ทำให้สุดท้ายแล้วเจ้าของทีมจึงได้มีการเปลี่ยนมือเป็น John Y.Brown Jr. ในปี 1976 และได้ตัดสินใจลดขนาดทีมลงเพื่อไม่ให้ถูกขัดแข้งขัดขาได้อีก แต่ก็ต้องแลกกับผลงานที่แย่ลงตามไปด้วย ต่อมาเจ้าของทีมจึงได้มีการเจรจากับ Irv Levin ผู้ที่เป็นเจ้าของทีม Celtics ในตอนนั้น และได้มีการเซ็นสัญญาแลกเปลี่ยนสิทธิ์การบริหารทีมกันในปี 1978 ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่มากในเวลาดังกล่าว
การ Trade สิทธิ์บริหารทีมที่กลายเป็นข่าวใหญ่โต (Cr. New York Times)
จากนั้นเจ้าของใหม่อย่าง Levin จึงได้ทำสิ่งที่ไม่เคยทำกับ Celtics ได้ (เพราะโดนลีกคัดค้าน) นั่นคือการย้ายทีมไปอยู่เมืองใหม่อย่าง San Diego นั่นเอง
San Diego Clippers
หลังจากที่เจ้าของทีมได้ตัดสินใจย้ายเมือง ทีมก็มีการจัดตั้งชื่อใหม่ขึ้น ในตอนแรกจะใช้ชื่อว่า San Diego Rockets แต่ชื่อดันไปซ้ำกับ Houston Rockets อยู่ก่อนแล้ว หลังจากมีการหารือกัน ทีมจึงได้ชื่อใหม่ว่า San Diego Clippers นั่นเอง
ซ้ำร้ายเข้าไปอีกเมื่อ Levin ตัดสินใจขายทีมให้กับ Donald Sterling ในทีม 1982 แต่เจ้าของทีมคนใหม่ยังไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของแฟนกีฬาได้อย่างทันท่วงที ทำให้ผลงานได้กราวรูดไปถึง 17-65 ท่ามกลางกระแสข่าวที่ว่าทีมอาจจะมีการย้ายเมืองอีกรอบไปที่ Los Angeles ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเจ้าของทีมนั่นเอง
ก่อนที่จะมีการต่อสุ้กันทางกฎหมายอย่างยาวนาน และจบลงด้วยการยินยอมให้ย้ายเมืองได้ในปี 1985 และถูกปรับแค่ 6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แทน ทีมจึงได้ย้ายไปที่เมือง Los Angeles สมใจเจ้าของทีม และทำการเปลี่ยนชื่อเป็น Los Angeles Clippers ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
Los Angeles Clippers 1985 Logo
การเริ่มต้นที่ไม่สวยงามนัก
ในฤดูกาล 1984/85 ที่ทีมได้ลงแข่งภายใต้ชื่อและสนามเหย้าใหม่ ทีมจบฤดูกาลด้วยสถิติ 31-51 ซึ่งดูไม่ดีนัก และผลงานของทีมจากนั้นมาก็ตกต่ำลงเรื่อยๆ แทบจะไม่ต่างจากสมัยอยู่ที่ San Diego สักเท่าไหร่
เมื่อทีมเริ่มเห็นว่าชุดผู้เล่นที่มีอยู่ไม่น่าจะไปได้ไกลกว่านี้อีกแล้ว ทีมจึงเริ่มวางแผนที่จะเข้าสู่โหมดการสร้างทีมใหม่ ซึ่งทีมได้เชิญอดีตผู้บริหารทีมมากฝีมืออย่าง Jerry West มาเป็นที่ปรึกษาด้านนี้โดยเฉพาะ
แกนหลักคนแรกที่ปล่อยออกจากทีม กลายเป็น Paul ที่ถูกส่งไปอยู่กับ Rockets แลกกับผู้เล่นแววดีหลายคน นำโดย Lou Williams, Patrick Beverley และ Montrezl Harrell