ชีวิตล่าม(สาว)โรงงาน ตอนที่4 :
คนเราจะสามารถตัดสินคนได้ เพียงแค่ได้สัมภาษณ์งานแค่แป๊บเดียว...จริงหรอ (บทความนี้ยาวนะค่ะ😉)
ภาพจากgoogle
1. เคยคิดกันไหมว่า คนเราจะสามารถตัดสินคนได้ยังไง ว่าคนนั้นเป็นคนอย่างไร ขยันแค่ไหน อดทนหรือเปล่า เพียงแค่ได้คุยแค่แป๊บเดียว
2. เมื่อวานเข้าไปเป็นล่ามสัมภาษณ์งาน ให้กับญี่ปุ่น เป็นตำแหน่งหัวหน้างาน สำหรับโรงงานที่จะตั้งใหม่ข้างๆ
หัวหน้างานพวกนี้ ถ้าผ่านสัมภาษณ์ก็จะถูกส่งไปฝึกงานที่ญี่ปุ่นหกเดือน ก็เพราะว่าเงื่อนไขนี้ละมั้งที่ใครๆก็อยากได้
3. แต่ก่อนก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าเวลาเขาเลือกคนจากการสัมภาษณ์ เขาใช้อะไรเป็นตัวตัดสิน ในการเลือกคน แต่พอมีประสพการณ์ในการเป็นล่ามสัมภาษณ์งานมา ก็พอจะรู้บ้างว่าเขาเลือกจากอะไร ซึงส่วนใหญ่บริษัทก็จะมีคุณสมบัติของพนักงานที่ต้องการไว้ ซึ่งบางครั้งคุณสมบัติเหล่านี้ก็อาจจะหยวนได้ถ้าคนสัมภาษณ์ถูกใจ...
4.อย่างตัวดิฉันเองคุณสมบัติไม่เข้าตากรรมการสักข้อแต่ก็ถูกรับเลือกเข้ามาทำงาน อายุก็เกิน ใบสอบวัดความสามารถภาษาญี่ปุ่นในLevelที่เขาต้องการก็ไม่มี จบจากญี่ปุ่นหรือ? ก็ไม่ แถมก่อนสัมภาษณ์ได้คุยกับคนที่เข้ามาสัมภาษณ์พร้อมกัน มีแต่คุณสมบัติเพรียบพร้อมทั้งนั้น
ข้างล่างคือบทสนทนาคนที่มาสัมภาษณ์งานพร้อมกันกับดิฉัน
อิฉัน : "สวัสดีคะ มาสัมภาษณ์งานเหมือนกันเหรอคะ" (^o^)
คนถูกถาม : "ใช่คะ"
อิฉัน : "ทำงานที่ไหนอยู่คะตอนนี้" (^o^)
คนถูกถาม : "ไม่ได้ทำคะเพิ่มจบ"
อิฉัน : "ถึงว่าหน้ายังเด็กอยู่เลย เพิ่มจบตรีมานี้เอง" (^o^)
คนถูกถาม : "เปล่าคะ จบโทจากประเทศญี่ปุ่นคะ "
อิฉัน : "เหรอคะ .... (^-^!#)....เออ งั้นอายุคงจะประมาณใกล้ดิฉันแน่เลย ดิฉันก็สามสิบกว่าแล้วละคะ"
คนถูกถาม :"อ้อ พึ่งจะ 28 คะ พอดีจบตรีแล้วคุณแม่อยากให้ไปเรียนเลยนะคะ ตอยแรกก็อยากช่วยงานที่บ้านก่อนเหมือนกัน แล้วพี่ละคะ จบญี่ปุ่นมาหรือเปล่า แล้วไปเมืองไหนมาคะ บลา บลา...."
อิฉัน : (^-^!#)....
แต่.......ในที่สุดเราก็เข้ามาได้แฮะ
สงสัยความสวยเข้าตากรรมการ โฮะ โฮะ โฮะ ((^o^))...
