26 ม.ค. 2021 เวลา 11:11 • ความคิดเห็น
เงินจะอยู่กับคนที่มีความรู้พอจะดูแลมันเท่านั้น
เมื่อปี 2545 มีข่าวหนึ่งที่ดังไปทั่วโลกเกี่ยวกับพนักงานเก็บขยะคนหนึ่งที่ชื่อไมเคิล คาร์โรล อายุ 19 ปี จากประเทศอังกฤษที่กลายเป็นเศรษฐีในพริบตาหลังเสี่ยงดวงซื้อลอตเตอรี่ 1 ใบด้วยราคา 1 ปอนด์ และถูกรางวัลแจ็คพอตของ National Lottery (UK) 9.7 ล้านปอนด์ (กว่า 350 ล้านบาท)
ไมเคิล คาร์โรล
"แบบนี้สบายจนตายแน่ ๆ" ถ้าเป็นเราคงพูดกับตัวเองแบบนี้ใช่ไหมครับ?
แต่คาร์โรลเลือกที่จะใช้เงินไปกับการแสวงหาความสุขให้กับตัวเองมากกว่าที่จะบริหารอย่างชาญฉลาด โดยหลังจากแบ่งเงินให้ภริยา แม่ของภริยา แม่และป้าของตัวเอง รวม 4 คน คนละ 1 ล้านปอนด์ เขาก็นำเงินที่เหลือไปถลุง ซื้อคฤหาสน์หรู, เสพยา, จัดปาร์ตี้สุดเหวี่ยงรายล้อมด้วยสาว ๆ ทุกวัน แถมยังถูกจับขึ้นโรงขึ้นศาลเป็นว่าเล่นไม่ต่ำกว่า 30 ครั้ง
ผ่านไปไม่ถึง 10 ปีเงินที่ได้มาจากการเสี่ยงดวงก็หมดเกลี้ยง!
เขาตัดสินใจย้ายไปอยู่สกอตแลนด์ทำงานในเหมือนถ่านหิน ได้ค่าแรงเดือนละราว 500 ปอนด์ โดยที่เขาบอกว่าเขาไม่เคยเสียใจหรือเสียดายเลยกับเงินที่ถูกใช้ไปแบบนั้นจนหมดเกลี้ยง
ที่น่าสนใจก็คือผมเคยฟังเรื่องคล้าย ๆ กันนี้จากคนรู้จักและจากสื่อในไทยเช่นเดียวกัน และได้บทสรุปที่สำคัญก็คือ "เงิน จะอยู่กับคนที่มีความรู้พอจะดูแลมันเท่านั้น"
ถึงขั้นที่อาจารย์ผมเคยบอกว่า "หากนำเงินของผู้ที่รวยที่สุด 10% ไปแบ่งให้คนอีก 90% ที่เหลือ เชื่อได้เลยว่าไม่นานนักเงินที่ถูกแบ่งไปให้คน 90% นั้นจะกลับไปเป็นของคน 10% เช่นเดิม"
โฆษณา