28 พ.ย. เวลา 04:03 • หุ้น & เศรษฐกิจ
📊[EKH] : OPPDAY, MD&A Q3/2024 (พร้อมงบการเงินย้อนหลัง 5 ปี / 11 ไตรมาส)
🏢บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) : [EKH]
🟢ผลการดำเนินงาน Q3/2024 (เปรียบเทียบ YoY)
💵รายได้รวม : 376 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 8%) สาเหตุหลักคือ การเพิ่มขึ้นของผู้รับบริการโดยเฉพาะผู้ป่วยเด็กที่ ‘โรงพยาบาลเอกชัย’ การเพิ่มขึ้นของผู้รับบริการโดยเฉพาะชาวจีนที่ ‘ศูนย์ผู้มีบุตรยาก’ และการเพิ่มขึ้นของผู้รับบริการที่ ‘โรงพยาบาลคูน’
🔹 ผู้ป่วยใน (IPD) : 209 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% (คิดเป็น 56% ของรายได้โรงพยาบาล) โรงพยาบาลเอกชัยมีอัตราการครองเตียง 95%
🔹 ผู้ป่วยนอก (OPD) : 164 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% (คิดเป็น 44% ของรายได้โรงพยาบาล)
ต้นทุนกิจการโรงพยาบาล : 191 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 8%) สอดคล้องกับรายได้ที่เพิ่มขึ้น
💵กำไรขั้นต้น : 181 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 17%)
💵ค่าใช้จ่ายในการบริหาร : 64 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 13%) สาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจาก ‘ศูนย์ผู้มีบุตรยาก’
💵กำไรสุทธิ 99 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 10%)
🟢ผลการดำเนินงาน งวด 9 เดือน / 2024 (เปรียบเทียบ YoY)
💵รายได้รวม : 1,021 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 11%)
🔹 ผู้ป่วยใน (IPD) : 570 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% (คิดเป็น 57% ของรายได้โรงพยาบาล)
🔹 ผู้ป่วยนอก (OPD) : 432 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% (คิดเป็น 43% ของรายได้โรงพยาบาล)
💵ต้นทุนกิจการโรงพยาบาล : 545 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 10%) สอดคล้องกับรายได้ที่เพิ่มขึ้น
💵กำไรขั้นต้น : 457 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 15%)
💵ค่าใช้จ่ายในการบริหาร : 220 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 21%) สาเหตุหลักมาจากการบันทึกผลขาดทุนในหุ้น ‘KLINIQ’ 33 ล้านบาท
💵กำไรสุทธิ 244 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 16%)
✴️หากไม่นับรวมการลงทุนในหุ้น ‘KLINIQ’ งวด 9 เดือน / 2024 บริษัทจะมีรายได้รวมจากกิจการโรงพยาบาล 1,002 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 12%) และกำไรสุทธิ 244 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 16%)
🟢‘EKH : Company Snapshot’
“บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน)” หรือที่นักลงทุนหุ้นรู้จักกันในนาม ‘EKH’ นั้นประกอบธุรกิจโรงพยาบาลทั่วไป (General Hospital) ขนาด 142 เตียง ภายใต้ชื่อ “โรงพยาบาลเอกชัย” ให้บริการในพื้นที่ จ.สมุทรสาครและใกล้เคียง ให้บริการเฉพาะลูกค้าเงินสดทั่วไปและคู่สัญญา (ประกัน) ไม่รับสิทธิประกันสังคม
มีจุดเด่นที่คนทั่วไปรู้จักกันคือเรื่อง “แม่และเด็ก” และ “ศูนย์ผู้มีบุตรยาก” มีห้องตรวจผู้ป่วยนอก 47 ห้อง รองรับลูกค้าได้มากกว่า 1,000 คนต่อวัน รักษาโรคทั่วไปได้ทุกสาขา โดยเฉพาะศูนย์สูตินรีเวชและผู้มีบุตรยากที่ได้รับการยอมรับจากคนในสมุทรสาคร
