Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หนังสือสนทนากับพระเจ้า
•
ติดตาม
29 ม.ค. 2021 เวลา 03:59 • หนังสือ
#42 เล่ม 1 บทที่ 12 หน้า 251 ~ 260
N : ทำไมผมถึงไม่สามารถทำสิ่งที่ผมอยากทำจริงๆแล้วก็เลี้ยงตัวเองได้ด้วยล่ะครับ?
G : ว่าไงนะ? หมายความว่าเธออยากจะ`สนุก`กับชีวิตแถมยังมีรายได้ไปด้วยนะเหรอ? ฝันไปหรือเปล่าน้องชาย?
N : อะไรนะครับ?
G : พูดเล่นน่า แค่อ่านใจดูนิดหน่อยเท่านั้นแหละ เห็นไหม...`เธอคิด`แบบนั้นใช่ไหมล่ะ
N : มันเป็นประสบการณ์ของผมครับ
G : ใช่ เราคุยเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้วนะ 🔸คนที่เลี้ยงชีพด้วยการทำสิ่งที่ตัวเองรักคือผู้ที่ยืนหยัดจะทำอย่างนั้น คนพวกนี้ไม่ยอมแพ้ ไม่ล้มเลิก แถมยังท้าทายให้ชีวิตเอาอุปสรรคมาขัดขวางด้วย🔸
1
แต่ยังมีอีกองค์ประกอบหนึ่งที่ต้องพูดถึง เพราะเป็นสิ่งที่ขาดไปในความเข้าใจของคนส่วนใหญ่เมื่อพูดถึงเรื่อง "การงานแห่งชีวิต"
N : อะไรหรือครับ?
G : มีความต่างกันอยู่ระหว่าง "การเป็น" (Being) กับ "การทำ" (Doing) ซึ่งคนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับอย่างหลัง
N : แล้วมันไม่ควรเป็นอย่างนั้นหรือครับ?
G : ไม่เกี่ยวกับ "ควร" หรือ "ไม่ควร" หรอก มันก็เป็นแค่สิ่งที่เธอเลือกและวิธีที่จะได้มาเท่านั้นเอง
`ถ้าเธอเลือกสันติ เบิกบานและรักละก็ เธอจะไม่ได้รับอะไรพวกนี้อย่างจริงจังผ่านสิ่งที่เธอทำอยู่หรอกนะ
"ถ้าเธอเลือกความสุขและความพอใจ" 🔸เธอจะพบได้เพียงเล็กน้อยในวิถีแห่งการกระทำ🔸
"หากเธอเลือกการเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า" "การรู้แจ้ง" "ความเข้าใจลึกซึ้ง" "ความเมตตาไม่มีสิ้นสุด" "ความตระหนักรู้เต็มเปี่ยม" "ความอิ่มเอมแท้จริง" 🔸เธอจะเข้าถึงสิ่งเหล่านี้ได้ไม่เท่าไหร่จากสิ่งที่เธอทำ🔸
1
พูดอีกอย่างก็คือ ถ้าเธอเลือก "การวิวัฒน์ของจิตวิญญาณ" 🔸เธอจะไม่ได้สิ่งนี้จากกิจกรรมทางโลกที่กระทำผ่านร่างกาย🔸
1
`การทำ` คือ 🔆หน้าที่ของร่างกาย
`การเป็น` คือ 🔆หน้าที่ของจิตวิญญาณ
กายจะทำ`อะไรบางอย่าง`อยู่ตลอดเวลา ทุกนาทีในแต่ละวันมันจะต้องทำ`บางสิ่ง` ไม่เคยหยุด ไม่เคยพัก มีอะไรให้ทำอยู่ตลอด
กายอาจทำหรือไม่ทำตามคำสั่งของวิญญาณก็ได้ 🔹คุณภาพชีวิตเธอจะขึ้นกับความสมดุลตรงนี้🔹
วิญญาณจะ`เป็น`บางสิ่งเสมอ ✴️มันจะเป็นอย่างที่เป็นโดยไม่สนใจว่ากายจะทำอะไร และจะ`ไม่เป็นไปตาม`ที่กายทำด้วย✴️
1
✴️ถ้าเธอคิดว่าชีวิตเป็นเรื่องของการกระทำละก็ แสดงว่าเธอยังไม่เข้าใจว่าตัวเองมาทำอะไรอยู่ที่นี่✴️
วิญญาณเธอไม่สนใจหรอกว่าเธอจะ`ทำอะไร`เพื่อยังชีพ และเมื่อชีวิตจบสิ้นลงเธอก็จะไม่สนเหมือนกัน วิญญาณใส่ใจแค่เพียงว่าเธอ `จะเป็นอะไร` ในเวลาที่เธอ `ทำสิ่งต่างๆ` ต่างหาก
2
✴️ภาวะแห่งการเป็น★ นั่นเอง ที่วิญญาณเธอเสาะหา ไม่ใช่การกระทำ✴️
★State of being อาจแปลได้ว่า `ภาวะจิต` หรือ `สภาวะจิต` ~ ผู้แปล
N : วิญญาณแสวงหาที่จะเป็นอะไรครับ?
