19 พ.ย. เวลา 13:10 • หุ้น & เศรษฐกิจ
📊'SABINA : MD&A Q3/2024' (พร้อมงบการเงินย้อนหลัง 11 ไตรมาส)
...
🏢บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) : [SABINA]
✴️สินค้ากลุ่ม ‘Concept’ : “เปิดอกรับความสบาย ซาบีน่า บราเลส สบายเหมือนไม่ได้ใส่บรา” ยังได้รับความนิยมต่อเนื่อง สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาสนใจเสื้อผ้าที่สวมใส่สบายเพิ่มมากขึ้น
...
✴️ปลายไตรมาสที่ 3 : เปิดตัว ‘Sabina Forever Young’ เพื่อรองรับสรีระที่เปลี่ยนไปของสาวรุ่นใหญ่ เพื่อวางรากฐานการเติบโตในอนาคต
...
✴️ผลการดำเนินงานของ ‘Sabina Brand’ ยังเติบโตได้ดี โดยเฉพาะช่องทางขาย ‘Online’ จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่นิยมซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มมากขึ้น
...
✴️การรับจ้างผลิตให้แบรนด์อื่น (OEM) ลดลงเยอะมาก เพราะสินค้าคงคลังยังอยู่ในระดับสูง เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดีและขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ในการส่งออกสินค้าไปยุโรป แต่มีแนวโน้มกลับมาขยายตัวได้ในช่วงสิ้นปี
...
✴️สำหรับในประเทศไทย สัดส่วนการขายส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในเขตหัวเมืองใหญ่ และเมืองท่องเที่ยวเหมือนเดิม
🟢ผลการดำเนินงาน Q3/2024 (เปรียบเทียบ YoY)
...
💵ยอดขาย : 875 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 3%)
...
💵ต้นทุนขาย : 441 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 5%)
...
💵กำไรขั้นต้น : 434 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 1%)
...
💵ค่าใช้จ่ายในการขาย/บริหาร : 299 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 6%)
...
💵กำไรสุทธิ 110 ล้านบาท (ลดลง 7.50%)
🟢ผลการดำเนินงาน งวด 9 เดือน / 2024 (เปรียบเทียบ YoY)
...
💵ยอดขาย : 2,673 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 4.50%)
🔹 Sabina Brand : ช่องทางหน้าร้าน (Retailer) สัดส่วน 60% / เติบโต 1.50%
🔹 Sabina Brand : ช่องทางออนไลน์, อื่นๆ (NSR) สัดส่วน 35% / เติบโต 23%
🔹 OEM : รับจ้างผลิต สัดส่วน 5% / ลดลง 40%
...
💵ต้นทุนขาย : 1,353 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 6%)
...
💵กำไรขั้นต้น : 1,320 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 3%)
...
💵ค่าใช้จ่ายในการขาย/บริหาร : 890 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 4%)
...
💵กำไรสุทธิ 351 ล้านบาท (ทรงตัวเท่าเดิม)
🟢‘SABINA : Company Snapshot’
...
💵โครงสร้างการขายแบ่งเป็น 3 ส่วน
...
1️⃣ โครงสร้างหลักคือการขายแบรนด์ ‘SABINA’ ผ่านหน้าร้านภายในประเทศ กว่า 518 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นการฝากขาย โดยมีพนักงานของบริษัทเองบริการให้คำแนะนำอยู่ ณ จุดขาย อีกทั้งยังมีจุดขายภายใต้แบรนด์ ‘SABINA’ ในอีก 5 ประเทศ คือ พม่า เวียดนาม กัมพูชา ลาว ดูไบ และบาร์เรน ผ่านตัวแทนจำหน่ายอีกกว่า 100 แห่ง
...
2️⃣ การขายแบบไม่มีหน้าร้าน (Non-Store Retailing-NSR) ช่วยเร่งอัตราการเติบโตของบริษัทอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทุกช่องทางซึ่งไม่ทับซ้อนกับหน้าร้านที่มีพนักงานขาย เช่น ออนไลน์ แคตตาล็อค ทีวีช้อปปิ้ง และตู้อัตโนมัติ ฯลฯ
...
