30 ม.ค. 2021 เวลา 14:36 • หุ้น & เศรษฐกิจ
4 พฤติกรรมอันตรายในการเล่นหุ้น
เช็คด่วน‼️ ว่าตรงกับคุณหรือไม่❓
1️⃣ เล่นหุ้นด้วยหู
ซื้อหุ้นเพราะคนนั้นบอกว่าดี คนนี้บอกว่าดี โดยที่ตัวเองยังไม่ได้ศึกษาตัวบริษัทนั้นดีพอเลย ใครพูดอะไรก็เชื่อไปหมด พอหุ้นที่ซื้อราคาดันลงก็ไปต่อว่าคนที่เราซื้อตามในใจอีกแทนที่จะต่อว่าตัวเองที่เป็นคนกดซื้อเอง ถ้าคุณมีนิสัยประเภทนี้มันจะทำให้คุณไม่พัฒนาตัวเองซักที และจะทำให้การลงทุนของคุณไม่มีทางประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนด้วย เพราะพอคุณซื้อตามคนอื่นแล้วได้กำไรมันจะทำให้คุณชินกับการรอฟังหุ้นจากคนอื่นว่าตัวไหนน่าซื้ออีก โดยที่ไม่ได้ทำการศึกษาด้วยตัวเองเลย เลิกเถอะครับถ้าคุณเป็นแบบนี้อยู่ เพราะเราไม่สามารถพึ่งคนอื่นไปได้ตลอดหรอกครับ
2️⃣ ไม่มั่นใจในแผนตัวเองทั้งที่ศึกษามาดีแล้ว
บางคนทำการวิเคราะห์ตัวธุรกิจมาอย่างดี ว่าราคาเหมาะสมควรจะเท่านั้นเท่านี้ ซึ่งราคาในปัจจุบันยังต่ำกว่าราคาเหมาะสมที่เราประเมินอยู่มาก จึงทำการซื้อหุ้น แต่พอซื้อไปราคาหุ้นที่เราซื้อมันดันตกต่อ ตอนแรกๆก็ใจนิ่งไม่เป็นไรมันเป็นแค่อารมณ์ตลาดบริษัทที่เราเลือกยังดีอยู่เราดูมาดีแล้ว แต่พอต่อมาตกหนักๆ -20% -30% พร้อมข่าวร้ายเต็มที่ ดันกดขายทิ้งซะงั้นแล้วซักพักมันก็เด้งใส่หน้ากลับมาราคาที่เราซื้อบางทีเกินราคาที่เราซื้ออีกด้วย
3
จริงๆแล้วถ้าคุณศึกษามาดีแล้ววางแผนมาดีแล้ว คุณควรทำตามแผนของคุณ ถ้าคุณเล่นตามกราฟเทคนิคมีสัญญาณให้คัทลอสคุณก็ต้องคัทตามวินัยซึ่งสัญญาณทางกราฟไม่มีทางที่จะปล่อยให้ติดลบถึง20-30% (ปกติเต็มที่ 10% ก็มีสัญญาณขายเกือบทุก indicator แล้ว) แต่ถ้าคุณจะถือยาว(วิเคราะห์พื้นฐานมาดีแล้ว)และมีข่าวร้ายของหุ้นตัวนั้นออกมาทำให้ราคาหุ้นที่คุณถืออยู่ตก คุณควรตั้งสติก่อนแล้วดูข่าวให้ดีว่ามันกระทบตัวบริษัทที่คุณลงทุนจริงๆไหม และเป็นการกระทบเพียงชั่วคราวหรือถาวร คุณควรประเมินอย่างรอบคอบซะก่อนที่จะทำการ Action อะไร เพราะอย่าลืมว่าถ้าคุณขายหุ้นทิ้งเพราะข่าวร้าย ราคาหุ้นที่คุณขายในตอนนั้นมันก็คือราคาที่รับรู้ข่าวร้ายไปแล้ว ซึ่งมันอาจเป็นจุดต่ำสุดก็ได้
2
ยกตัวอย่างที่คนบางคนชอบบอกว่ามีเซียนหุ้นหลายคนที่รวยจากหุ้น เพราะเค้าโชคดีที่ได้เริ่มลงทุนในวันที่ตลาดหุ้นตกหนักๆ แต่เราไม่มีโอกาสแบบเค้า แต่พอถึงวันที่ตลาดหุ้นตกหนักๆจริงๆ เราดันไม่กล้าซื้อกันแถมเผลอขายทิ้งอีกซะด้วย
1
3️⃣ เวลาขาดทุนทนได้ แต่พอกำไรดันทนไม่ได้
เคยเป็นกันไหมครับ ตอนหุ้นที่ถืออยู่แดงไม่กล้าคัทลอสทนให้มันแดงอยู่ในพอร์ตตั้งนาน แต่พอมันขึ้นมาถึงทุนเราดันขายเท่าทุนซะงั้นแล้วมันก็ขึ้นเลยราคาทุนเราไปไกลแสนไกล บางทีซื้อหุ้นมาสองตัวตัวนึงกำไรนิดๆอีกตัวขาดทุนนิดๆ เราดันขายตัวกำไรทิ้งซะงั้น เพราะคิดว่าเดี๋ยวมันจะลงมาขาดทุนเหมือนอีกตัว ส่วนตัวที่ขาดทุนนั้นก็ปล่อยมันไปจากแดงนิดๆก็กลายเป็นแดงเถือก ซื้อหุ้นตัวใหม่มาเขียวหน่อยก็ขายอีกแล้ว พอแดงก็ปล่อยดอยเหมือนเดิม รู้ตัวอีก อ้าวมีหุ้นติดดอยเต็มพอร์ตเลยนี่หว่า
ซึ่งตามหลักจริงๆแล้วเราควร cut loss (ขายตัวที่แดง) และ Let profit run (ปล่อยตัวที่เขียวรันกำไรไป) แต่เราดันไป cut profit (ขายตัวที่กำไร) และ Let loss run (ปล่อยขาดทุนไปยาวๆ) แต่ในส่วนของคนที่ถือยาวผมว่าการ cut loss คงไม่จำเป็นทุกครั้งแต่คุณต้องดูกิจการมาดีแล้วจริงๆ และ คอยติดตามผลการดำเนินงานของบริษัทอยู่ตลอด ถ้าหากบริษัทที่คุณลงทุนดันผิดแผนที่คุณวางไว้แต่แรก เช่น กำไรตก โดน Disruption จากยุคสมัย คุณก็ต้องยอมตัดใจ
4️⃣ ซื้อหุ้นเพราะเป็นหุ้นพิมพ์นิยมโดยไม่ประเมินมูลค่าหุ้นให้ดีก่อน
แน่นอนครับบริษัทพิมพ์นิยมที่ใหญ่ๆดีๆดังๆใครก็อยากเข้าไปเป็นเจ้าของ แต่คุณต้องอย่าลืมมองว่าราคาในตอนที่ซื้อมันเหมาะสมหรือไม่ เพราะการซื้อหุ้นในบริษัทที่ดี แต่ซื้อในตอนที่ราคาแพงเกินไป ก็กลายเป็นการลงทุนที่ไม่ดีได้ และการซื้อหุ้นในบริษัทที่อาจจะไม่ได้ดีเยี่ยม แต่ซื้อในตอนที่ราคาถูกมากๆ อาจกลายเป็นการลงทุนที่ดีก็ได้
ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่อ่านจนจบนะครับ ฝากกดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจให้ทางเพจด้วยนะครับ 🙏
เขียนบทความโดย นักลงทุนตัวอ้วน
โฆษณา