G : 🔸ฉัน🔸
N : พระองค์?
G : ใช่แล้ว! ฉันเอง วิญญาณของเธอ`คือฉัน` ซึ่งมันก็รู้ดี สิ่งที่มันกำลังทำอยู่ก็คือพยายามจะ`มีประสบการณ์ถึงภาวะนั้น`
1
และสิ่งที่มันกำลังระลึกก็คือว่า :
"วิธีที่ดีที่สุดที่จะมีประสบการณ์นี้ได้"
ก็โดยการไม่ต้องทำอะไรเลย
ไม่มีอะไรให้ทำ 🔸มีแต่สิ่งให้เป็น🔸
N : เป็นอะไรล่ะครับ?
G : อะไรก็ได้ที่เธออยากเป็น...สุข เศร้า อ่อนแอ เข้มแข็ง ร่าเริง พยาบาท หยั่งเห็น มืดบอด ดี เลว ผู้ชาย ผู้หญิง อะไรก็ได้ที่เธอนึกออก
ฉันหมายความอย่างนั้นจริงๆนะ
🔹อะไรก็ได้ที่เธอนึกออก🔹
N : ทั้งหมดนี่แสนจะลึกซึ้ง แต่มันเกี่ยวกับอาชีพการงานของผมตรงไหนครับ? ผมกำลังหาทางที่จะยังชีพ เอาตัวให้รอด เลี้ยงดูตัวเองและครอบครัว ทำสิ่งที่ผมอยากจะทำ...
1
G : ลองเป็นอย่างที่เธออยากจะเป็นดูสิ
N : หมายความว่ายังไงครับ?
G : บางคนทำเงินได้มากมายจากสิ่งที่ตัวเองทำ ขณะที่อีกคนกลับไปไม่ถึงไหนทั้งที่ `ทำอย่างเดียวกันเปี๊ยบ` อะไรที่ทำให้ผลลัพธ์ต่างกันอย่างนั้นล่ะ?
N : บางคนมีทักษะมากกว่า
G : นั่นเป็นด้านแรก ตอนนี้เราข้ามมาด้านที่สองแล้ว เรากำลังพูดถึงคนสองคนที่มีทักษะเท่ากัน จบมหาวิทยาลัยเหมือนกัน เป็นหัวกระทิในชั้นเรียนเหมือนกันทั้งคู่ เข้าใจธรรมชาติของสิ่งที่กำลังทำอยู่เป็นอย่างดี ทั้งสองรู้ว่าจะใช้เครื่องมือที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างไร
แม้จะอย่างนั้น คนหนึ่งก็ยังคงทำได้ดีกว่าอีกคนอยู่ดี คนหนึ่งเจริญก้าวหน้า ส่วนอีกคนต้องดิ้นรนกระเสือกกระสน มันเกี่ยวกับอะไรล่ะ?
N : ทำเลที่ตั้ง
G : ทำเลอย่างนั้นหรือ?