5.แต่หลังจากเข้าสัมภาษณ์งานบ่อยๆ ก็ทำให้รู้ว่าเกณท์การคัดคนของคนญี่ปุ่นนั้นเป็นยังไง คนญี่ปุ่นไม่ต้องการคนที่เก่งมากเกินไป เพราะกลัวจะเข้ากับคนอื่นในองกรณ์ไม่ได้ ชอบคนขยัน อดทน หัวอ่อนนิดนึงจะได้คุมง่ายๆ
6.กลับมาที่เรื่องสัมภาษณ์งานเมื่อวาน สัมภาษณ์งานไปหกคน ห้าคนเคยได้ทุนไปทำงานที่ญี่ปุ่นแต่ทำงานในตำแหน่งWorkerธรรมดา
คนละสามปี อย่าน้อยสิ่งที่ได้กลับมาคือภาษาญี่ปุ่นแน่ๆ อายุอยู่ที่ประมาณ26-29ปี ส่วนที่เหลืออีกคนจบ ปวส..ในไทยธรรมดานี้แหละ มีประสพการณ์ในการทำงานมาประมาณ10ปี หน้าตาซื่อๆ ดิฉันแอบตั้งชื่อแกว่าพี่หงวนก่อนเข้าสัมภาษณ์ยังคิดอยู่เลยว่า พี่หงวนต้องถูกตัดออกคนแรกแน่ๆ
7.แต่ผิดคาดคนที่ได้รับเลือกคือ พี่หงวนคนเดียวเลย นอกนั้นไม่ผ่านเลย ถามคนญี่ปุ่นว่าทำไมไม่เลือกคนที่ได้ภาษาญี่ปุ่นละ เขาตอบเป็นภาษาไทยว่า
" ภะษายี่ปุ่นไม่เอา เดียเราส่งไปเรียนให้ ทำงานเก่งๆดีกว่า"
สรุปภาษาญี่ปุ่นไม่จำเป็น เรียนรู้ทีหลังได้ อยากได้คนทำงานเก่งมากกว่า
8. จากสายตาของดิฉันแล้ว พี่หงวนมีแววตาที่ซื่อมาก ซื่อจนดูน่าสงสาร ตอนนั้นยังแอบลุ้นให้แกได้อยู่ในใจ ถามอะไรแกก็ตอบตรงๆ เพราะในแววตาซื่อๆของแกฉายแสงแห่งความมุ่งมั่นออกมาด้วย จึงคิดว่าแกน่าจะเป็นคนขยัน แต่สำหรับคนอื่นแล้วเขาคงคิดว่าตัวเองรู้ภาษาญี่ปุ่น ซึ่งอาจจะไม่ได้เก่งมากมายแต่ก็ทำให้คนคนนั้นกล้าที่จะเรียกเงินเดือนสูง เกินตำแหน่งหัวหน้างาน แววตาที่แสดงออกมาไม่ใช้แววตามุ่งมั้นที่จะทำงานแต่เป็นแววตา ในการต่อรองเงินเดือนมากกว่า ประมาณว่าไม่ให้เท่าเนี๊ยไม่มา บางคนบอกเลยผมต้องผ่อนรถรุ่นนี้ ยี่ห้อนี้ ถ้าไม่ให้เท่านี้ผมอยู่ไม่ได้ ...แหม ก่อนซื้อก็ไม่คิดละ ว่าตัวเองจะผ่อนไหวไหม (-_-!)
9.แต่ก็นั้นแหละแววตามุ่งมั่นของพี่หงวนที่แสดงออกมาวันนั้น ถ้าทำงานจริง อาจจะเกิดความท้อถอย ความมุ่งมั้นก็อาจจะหดหายไปได้ เพราะก่อนหน้าเคยสัมภาษณ์ Worker เข้ามาทำงานเจ็ดคน ทุกคนมีแววตามุ่งมั้นมาก
ทุกคนบอกสามารถทำงานกะดึกได้ อยู่หน้าเตาร้อนๆได้ สรุปคือมีอะไร สามารถทนได้หมด
แต่พอรับเข้ามาทำงานจริงไม่ถึงสามวันลาออกหมด เหลืออยู่แค่คนเดียว
10.ดิฉันก็หวังว่าพี่หงวนคงไม่มีแววตามุ่งมั้นแค่วันสัมภาษณ์ อยากให้พี่หงวนทำงานไปนานๆ สมกับที่ดิฉันคอยเอาใจช่วยอยู่
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้า🙏
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