3️⃣ การรับจ้างผลิต (OEM) ปัจจุบันจัดเป็นรายได้เสริมของบริษัทซึ่งควบคุมสัดส่วนไว้ตามความเหมาะสม ไม่ให้มากเกินไป แต่ยังจำเป็นอยู่เนื่องด้วยเป็นช่องทางพัฒนาเทคนิคการผลิต และการเชื่อมต่อองค์ความรู้กับต่างประเทศ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ดังมีชื่อเสียงจากทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในยุโรป ซึ่งบริษัทสามารถผลิตสินค้าอื่นๆได้หลากหลายด้วยการปรับใช้เครื่องจักรชุดชั้นในที่มีความละเอียดสูง เช่น เสื้อผ้า หน้ากาก ผ้าพันคอ ฯลฯ
🔹‘SABINA’ มีโรงงานผลิต (รวมบริษัทย่อย) ทั้งหมด 5 แห่ง ตั้งอยู่ในจังหวัดชัยนาท ยโสธร บุรีรัมย์ นครปฐม และกรุงเทพฯ รวมกำลังการผลิตทั้งสิ้นมากกว่า 12 ล้านชิ้นต่อปี และสามารถเพิ่มกำลังการผลิตจากจุดสูงสุดได้อีก 20% หากจำเป็นโดยการทำงานล่วงเวลา (OT) ด้วยประสิทธิภาพของเครื่องจักรหลายพันเครื่อง
🔹สำหรับตลาดในต่างประเทศ บริษัทยังมีอีกหลายแบรนด์เช่น ‘SABINE’ และ ‘SBN’ ซึ่งจดทะเบียนตราสินค้าเรียบร้อยแล้ว และเป็นการขายขาดให้ตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศเพื่อนำไปวางขายในร้านค้าของตนเอง
🟩ปัจจัยการเติบโตในอนาคต และความเห็นจากผู้บริหาร
...
🔹มีเป้าหมายให้ ‘SABINA’ เป็นมากกว่าแบรนด์อันดับหนึ่งของประเทศไทย แต่ต้องการเป็นแบรนด์ระดับภูมิภาค ภายในปี 2026
...
🔹ปี 2024 มีเป้าหมายด้านยอดขายเติบโตทุกช่องทางการจัดจำหน่าย 5-10% อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) 51% และอัตรากำไรสุทธิ (NPM) 14% ไม่เน้นกำไรขั้นต้น แต่เน้นผลักดันกำไรสุทธิให้เพิ่มขึ้น
...
🔹ไม่เน้นดูการเติบโตยอดขายของแต่ละร้านสาขา (SSSG) แต่เน้นดูกำไร/ขาดทุน ปิดร้านที่ไม่ทำกำไร และเปิดร้านใหม่สำหรับพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น แต่ก็ไม่เน้นขยายหน้าร้าน เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพร้านค้าที่มีอยู่และออนไลน์ เพิ่มความหลากหลายของสินค้า
...
🔹บริษัทเริ่มให้น้ำหนักการจ้างผลิตมากกว่าผลิตเอง (ยกเว้นฟองน้ำขึ้นรูป) ในกลุ่มสินค้าระดับกลาง-ล่าง และขายช่องทางออนไลน์ให้มากขึ้น เพราะมีค่าใช้จ่าย/ต้นทุนน้อยกว่า
...
🔹การขยายไปตลาดต่างประเทศก็ดูไว้อีกหลายที่ ในอนาคตอาเซียนทั้งหมดต้องมี ‘SABINA’ วางขายแน่นอน โดยเริ่มจากตัวแทนจำหน่าย ถ้าที่ไหนมีแนวโน้มดีก็เข้าซื้อกิจการ (M&A) หากไม่มีตัวแทนดีๆ ก็ค้นหาคนเก่งๆในพื้นที่มาทำออนไลน์
...
🔹มองตลาดฟิลิปปินส์ว่าเหมือนประเทศไทยเมื่อปี 2006 ตลาดยังเล็ก ‘SABINA’ อยู่ในไทยมาเกือบ 20 ปียังสร้างยอดขายได้ 3,000 ล้านบาท เราหวังว่าที่ฟิลิปปินส์จะโตแบบนั้น แต่ไม่รีบร้อน ค่อยๆโตดีกว่า ส่วนเวียดนามก็สนใจแต่ไม่ใช่เวลานี้ ภาพรวมสถานการณ์ยังไม่เอื้อเท่าไหร่นัก
...
🔹ถึงอนาคตเราตั้งใจจะลดการผลิตด้วยตนเองและจ้างผลิตมากขึ้น แต่เราจะไม่ปิดโรงงานที่มีอยู่ คงค่อยๆ Downside ไปเรื่อยๆ แต่ธุรกิจต้องเติบโต ชุดชั้นในเป็นสินค้าที่ผลิตยาก ใช้ ‘Know How’ สูง ไม่แน่อนาคตข้างหน้า ‘SABINA’ อาจจะผลิตเอง 20% จ้างผลิต 80% เราไม่ได้กำหนดตายตัว สินค้าของเราที่ผลิตยากๆ มีนวัตกรรมใหม่ๆ เราไม่ปล่อยให้คนอื่นผลิต เราจะจ้างผลิตเฉพาะสินค้าระดับกลาง-ล่าง เพราะได้ราคาดี
...
🔹ปัจจุบันยอดขายในห้างสรรพสินค้า เรายังแพ้ ‘WACOAL’ อีกเยอะ เขาทิ้งห่างเราประมาณ 30% แต่หากเป็นร้านค้าปลีกและโลกออนไลน์ ‘SABINA’ คือเจ้าตลาดเบอร์หนึ่ง เอายอดขายของเบอร์2และเบอร์3 มารวมกันยังไม่ได้ครึ่งหนึ่งของเราเลย กลยุทธ์ต่อจากนี้คือการแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดจากเบอร์หนึ่งฐานล่าง (WACOAL) และฐานบนของชุดชั้นในไม่มียี่ห้อ (Non Brand)
...
🔹คนส่วนใหญ่เปลี่ยนชุดชั้นในปีละ 2 ครั้ง แต่จากการวิจัยกลุ่มลูกค้าของเราซื้อเพราะอารมณ์ ชอบ อยากได้ เพิ่มความถี่ในการซื้อ
...
🔹เราทดลองทำสินค้าหลายประเภท เช่น ถุงเท้า หมวก เสื้อ และวางขายทางออนไลน์เพื่อดูตลาดก่อน หากผลตอบรับดีค่อยลงมาทำเต็มตัว
...
🔹ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ณ จุดเริ่มต้น เราจะไม่ตั้งโรงงาน เราจะค้นหาคนเก่งเรื่องงานออกแบบ นี่คือหัวใจสำคัญที่สุดของธุรกิจนี้!!
...
🔹ปัจจุบัน ‘SABINA’ มีส่วนแบ่งทางการตลาดในร้านค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) ประมาณ 40-50%
...
🔹ปัจจุบัน ‘SABINA’ มีส่วนแบ่งทางการตลาดในประเทศไทย 13-18% ในเอเชีย 2% (ไม่ยืนยัน) ส่วนอีก 98% ที่เหลือมันเปิดกว้างมาก โอกาสยังลอยในอากาศอีกมากมาย อยู่ที่เราจะไขว่คว้าไว้ได้หรือเปล่า?
1
🟢สรุป🟢
🔑‘SABINA’ มองภาพรวมมีแนวโน้มยอดขายเติบโตแบบ ‘ค่อยๆไป’ ไม่หวือหวา ผู้บริหารตั้งเป้าหมายการเติบโต 5-10% ต่อปี ถ้ายึดฐานล่างที่ 5% คิดว่าคงทำได้ไม่ยากนัก มองกระจกหลังไปดูรายได้ช่วงปี 2015 – 2023 ก็เติบโตเฉลี่ย 5% ต่อปี แต่ลองมาดูที่กำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ยเกือบ 14% ต่อปีเลย โอ้โหจะเป็นหุ้นเติบโตแล้วนะเนี่ย คงเป็นผลลัพธ์ที่ผู้บริหารมุ่งเน้นลดต้นทุนหรือเปล่า กำไรเลยเติบโตมากกว่ารายได้มายาวนานเกือบ 10 ปีขนาดนี้ แต่อนาคตจะไปสุดทางที่ตรงไหนนั่นแหล่ะที่เรานักลงทุนต้องหาคำตอบ
🔑งบกระแสเงินสดดูดี กระแสเงินสดอิสระเป็นบวกและสูงทุกปี (4-5 ปีย้อนหลัง) แต่วงจรเงินสดนานเกือบ 300 วัน เพราะอะไรกัน? เท่าที่สังเกตในงบกระแสเงินสดจากการลงทุน บริษัทมีการซื้อขายเงินลงทุนในกองทุนเกือบทุกไตรมาสเลย
🔑เรื่อง ‘ความภักดีต่อแบรนด์’ คงไม่ต้องกล่าวถึงมากนัก สาวๆรู้กันดีว่า ‘SABINA’ ครองใจผู้บริโภคมากว่า 20 ปี เป็นอันดับต้นๆเมื่อนึกถึงชุดชั้นในสตรี ทั้งเรื่องรูปลักษณ์ คุณภาพ และราคา
🔑ส่วนผู้บริหารเท่าที่ติดตามก็มีความใส่ใจและมองเห็นความสำคัญของผู้ถือหุ้นและนักลงทุน หมั่นให้ข้อมูลในที่สาธารณะอย่างสม่ำเสมอ ละเอียด ตรงไปตรงมา อัธยาศัยดี เข้าใจมุมมองนักลงทุนว่าต้องการอะไร และเข้าใจทัศนคติการลงทุนในหุ้นเสมือนการเป็นเจ้าของกิจการ
🔑ทั้งหมดทั้งมวลโดยส่วนตัวคิดว่าเป็นบริษัทคุณภาพดี ส่วนการเติบโตในอนาคตหากเป็นไปตามแผนงานที่ผู้บริหารวางไว้ ก็ยังเติบโตได้อีกพอสมควรในแถบๆอาเซียนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงการแย่งส่วนแบ่งการตลาดในประเทศไทย ส่วนเติบโตมากน้อยเพียงใดนั้นไม่รู้จริงๆ วานผู้รู้และผู้ใช้งานจริงช่วยชี้แจงแถลงไขครับผม 😊
⭐ “ข้อมูลเพิ่มเติมจากตลาดหลักทรัพย์”
...
♻ หุ้น ‘SABINA’ จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ‘SET’ หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค/แฟชั่น
...
💰P/E เฉลี่ยอุตสาหกรรม = 17 เท่า (บริษัทที่ทำธุรกิจคล้ายกันในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา)
...
💰P/E เฉลี่ยของ ‘SABINA’ (5 ปีย้อนหลัง) = 21 เท่า (ดีที่สุด 25 เท่า / แย่ที่สุด 15 เท่า)
...
💰P/E ณ ปัจจุบัน = 16 เท่า
...
💰รายได้รวมเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง = 3,000 ล้านบาท
...
💰กำไรสุทธิเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง = 360 ล้านบาท
🔎ผลตอบแทนย้อนหลังจากราคาหุ้น ‘SABINA’
...
📉 ราคาหุ้นย้อนหลัง 1 ปี : ลดลง 20%
📉 ราคาหุ้นย้อนหลัง 5 ปี : ลดลง 21%
📉 ราคาหุ้นย้อนหลัง 10 ปี : ลดลง 8%
📈 ราคาหุ้นย้อนหลัง 20 ปี : เพิ่มขึ้น 118%
1
ขอให้มีความสุขกับการลงทุน ในทุกๆวันนะครับ 😊
โฆษณา