N : ครั้งหนึ่งใครบางคนบอกผมว่า มีอยู่แค่สามอย่างเท่านั้นที่ต้องคำนึงถึงก่อนเริ่มประกอบธุรกิจใหม่ นั่นคือ ทำเล ทำเล และก็ทำเล
G : หรือพูดอีกอย่างว่า "ไม่ใช่เธอจะทำอะไร" แต่เป็น "เธอกำลังจะไปที่ไหน" อย่างนั้นใช่ไหม?
N : ถูกเผง
G : ฟังดูก็คล้ายๆคำตอบต่อคำถามของฉันเหมือนกันนะเนี่ย
วิญญาณใส่ใจเพียง "ที่ที่เธอจะไปเท่านั้น"
3
เธอกำลังไปอยู่ในที่ที่เรียกว่าความกลัวหรือความรักล่ะ?
เธออยู่ที่ไหนและ`มาจากไหน`ขณะพานพบประสบชีวิต?
ทีนี้ จากสองคนที่มีความสามารถเท่าๆกัน คนหนึ่งประสบความสำเร็จแต่อีกคนไม่นั้น ความต่างไม่ได้อยู่ที่สิ่งที่ทำแม้แต่น้อย แต่มาจากสิ่งที่พวกเขา`เป็น`ต่างหาก
คนหนึ่งเป็นคนเปิดกว้าง เป็นมิตร ใส่ใจ ให้ความช่วยเหลือ รอบคอบ มีชีวิตชีวา มั่นใจ และถึงขนาดเบิกบานในงานของตน ในขณะที่อีกคนเป็นคนปิดใจ ห่างเหิน ไม่ใส่ใจ ไม่รอบคอบ ฉุนเฉียว และถึงขั้นไม่พอใจกับงานที่ตัวเองทำ
ทีนี้สมมติว่าให้เธอเลือกสภาวะจิต (การเป็น) ที่สูงกว่านั้นอีกล่ะ? สมมติว่าเธอเลือกความดี ความกรุณา ความเมตตา การให้อภัย และความรัก
✴️จะเป็นอย่างไรถ้าเธอเลือกความเป็นพระเจ้า? ถ้าเลือกอย่างนั้นประสบการณ์เธอจะเป็นอย่างไร?✴️
🔆ฉันขอบอกเธอว่า : เธอมี`สภาวะจิต`แบบไหน เธอก็`ดึงดูด`สิ่งที่สอดคล้องกับสภาวะจิตนั้นเข้าสู่ชีวิต🔆
1
🔆เธอ`เป็นอะไร`เธอก็`ดึงดูด`สิ่งที่เธอเป็นเข้าหาตัวและก่อให้เกิดประสบการณ์🔆
✴️เธอไม่ได้มาอยู่บนโลกใบนี้เพื่อผลิตสิ่งใดด้วยร่างกายหรอกนะ แต่มาอยู่เพื่อจะสร้างบางอย่างด้วยจิตวิญญาณต่างหาก✴️
🔸กายเป็นเพียงเครื่องมือของวิญญาณ
🔸จิตใจคือพลังขับเคลื่อนกาย
1
ดังนั้นสิ่งที่เธอ`มี`ตอนนี้ก็คือ ✴️เครื่องมือแห่งพลังเพื่อใช้สร้างสรรค์สิ่งที่วิญญาณปรารถนานั่นเอง✴️
N: อะไรคือความปรารถนาของวิญญาณครับ?
G : นั่นสิ อะไรล่ะ?
N : ไม่ทราบครับ ผมถามพระองค์อยู่นี่ไง
G : ฉันไม่รู้ ฉันถามเธออยู่นี่ไง
N : เราคุยกันอย่างนี้ไปได้ชั่วนิรันดร์เลยนะครับ
G : ใช่
N : เดี๋ยวนะๆ! ก่อนหน้านี้พระองค์บอกว่าวิญญาณแสวงหาที่จะ`เป็นพระองค์`
G : งั้นก็ใช่
N : ถ้างั้นนั่นก็คือความต้องการของวิญญาณ
G : ในความหมายที่กว้างที่สุดน่ะใช่ แต่การจะเป็นชั้นนั้นซับซ้อนมากทีเดียว มันมีหลายมิติ หลากความหมาย หลายแง่มุม
ฉันมีคุณสมบัตินับล้าน พันล้าน ล้านๆเลย
เธอเข้าใจใจไหม?
