษย์คนหนึ่งจะไขว่คว้ามากนัก และตลาดหุ้นคืออาวุธเคลือบน้ำตาล ที่จะนำพาเราพุ่งทะยานฟันฝ่าไปสู่ปลายทาง บางครั้งก็หอมหวานหยาดเยิ้ม บางครั้งก็ย้อนกลับมาทำร้ายเราจนดวงตาฉ่ำน้ำพร่าเลือน มองไม่เห็นหนทางที่จะก้าวเดินต่อไป ................................................ นับจากนั้นเป็นต้นมาด้วยความหมกมุ่นหลงใหลอันเอ้อล้นต่อเป้าหมาย ผมมุ่งมั่นศึกษาเรียนรู้กระบวนยุทธการลงทุนในหุ้นจากทุกช่องทาง เท่าที่ความพยายามของคนขี้เกียจโดยสันดานอย่างผมจะสามารถทำได้ ไม่รู้ว่าโชคชะตาอำนวยหรือกลั่นแกล้ง ผมได้รู้จัก “แนวคิดการลงทุนแบบเน้นคุณค่า (Value investment)” หลังจากเพิ่งปวารณาตนเองเป็นนักลงทุนผู้มุ่งมั่นคนหนึ่งได้ไม่นานนัก แค่เพียงไม่กี่เดือนหลังจากได้รู้จักตลาดหุ้นกระมัง ................................................ ดั่งคนใจง่าย ผมกรีดเลือดสาบานตนเป็นคู่ชีวิตกับเขาเสียแล้ว “แนวคิดแบบวีไอ” นี่แหล่ะถูกจริตมากที่สุด จนคิดจะร่วมหอลงโลงกันไปตลอดชีวิต จริงๆแล้วผมไม่ได้อยากร่ำรวยเลิศเลออะไรมากมายขนาดนั้นหรอก ไอ้ความเฟ้อฝันของผมน่ะ แค่อยากมีทรัพย์สินพอประมาณที่จะคลายกังวลต่อโลกแห่งความเป็นจริงอันโหดร้าย ผมไม่ได้อยากมีชีวิตในฝันมากนัก ผมไม่ได้ต้องการสิ่งใดอันเกินไปกว่าความต้องการขั้นพื้นฐาน คุณภาพชีวิตที่ดีงามตามอุดมคติส่วนตัว ใช้ชีวิตตามครรลองที่เป็นคนขาวๆเทาๆอย่างเงียบเชียบ ไม่ยี่หระต่อโลกรอบตัวมากนัก ไม่สร้างความเดือดเนื้อร้อนใจให้ผู้ใด เอื้ออารีผู้อื่นตามกำลังและตามสมควร ................................................ ณ ช่วงเวลานั้น ผมไม่มีเพื่อนนักลงทุนในชีวิตจริงที่สามารถสัมผัสน้ำเสียง เรือนกาย หรือกลิ่นอายใดๆแม้แต่คนเดียว หลังจากได้สนิทสนมกับ “แนวคิดแบบวีไอ” พอหอมปากหอมคอ ผมเริ่มมีเพื่อนนักลงทุนผ่านเข้ามาในชีวิตสักหยิบมือ แลกเปลี่ยนทัศนคติกันผ่านเพียงตัวอักษรอย่างฉาบฉวยเท่านั้น แต่ตัวอักษรเหล่านั้นเสมือนขี้ผึ้งเคลือบหัวใจระหว่างเส้นทางอันโดดเดี่ยวทั้งชีวิตจริงและชีวิตในโลกการลงทุน ก็ผ่านมาแล้ว 4-5 ปี ผมไม่แน่ใจว่าได้พัฒนาตนเองหรือเรียนรู้สิ่งใดมากมายนักหรือไม่ คุ้มค่ากับวันเวลาที่สูญเสียไปหรือเปล่า ผมได้รู้จักแนวคิด หลักการ กระบวนการ ทัศนคติ จากบุคคลที่เราเชื่อมั่น และประสบการณ์จากการลงมือกระทำมันด้วยตนเอง ................................................ เหมือนสวรรค์ผลักอีกแล้ว ผมได้รู้จักเว็บบอร์ดไทยวีไอ (https://board.thaivi.org/) เพียงไม่กี่เดือนหลังจากปราวรณาตนเป็นนักลงทุนผู้มุ่งมั่นอีกเช่นกัน แล้วจะปันใจให้แนวคิดแบบอื่นได้อย่างไรเล่า ในเมื่อทุกอย่างมันเพียบพร้อมและถูกจริตเสียขนาดนี้ ................................................ หากให้เปรียบนักลงทุนหุ้นที่เน้นวิเคราะห์ปัจจัยเชิงคุณภาพเป็นเสมือนพระเซน ไทยวีไอ (THAI VI) ก็คงเหมือนวัดเซนที่มีสวนหินแห้งกว้างใหญ่ตั้งอยู่ริมทางอย่างโดดเดี่ยว มีพระเซนท่าทางยียวนซึ่งพร้อมที่จะโบยตีหักล้างทุกความเชื่อมารวมตัวกันนั่งล้อมวงอย่างเงียบสงบ แน่นอนล่ะ บุคคลที่ผมเชื่อมั่นในโลกแห่งการลงทุนเกือบทุกคนเคยผ่านการปฏิบัติธรรมข้างสวนหินดังกล่าวนี้ ................................................ หากสมาคมไทยวีไอเปรียบเสมือนวัดเซน นักลงทุนเปรียบเสมือนพระเซนลูกวัด “หลักสูตรอบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า : THAI VI” ก็คงเสมือนสวนหินแห้งกระมัง นัยความหมายคือตัวหลักสูตรคงไม่ใช่จุดหมายปลายทางแห่งปัญญาความรู้ หากเป็นเพียงสื่อกลางระหว่างตัวนักลงทุนและองค์ความรู้ที่ล่องลอยอยู่ในความรู้สึกนึกคิดของเราเอง ................................................ ในฐานะนักลงทุนเน้นคุณค่าผู้มุ่งมั่น การได้เข้าร่วมอบรมหลักสูตรไทยวีไอถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด เฉกเช่นหากคุณไปเที่ยววัดเซนในประเทศญี่ปุ่น คุณจะพลาดไม่ไปนั่งหย่อนแข้งปลดปล่อยวันเวลาแล้วจ้องมองสวนหินสักครู่หนึ่งเลยหรือ? ต่อให้ผู้คนจะเบียดเสียดมากเพียงใดก็ตาม ผมเป็นหนึ่งในนักลงทุนจำนวนมากที่แอบมองสวนหินนั่นอยู่ห่างๆมานานแล้ว ถึงเวลาต้องขยับตัวให้ใกล้ชิดมากกว่านี้อีกหน่อย ................................................ สมัครอบรมรุ่นที่ 18 : ไม่ทัน สมัครอบรมรุ่นที่ 19 : ไม่ทัน สมัครอบรมรุ่นที่ 20 : ไม่ทัน สมัครอบรมรุ่นที่ 21 แบบไม่คิดอะไรเพราะถอดใจแล้ว : ทัน ได้เรียน อ่าว… ... หลายครั้งความสำเร็จก็คงต้องพึ่งพาโชคชะตาและจังหวะเวลา ดั่งที่นักลงทุนผู้มากประสบการณ์ดั่งเจ้าอาวาสวัดเซนหลายรูปได้กล่าวไว้จริงๆ ถึงคราวของฉันเสียที… ................................................ อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น หลักสูตรนี้อาจไม่ใช่จุดหมายปลายทางแห่งปัญญาและองค์ความรู้ทั้งมวลในโลกการลงทุน เพราะโลกใบนี้มีตัวแปรมากมายเหลือเกินที่อาจทำให้ทุกอย่างแปรเปลี่ยนไปจากสิ่งที่คุณคาดการณ์ไว้ สำหรับผมนั้นหลักสูตรไทยวีไอเสมือนสื่อกลางระหว่างตัวคุณและองค์ความรู้ด้านการลงทุนแบบเน้นคุณค่าที่พยายามขมวดปมความคิดในสมองมาตลอดเส้นทางตั้งแต่เริ่มต้นแบกกระเป๋าออกเดินทางในตลาดหุ้น ไม่มีสิ่งใดมาการันตีว่าเมื่อคุณผ่านหลักสูตรนี้แล้วจะร่ำรวยหรือประสบความสำเร็จในโลกการลงทุนเสียเมื่อไหร่ล่ะ ................................................ สิ่งที่ผมได้รับกลับมาหลังจากผ่านการอบรมหลักสูตรนี้คือ “การจัดระเบียบทางความคิดและทัศนคติ” ซึ่งสำคัญมากๆในโลกการลงทุน และ “เพื่อน” ผมหมายถึงเพื่อนที่มีเป้าหมายและอุดมการณ์คล้ายคลึงกับคุณ คนที่คุณสามารถสัมผัสแววตาท่าทางของพวกเขาได้จริงๆ มิใช่เพื่อนผ่านตัวอักษรที่ผมเคยมีมาในอดีต สิ่งเหล่านี้สำคัญไม่น้อยไปกว่าชุดความรู้ใดๆเลย คล้ายๆแนวทางปรัชญาเซนนั่นล่ะครับ เพื่อนนักลงทุนที่ดีจะคอยเขย่า กระทุ้ง ความคิดคุณอยู่เสมอ และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เปลวไฟแห่งความหวังที่จะเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทางอันไกลโพ้นไม่มอดดับลงไปเสียก่อน ................................................ ผมยังคงเป็นคนขี้เกียจโดยสันดานเหมือนเดิม ... ผมยังคงไม่มีอิสรภาพทางการเงิน ... ผมยังคงต้องดิ้นรนต่อสู้อีกมากมายสำหรับด้านอื่นๆของชีวิต ... และผมยังคงมีความฝัน ................................................ ‘หลักสูตรอบรม THAI VI : 21’ เข้ามาเขย่าตัวผมแรงๆว่ายังมีสิ่งที่ผมไม่รู้อีกมากมาย และชีวิตนี้ไม่มีวันที่จะเรียนรู้ได้ทั้งหมดหรอก เลือกทำในสิ่งที่ถูกจริต มองโลกตามความเป็นจริง ตัดทิ้งสิ่งที่คอยฉุดรั้งมิให้คุณเดินทางไปสู่จุดหมายที่ออกแบบมาอย่างเฉพาะเจาะจงเพื่อตัวคุณเองเพียงเท่านั้น ................................................ พื้นที่ด้านล่างของบทความนี้อุทิศให้กับ ‘[บทสรุป] หลักสูตรอบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า : THAI VI 21’ ที่ผมได้พยายามสรุปอย่างสะเปะสะปะเอาไว้เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา อาจมีข้อผิดพลาดบางส่วนหรือไม่ครบถ้วนในทุกช่วงเวลา กราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ถือเสียว่าผมกำลังพยายามบำเพ็ญตนเยี่ยงพระเซน “ยืดหยุ่น ตั้งใจ รับรู้ และรู้จักปล่อยในเวลาที่ควรวาง” ... ขอให้มีความสุขกับการลงทุน ในทุกๆวันนะครับ
หนังสือด้านการลงทุนในหุ้น โทนสีเข้มปกแข็งแสนเรียบง่ายงดงาม การออกแบบประณีตบรรจง จัดวางอยู่ภายในงานสังสรรค์ครบรอบ 20 ปี ‘สมาคมไทยวีไอ’ ที่เพิ่งผ่านมาไม่นาน เป็นหนังสือที่รวบรวมองค์ความรู้และประสบการณ์อันมีคุณค่า รูปเล่มสวยงามโดดเด่นในบรรดาหนังสือหมวดเดียวกัน ........................... “ตลอดช่วงระยะเวลาที่ลงทุนมา คุณได้เรียนรู้ ได้ข้อคิดอะไรบ้าง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อตนเอง ทั้งด้านการลงทุน และการใช้ชีวิต?” ... ประโยคดังกล่าวคือ “สารตั้งต้น” ของทุกตัวอักษรซึ่งจะปรากฏอยู่ภายในหนังสือเล่มนี้จวบจนหน้าสุดท้าย เป็นคำตอบต่อข้อคำถามอันสั้นกระชับซึ่งถูกกลั่นกรองมาจากทั้งชีวิตของพวกเขาทุกคน ที่คุณสามารถพบเจอและทำความรู้จักกันเท่าที่หนังสือดีๆเล่มหนึ่งจะมอบคุณค่าให้แก่กันได้ มันมีอะไรที่มากไปกว่าหลักการลงทุนอันดาษดื่น หากแต่มันถลำลึกไปจนถึงแก่นสารของชีวิต ........................... พวกเขา (สมาคม) ใช้คำว่า “หนังสือเล่มนี้เปรียบเสมือนแผนที่บอกทิศทาง เพื่อให้คุณพกพาเดินทางไปจนถึงเป้าหมายในวิถีทางของตนเอง วิถีซึ่งจะนำพาให้เราและผู้คนรอบตัว มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม” ........................... คุณได้ยินหรือได้อ่านคำว่า “เงิน กำไร ขาดทุน” ไปบ้างหรือยัง? ผมคิดว่าหนังสือการลงทุนเล่มนี้จะปรากฎตัวอักษรดังที่ว่าไว้น้อยที่สุดในรอบหลายปี เท่าที่หนังสือการลงทุนเล่มหนึ่งจะสามารถหลีกเลี่ยงคำจำเริญใจเหล่านั้นได้ แล้วมันจะเป็นหนังสือหุ้นได้อย่างไรหากไม่ค่อยมีคำจำพวกนั้นล่ะ? ........................... “ค้นหาความได้เปรียบ สร้างความแตกต่าง เรียนรู้จากความผิดพลาด เชื่อมั่นในตนเอง เปลี่ยนความมุ่งมั่นตั้งใจให้เป็นการลงมือทำ เดินทางไปสู่ความเพียงพอและชีวิตอันสมดุล” ... ประโยคดังกล่าวนี้อาจแทนคำตอบได้ไม่มากก็น้อย ว่าเหตุใด “สมาคมไทยวีไอ” จึงยืนหยัดอย่างไม่สั่นคลอนมาได้ตลอดกว่า 20 ปี จนถึงวันนี้ โดยมิได้มุ่งหวังเพียงสร้างนักลงทุนผู้เจนจัดและเชี่ยวชาญ หากแต่มุ่งหวังเพื่อสะท้อนความเป็นมนุษย์ที่ซุกซ่อนอยู่ภายในจิตใจเราทุกคน ความเป็นมนุษย์ที่ล้วนประสานเกาะเกี่ยวโยงใยเข้าหากันจนเกิดรูปแบบทางสังคม สังคมในอุดมคติของใครหลายๆคน ........................... เนื่องจากหนังสือเล่มนี้ถูกจัดพิมพ์ออกมาจำนวนน้อยมาก จึงมีอากัปอาการ “ขาดตลาด” อยู่เนืองๆ ในอนาคตทางสมาคมอาจทยอยจัดพิมพ์ออกมาให้เพียงพอต่อความต้องการ และในบทความนี้ผมไม่ได้สรุปสาระสำคัญจนครบทุกคนทั้งเล่มนะครับ เหลือไว้ให้ได้ลุ้นซื้อหามาอ่านกันบ้าง ฮ่าๆ สุขสันต์วันครบรอบ 20 ปี “สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย)” ... ขอให้มีความสุขกับการลงทุน ในทุกๆวันนะครับ