✴️ปัจจุบัน ‘EKH’ นอกเหนือจากโรงพยาบาลเอกชัยแล้ว ยังมีการลงทุนดำเนินธุรกิจผ่านบริษัทย่อยอีกมากมาย ดังนี้
1️⃣ ‘บริษัท เอกชัย อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด’ (ถือหุ้น 67%) ดำเนินธุรกิจศูนย์ผู้มีบุตรยาก แถวพระราม 9 กรุงเทพฯ รายได้มากกว่า 90% มาจากกลุ่มลูกค้าชาวจีน
2️⃣ ‘บริษัท เอกชัย เนอร์สซิ่ง โฮม จำกัด’ (ถือหุ้น 100%) ดำเนินธุรกิจศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและโรงพยาบาลเฉพาะทางสำหรับผู้สูงอายุ ขนาด 30 เตียง ภายใต้ชื่อ “โรงพยาบาลคูน” ตอนนี้มี 2 สาขา ที่พระราม 2, กรุงเทพฯ 1 แห่ง และลงทุนร่วมกับ “บริษัท โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง จำกัด (มหาชน)” : [WPH] สร้างโรงพยาบาลคูน ที่อ่าวนาง จ.กระบี่ อีก 1 แห่ง (ถือหุ้น 49%) ขนาด 30 เตียงเท่ากัน ใช้เงินลงทุนเฉพาะที่อ่าวนาง 98 ล้านบาท
3️⃣ ‘บริษัท อีเอ็น เมนทอลแคร์ จำกัด’ (ถือหุ้น 60%) ดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านสุขภาพจิตและจิตเวช ขนาด 50 เตียง ภายใต้ชื่อ “โรงพยาบาลบลูม” ตั้งอยู่บน ถ.เพชรเกษม กรุงเทพฯ โดยเป็นการลงทุนร่วมกับ “บริษัท นารายณ์พร็อพเพอตี้ จำกัด” คิดเป็นเงินลงทุน 240 ล้านบาท
4️⃣ “บริษัท เอกชัย คาร์ดิโอวาสคูลาร์ เซ็นเตอร์ จำกัด” (ถือหุ้น 50%) ดำเนินธุรกิจศูนย์หัวใจและหลอดเลือด ใช้พื้นที่ภายในอาคารของโรงพยาบาลเอกชัย
🟩ปัจจัยการเติบโตในอนาคต และความเห็นจากผู้บริหาร
🔑ผู้บริหารมีเป้าหมายขยายโรงพยาบาลเป็นขนาด 200 เตียง พัฒนาศักยภาพด้านการรักษา เพื่อรองรับการเป็นโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ (ขนาดใหญ่ รักษาโรคซับซ้อน) โครงการก่อสร้างอาคารแห่งใหม่ของ ‘โรงพยาบาลเอกชัย’ จะเพิ่มได้อีก 60 เตียง (รวมครบ 200 เตียงพอดี) งบลงทุน 280 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการได้ในไตรมาสที่ 1/2026 (คิดค่าเสื่อม 40 ปี/ปีละ 7 ล้านบาท) แถมยังมีพื้นที่เหลือรองรับการเติบโตเพื่อขยายได้อีก 1-2 อาคารในอนาคต
🔑มีเป้าหมายขยายสาขา ‘โรงพยาบาลคูน’ ในกรุงเทพฯอีกในอนาคต บอร์ดบริหารอนุมัติแผนแล้ว ส่วนในปีหน้า (2025) คาดการณ์ว่าอัตราการครองเตียงจะเต็ม และรายได้เติบโตมากกว่า 20%
🔑คาดการณ์ว่าปีนี้ (2024) ‘ศูนย์ผู้มีบุตรยาก’ จะมีลูกค้าไม่ต่ำกว่า 300 เคส และปีหน้า (2025) เพิ่มเป็น 400 เคส และทำ Lab เอง รวมถึงการมีนายหน้าชาวจีนเพื่อหาลูกค้ารายใหม่ๆอย่างสม่ำเสมอ
🔑“ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด” คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการได้ในไตรมาสที่ 2/2025 รายได้เต็มปีตั้งเป้าหมายไว้ประมาณ 80 – 90 ล้านบาท ส่วนปีหน้าเปิดได้ประมาณ 9 เดือน คาดการณ์รายได้ประมาณ 60 – 70 ล้านบาท
🔑“โรงพยาบาลคูน (ดูแลผู้สูงอายุ)” ทั้ง 2 แห่งในกรุงเทพฯ/กระบี่ และ “โรงพยาบาลบลูม (สุขภาพจิต)” คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการได้ในไตรมาสที่ 1/2026
🔑“โรงพยาบาลคูน” ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี (BOI) 5 ปี และสาขาอ่าวนาง กระบี่ จะมีราคาสูงกว่าที่กรุงเทพฯ พอสมควร เพราะเจาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติแถบกระบี่ ภูเก็ต และพังงา แนวทางการดำเนินงานนั้น ‘WPH’ เป็นผู้รับผิดชอบหลัก เพราะเป็นเจ้าถิ่นและมีเครือข่ายแข็งแกร่ง คาดการณ์ว่าเมื่อเปิดดำเนินการแล้วจะขาดทุนไม่เกิน 2 ไตรมาสแรก แค่มีอัตราการครองเตียงเกิน 50% ก็ไม่ขาดทุนแล้ว
🔑ข้อมูลจากกรมสุขภาพจิตนั้น ผู้ป่วยด้านสุขภาพจิตและจิตเวชมีอัตราเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าตัวภายในระยะเวลาเพียง 5-6 ปีที่ผ่านมา แต่สถานที่รองรับผู้ป่วยเหล่านี้กลับมีอย่างจำกัด ไม่เพิ่มขึ้นเลย “โรงพยาบาลบลูม” จึงเป็นโอกาสของเรา ซึ่งใช้หมอทั้งที่เคยประจำอยู่โรงเรียนแพทย์และกรมสุขภาพจิต (ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี BOI 8 ปี)
🔑จะมีดีลเข้าซื้อกิจการโรงพยาบาลแห่งใหม่ ช่วงไตรมาสที่ 1/2025
🔑ปีหน้า (2025) คงจะจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดอย่างเดียวแล้ว ไม่มีปันผลเป็นหุ้น
🔑ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปี 2025 ไม่ต่ำกว่า 10% / กำไรสุทธิเติบโต 7-8%
ส่วนแผนการเติบโตในระยะยาว ‘EKH’ ตั้งเป้าหมายทางรายได้รวมในปี 2026 : 1,700 ล้านบาท (318 เตียง) มีบริษัทย่อยมากกว่า 6 บริษัท / และ ณ ปี 2028 : 2,100 ล้านบาท (500 เตียง) มีบริษัทย่อยมากกว่า 10 บริษัท
🟢สรุป🟢
‘EKH’ รายได้จากกิจการโรงพยาบาลและกำไรขั้นต้นขึ้นๆลงๆ แต่ภาพรวมในระยะยาวก็เป็นขาขึ้น มีแนวโน้มเติบโตได้ดี บริษัทมีหนี้สินน้อยมาก (อาศัยหาเงินจากการระดมทุน) ไม่รู้ว่าไม่อยากเป็นหนี้ ไม่อยากกู้เงินหรืออย่างไร? เน้นเกิดก็เกิดด้วยกัน ตายก็ตายด้วยกันหรือเปล่า ฮ่าๆ กระแสเงินสดอิสระยังเป็นบวกสม่ำเสมอ แต่ก็มีแผนการลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตอีกมากมายรออยู่ในอนาคต น่าสนใจมากๆ ต้องคอยดูว่าผู้บริหารจะจัดการเรื่องเงินทุนอย่างไร? จะเพิ่มทุนอีกหรือเปล่า?
ภาพการเติบโตในอนาคตก็ค่อนข้างดูดี มีความพยายามที่จะสร้างการเติบโตในธุรกิจหลักที่ตนเองเชี่ยวชาญ อาจมีปัจจัยความกังวลเรื่องค่าเสื่อมและการจัดหาบุคลากรผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางทั้งแพทย์และพยาบาลที่มีอยู่อย่างจำกัดบ้าง ธุรกิจใหม่มีความเฉพาะทางทั้งการดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยระยะสุดท้าย และผู้ป่วยสุขภาพจิต ดูเป็นธุรกิจที่อยู่ในเมกะเทรนด์ แต่การแข่งขันก็คงสูงพอสมควร
ส่วนตัวมองว่าอุตสาหกรรมการแพทย์มันเติบโตเรื่อยๆอยู่แล้วล่ะ แต่จะโตทันความคาดหวังของนักลงทุน และเติบโตได้ตามแผนการของผู้บริหารหรือไม่ก็คงต้องมาจับตาดูกันต่อไป
⭐ “ข้อมูลเพิ่มเติมจากตลาดหลักทรัพย์”
♻ หุ้น ‘EKH’ จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ‘SET’ หมวดบริการทางการแพทย์
💰P/E เฉลี่ยอุตสาหกรรม = 25 เท่า
💰P/E เฉลี่ยของ ‘EKH’ (5 ปีย้อนหลัง) = 17 เท่า (ดีที่สุด 20 เท่า / แย่ที่สุด 14 เท่า)
💰P/E ณ ปัจจุบัน = 16 เท่า
💰รายได้รวมเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง = 1,000 ล้านบาท (เฉพาะรายได้หลักจากกิจการโรงพยาบาล)
💰กำไรสุทธิเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง = 300 ล้านบาท (เฉพาะกำไรหลักจากกิจการโรงพยาบาล)
ขอให้มีความสุขกับการลงทุน ในทุกๆวันนะครับ 😊
โฆษณา