ทั้งโลกิยะ และ โลกุตตระ
ทั้งเล็กพร่อง และ ยิ่งใหญ่
ทั้งกลวงเปล่า และ ศักดิ์สิทธิ์
ดั่งภูตผี และ ดุจพระเจ้า
เข้าใจไหม?
N : ครับๆผมเข้าใจ ...ขึ้นและลง ซ้ายและขวา ที่นี่และที่นั่น ก่อนและหลัง ดีและเลว...
G : ถูกต้อง!
ฉันคืออัลฟา และ โอเมกา
เป็นจุดสูงสุด และ ต่ำสุด
เป็นเบื้องต้น และ เบื้องปลาย
นี่ไม่ใช่การพูดให้ดูดี หรือเป็นเพียงแนวคิดเก๋ๆแค่นั้นนะ แต่เป็นการ`สำแดงสัจจะ`เลยทีเดียวล่ะ
ดังนั้น "ในการพยายามเป็นฉัน" วิญญาณจึงมีงานยิ่งใหญ่รออยู่ข้างหน้า นั่นคือ "การเลือกว่าจะเป็นอะไร" จากเมนู`สภาวะจิต`อันเหยียดยาวที่มี ซึ่งก็คือ 🔸สิ่งที่วิญญาณกำลังทำอยู่ขณะนี้🔸
3
N : การเลือกสภาวะจิต
G : ใช่! จากนั้นก็สร้าง`สภาวะเงื่อนไข`ที่เหมาะสมและสมบูรณ์แบบขึ้นเพื่อเอื้อต่อการสร้างประสบการณ์ของ`สภาวะจิตนั้น`
ดังนั้นจึงเป็นความจริงที่ว่า...✴️ไม่มีสิ่งใดที่เกิดกับเธอหรือผ่านทางเธอที่ไม่ได้เป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของตัวเธอเอง✴️
N : พระองค์หมายความว่า จิตวิญญาณของผมสร้างประสบการณ์ทุกอย่างของผมขึ้นมา ไม่ใช่แค่สิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ แต่รวมถึงสิ่งๆต่างๆที่`เกิดขึ้นกับผม`ด้วยงั้นหรือครับ?
G : พูดอย่างนี้ดีกว่าว่า...วิญญาณของเธอจะชักนำเธอสู่`โอกาส`ที่เหมาะสมและสมบูรณ์แบบ เพื่อให้เธอมีประสบการณ์ถึงสิ่งที่เธอ "วางแผนไว้ว่าจะมีประสบการณ์"
ส่วนเธอจะมีประสบการณ์อะไรจริงๆก็ขึ้นอยู่กับตัวเธอเอง อาจเป็นไปตามแผนที่วางไว้หรืออาจจะไม่ก็ได้ ขึ้นกับ`การเลือก`ของเธอด้วย
N : ทำไมผมถึงเลือกสิ่งที่ผมไม่อยากมีประสบการณ์ล่ะครับ?
G : ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ทำไมเธอทำอย่างนั้นล่ะ?
N : พระองค์หมายความว่า บางครั้งวิญญาณก็ปรารถนาอย่างหนึ่ง ขณะที่จิตใจหรือร่างกายก็ปรารถนาอีกอย่างอย่างนั้นหรือครับ?
G : แล้วเธอคิดว่าไง?
N : แต่ร่างกายหรือจิตใจมีอำนาจเหนือวิญญาณได้ยังไงครับ? ไม่ใช่ว่าวิญญาณจะต้องได้รับสิ่งที่ต้องการเสมอไปไม่ใช่หรือไง?
