21 พ.ย. เวลา 10:20 • หุ้น & เศรษฐกิจ
🎯[สรุป] SABINA : OPPDAY, Q3/2024 (ช่วง Q&A)
🏢บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน)
✴️ในฟิลิปปินส์ช่วงไตรมาสที่ 3 เป็น ‘Low season’ หน้ามรสุม และเราโดนตัดจุดขายไปบางจุด (ปัจจุบันมีจุดขายประมาณ 10 แห่ง) ทำให้ยอดขายลดลง แต่ ‘SSSG’ ไม่แย่ ส่วนมุมมองในไตรมาสที่ 4 ที่เหลืออีก 2 เดือนจะดีขึ้น ยอดขายมีแนวโน้มเพิ่มกลับขึ้นมา มองว่าโอกาสในฟิลิปปินส์ยังมีอีกมาก ยังโตได้อีกเยอะ
✴️กัมพูชา ลาว และพม่า อยู่ในความสำคัญลำดับต้นๆของแผนการเติบโตไปยังต่างประเทศของเรา ปัจจุบันทั้ง 3 ประเทศมีสินค้า ‘SABINA’ วางขายอยู่แล้วทั้งหมด ประเทศที่น่าสนใจมากที่สุดและมีการนำเข้าสินค้าเราเยอะคือ ‘กัมพูชา’ แต่หากมองเรื่องความใหญ่ของตลาด ก็ต้องเป็น ‘พม่า’ เรามีจุดขายเป็น 10 แห่ง ทำงานร่วมกันมาเป็นสิบปี
✴️ความยากของการเติบโตในพม่าคือเรื่อง “การเมืองที่ไม่แน่นอน” เราควบคุมไม่ได้ ปัจจุบันยังไม่เข้าไปทำการตลาด ส่วนกัมพูชา และลาว ตลาดไม่ใหญ่แต่น่าสนใจ เน้นซื้อหน้าร้านเป็นหลัก เรายังไม่ได้เข้าไปทำตลาดออนไลน์ เพราะ 2 ประเทศนี้เมื่อต้องการสั่งออนไลน์ก็จะสั่งจากไทยแล้วส่งไป หากอนาคตมีโอกาสเราก็ไม่ปล่อย ต้องรอดูเรื่องระบบการขนส่งภายในประเทศเขาด้วย ปัจจุบันยังไม่เอื้อเท่าไหร่นัก ถ้าพร้อมเราก็จะเข้าไปทำ ลาวก็มีคนสนใจจะมาเป็นพาร์ทเนอร์กับเราเยอะมาก
✴️การรับจ้างผลิต (OEM) เป็นกระบวนการทำงานล่วงหน้า ปัจจุบันเรามีคำสั่งซื้อไปถึงเดือน พ.ค. ปีหน้าแล้ว ซึ่งภาพการเติบโตจะไม่หวือหวา แต่ปีหน้าจะดีกว่าปีนี้แน่ๆ ลูกค้าฝั่งยุโรปไม่ได้เลือกโรงงานผลิตที่ราคาเพียงอย่างเดียว ปัจจุบันพวกเขามองหาสินค้าที่ยั่งยืน มีกระบวนการผลิตที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม มันเข้าทางกับเรา เรื่องรักษ์โลกจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆในอนาคต ลูกค้ากลุ่มนี้คือระดับ ‘ครีม’ ที่เราจะรักษาเอาไว้ให้ได้
✴️การที่ ‘SABINA’ ให้จีนผลิตสินค้าให้ เราไม่กลัวเรื่องการลอกเลียนแบบ ปัจจุบันถ้าเขาจะเลียนแบบก็ทำได้เลยไม่ต้องรอผลิตให้เราก็ได้ เพราะสิ่งที่ทำได้ยากกว่าคือ “การสร้างแบรนด์” และเราเลือกโรงงานที่มาผลิตสินค้าให้เราอย่างดี ไม่ได้ฉาบฉวย รู้จักและไปมาหาสู่กัน ทำแผนธุรกิจร่วมกันตลอด เรามองเป็นอีกหนึ่งโรงงานของเรา เพียงแค่แยกกันดำเนินงาน แต่แน่นอนว่าเราก็ค้นหาที่ใหม่ๆเสมอเพื่อปรับปรุงสินค้าให้ดีขึ้น
✴️สัดส่วนยอดขายจากการรับจ้างผลิต (OEM) เราวางเป้าหมายไว้ที่ 10% กำลังเหมาะสม งานไม่หนักเกินไป แถมได้เรียนรู้และผ่องถ่ายด้านเทคโนโลยี ได้ตรวจสอบและปรับปรุงตนเองตลอดเวลา ส่วนการส่งออกแบรนด์ ‘SABINA’ ไปยังต่างประเทศยังน้อยมาก แต่ก็มีการเติบโตค่อนข้างดี จะพยายามทำให้แข็งแรงขึ้น
✴️เรื่องสินค้าจากจีนที่ทะลักเข้ามายังไทยนั้นเป็นปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้ เราต้องแสดงให้เห็นว่า ‘ลูกค้ามีสิทธิ์เลือก’ แต่ปลายทางจะอยู่ที่คุณภาพและบริการ นี่คือสิ่งที่เราพยายามสร้างให้เกิดขึ้นเสมอ เชื่อว่าเรื่องนี้เราไม่แพ้ใคร เป็นจุดแข็งสำหรับการรักษากลุ่มลูกค้าของเรา
✴️ปัจจุบันในประเทศไทย ‘SABINA’ กินส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับที่ 2 (มูลค่าตลาด 2 หมื่นกว่าล้านบาท) แต่อย่าห่วงเลยว่าใครจะเป็นที่หนึ่ง ออกไปซื้อ ‘SABINA’ มาใช้กันเถอะ 😆
ขอให้มีความสุขกับการลงทุน ในทุกๆวันนะครับ 😊
โฆษณา