G : ในความหมายที่กว้างที่สุดนั้น วิญญาณเธอจะเสาะหาห้วงขณะอันยิ่งใหญ่ ที่เธอได้รู้ถึง `ความปรารถนาของวิญญาณ` และเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับมันด้วยความเบิกบาน
แต่วิญญาณ `ไม่เคย` และ `จะไม่มีวันบังคับ` ให้ส่วนที่เป็น `ร่างกาย` หรือ `จิตปัจจุบัน` ของเธอต้องทำตามความปรารถนาของมันเด็ดขาด
🔹พระบิดา🔹 จะไม่บังคับพระบุตรให้เป็นไปตามเจตจำนงของตน เพราะนั่นเป็นการ `ละเมิด` ธรรมชาติของตัวเอง
ดังนั้นจึง `เป็นไปไม่ได้`
🔹พระบุตร🔹 จะไม่บังคับพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้เป็นไปตามเจตจำนงของตน นั่นคือการ `ฝืน` ธรรมชาติของตัวเอง
ดังนั้นจึง `เป็นไปไม่ได้`
🔹พระวิญญาณบริสุทธิ์🔹 จะไม่บังคับวิญญาณเธอให้เป็นไปตามเจตจำนงของตน นั่น `ไม่ใช่วิสัย` ของพระวิญญาณ
ดังนั้นจึง `เป็นไปไม่ได้`
ความเป็นไปไม่ได้ `จบลง`ตรงนี้คือ หลายครั้งเหลือเกินที่จิตใจพยายามจะใส่เจตจำนงของตนเข้าไปในกาย และมันก็ทำจริงๆด้วย ส่วนกายก็พยายามจะควบคุมจิตใจเช่นกันและก็สำเร็จออกบ่อย
แต่ทั้งกายและใจไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพื่อคุมวิญญาณหรอก 🔸เพราะวิญญาณไม่ต้องการอะไรเลย🔸 (ไม่เหมือนกายกับใจซึ่งถูกพันธนาการด้วยความต้องการ) มันจึงปล่อยให้กายและใจทำตามที่ต้องการตลอดเวลา
ที่จริงวิญญาณไม่มีทางเลือกอื่น เพราะถ้าจะให้เธอได้สร้างสรรค์และรู้ว่าจริงๆแล้วตัวเองคือใคร ก็ต้องให้ทำผ่าน🔸การเลือกโดยสมัครใจ🔸 "ไม่ใช่การยอมตามอย่างไร้สำนึกรู้ตัว"
🔆การยอมตามไม่ใช่การสร้างสรรค์
ดังนั้นจึงไม่อาจนำไปสู่ความรอดได้
🔆การยอมตามคือปฏิกิริยาตอบสนอง ขณะที่การสร้างสรรค์คือ "การเลือกบริสุทธิ์" ซึ่งไม่ถูกบงการหรือกำหนดจากใคร
🔆การเลือกอันบริสุทธิ์จะนำไปสู่ความรอดได้ด้วยการสร้างอันบริสุทธิ์ตามมโนคติสูงสุดในปัจจุบันขณะ
🌟หน้าที่ของวิญาณคือ`การบ่งชี้`ความปรารถนาของตน `ไม่ใช่ยัดเยียด`
🌟หน้าที่ของจิตใจคือ`การเลือก`จากทางเลือกที่มี
🌟หน้าที่ของร่างกายคือ`แสดงออก`ถึงการเลือกนั้น
🌟เมื่อใดจิตใจ ร่างกาย และ วิญญาณสร้างสรรค์ร่วมกันอย่างกลมกลืนเป็นหนึ่ง `พระเจ้าจะบังเกิด`
🌟นั่นเอง วิญญาณจึงรู้จักตัวเองจากประสบการณ์ของตัวเอง
🌟นั่นเอง สวรรค์จึงรื่นเริงยินดี
🌟เวลานี้วิญญาณได้`สร้างโอกาส`เพื่อเธอจะ ได้เป็น ได้ทำ และได้มีสิ่งที่จำเป็นต่อการรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเธออีกครั้งแล้ว
🌟วิญญาณ`ชักนำเธอ`สู่ข้อความที่เธอกำลังอ่านอยู่นี้ เช่นที่เคยพาเธอไปพบถ้อยคำ`แห่งสัจจะและปัญญา`มาก่อนหน้า
✨คราวนี้เธอจะทำอะไร?✨
✨เธอจะเลือกเป็นอะไร?✨
🌟วิญญาณเธอรอคอยและมองดูอย่างสนใจเช่นที่เป็นมาหลายครั้งคราก่อนหน้านี้
...
...
...
5 บันทึก
2
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
สนทนากับพระเจ้า เล่ม 1
5
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย