Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หนังสือสนทนากับพระเจ้า
•
ติดตาม
1 ก.พ. 2021 เวลา 01:27 • หนังสือ
#44 เล่ม 1 บทที่ 12 หน้า 267 ~ 275
...
ถ้าตอนนี้มีอะไรที่เธออยากจะมีประสบการณ์ในชีวิต จงอย่า "ต้องการ" แต่ให้เลือกไปเลย!
เธอเลือกความสำเร็จทางโลกใช่ไหม? เลือกมีเงินมากขึ้นใช่ไหม? ดีแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็เลือกให้เต็มที่ไปเลย! ไม่ใช่ครึ่งๆกลางๆ
แต่เมื่อพัฒนามาถึงขั้นหนึ่ง ก็อย่าประหลาดใจไปถ้า "ความสำเร็จทางโลก" ไม่อยู่ในความสนใจของเธออีก...
...
...
...
N : จะหมายความว่าอะไรครับเนี่ย?
G : จะมีอยู่จุดหนึ่งในการวิวัฒน์ของทุกดวงวิญญาณ ที่ความสนใจหลักจะไม่อยู่ที่การอยู่รอดของร่างกายอีกต่อไป แต่จะเป็นการเติบโตของวิญญาณแทน ไม่สนใจการบรรลุความสำเร็จทางโลกอีกแต่จะ "มุ่งสู่การหยั่งรู้ในตัวตน"
ในแง่หนึ่ง นี่เป็นช่วงที่อันตรายมาก โดยเฉพาะในตอนเริ่มต้น เพราะวิญญาณที่พำนักอยู่ในกาย ✴️รู้แล้วว่าตนเพียงอาศัยอยู่ในกายแต่ไม่ใช่เป็นตัวร่างกายนั้นจริงๆ✴️
ในขั้นนี้ ก่อนที่วิญญาณจะบรรลุวุฒิภาวะในเรื่องนี้ บ่อยครั้งจะเกิดอาการไม่ใยดีต่อความเป็นไปของร่างกาย
✴️วิญญาณตื่นเต้นที่ในที่สุดตนก็ถูกค้นพบ❗✴️
จิตใจไม่แยแสร่างกายและทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับกาย เพิกเฉยกับทุกสิ่ง ความสัมพันธ์ถูกละเลย ครอบครัวก็ไม่ใส่ใจ การงานเป็นเรื่องรองลงไป ใบแจ้งหนี้ก็ไม่ยอมจ่าย ข้าวปลาอาหารก็ไม่กินเป็นเวลานาน เป้าและความสนใจทั้งหมด 🔸พุ่งไปเรื่องจิตวิญญาณและสิ่งที่เกี่ยวข้องกับวิญญาณเพียงอย่างเดียว🔸
1
นี่อาจนำไปสู่วิกฤตในชีวิตประจำวันของคนๆนั้นได้ แม้จิตใจจะไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดหากแต่ล่องลอยอยู่ในปิติสุขก็ตาม คนอื่นๆพูดกันว่าใจเธอหลุดลอยไปแล้ว ซึ่งในความหมายหนึ่งก็คงจะเป็นอย่างนั้น
1
การค้นพบความจริงว่าชีวิตไม่ใช่เรื่องทางกาย อาจทำให้เกิดความไม่สมดุลในทางอื่นได้ จากที่ตอนแรกเธอทำเหมือนกับว่า ร่างกายคือทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ตอนนี้กลับแสดงออกว่ากายไม่มีความหมายเลยแม้แต่น้อย 🔹ซึ่งแน่นอนว่าไม่จริงหรอก🔹 ในที่สุดตัวเธอก็จะจดจำได้ (และบางครั้งก็ด้วยความเจ็บปวด)
เธอคือสิ่งมีชีวิตที่มี 3 สภาวะ ประกอบขึ้นจาก "ร่างกาย" "จิตใจ" และ "วิญญาณ" เธอจะเป็นเช่นนี้`เสมอ` ไม่ใช่เฉพาะเวลาที่อยู่บนโลกเท่านั้นนะ
หลายคนตั้งสมมติฐานว่าเมื่อตายลง ร่างกายกับจิตใจจะดับไปด้วย แต่จริงๆสองสิ่งนี้ "ไม่ได้หายไปไหน"
ร่างกายเพียง "เปลี่ยนรูป" โดยละส่วนที่หนาแน่นที่สุดไป แต่จะคงเปลือกนอกไว้เสมอ จิตใจ (อย่าสับสนกับสมองล่ะ) ก็จะตามเธอไปด้วย โดย "ผสานเข้ากับวิญญาณและร่างกาย" 🔸เป็นมวลสารพลังงานเดียวที่มีสามมิติหรือสามด้าน🔸
1
หากเธอเลือกจะกลับสู่โอกาสในการมีประสบการณ์ ซึ่งเธอเรียกว่าชีวิตบนโลกอีกครั้ง วิญญาณเธอจะแบ่ง "มิติที่แท้จริงของตน" ออกเป็นสิ่งที่เธอเรียกว่า กาย จิต และ วิญญาณอีก
2
🔅ที่จริงแล้ว "เธอคือพลังงานเดียว"
🔅ที่มี "คุณลักษณะ 3 อย่างที่ต่างกัน"
ก่อนเธอจะเข้าสู่ร่างใหม่เพื่อจุติ (เกิด) บนโลก กายทิพย์★ ของเธอ (อย่างที่มีคนบัญญัติ) 🔸จะลดระดับการสั่นสะเทือนของตัวเองลงมาจากที่เร็วจนไม่อาจมองเห็น สู่ระดับที่เกิดเป็น "มวลและสสาร" 🔸
สสารที่เกิดขึ้นนี้คือการสร้างสรรค์จาก "ความคิดบริสุทธิ์" คือ "ผลผลิตของจิตใจ" 🔸เป็นมิติแห่งจิตใจขั้นสูงของสามส่วนนั้นของเธอ🔸
★กายทิพย์ หรือ "กายละเอียด" ของเราที่ไม่อาจเห็นได้ด้วยตาเนื้อแต่จะเห็นได้ด้วยตาในหรือตาที่สาม ในกายทิพย์จะมีจักรดำรงอยู่ 7 ตำแหน่งในระนาบเดียวกับแนวไขสันหลัง ทำหน้าที่ดูดซับพลังงานและส่งพลังไปยังกายเนื้อให้ทำงาน ผู้ปฏิบัติทางจิตวิญญาณหลายคนบอกว่านี่คือ "กาย" ที่แท้จริงของเรา ~ ผู้แปล
"สสาร" นี้คือ 🔸การรวมหน่วยพลังงานที่แตกต่างนับร้อยนับพันนับล้านล้านชนิดเข้าด้วยกัน "เป็นหนึ่งมวลขนาดมหึมา" โดยการควบคุมของจิตใจ🔸
เธอช่างมีจิตเป็นนายจริงๆ❗
เมื่อหน่วยพลังงานเล็กๆเหล่านี้ใช้พลังงานของตัวเองจนหมด ร่างกายจะผลัดทิ้ง ขณะที่จิตใจก็จะสร้าง "พลังงานใหม่ขึ้นมาทดแทน"
ในกระบวนการนี้ 🔸จิตใจจะสรรค์สร้างจากความคิดต่อเนื่องที่เธอมีต่อตัวเองว่าเธอคือใคร❗🔸
พูดง่ายๆก็คือกายทิพย์ของเธอจะ "ดักจับ" ความคิดและ 🔸ลดระดับการสั่นสะเทือนของหน่วยพลังงานต่างๆลง (อีกความหมายหนึ่งก็คือ ทำให้พวกมัน "ตกผลึก" นั่นเอง)🔸จนกลายเป็นสสาร...เป็นสารใหม่ของตัวเธอ ทุกเซลล์ในร่างกายจะถูกผลัดเปลี่ยนภายในระยะเวลาไม่กี่ปีด้วยวิธีนี้เอง อาจพูดได้ว่า "เธอไม่ใช่คนเดิมกับที่เคยเป็นเมื่อหลายปีก่อนจริงๆ"
หากเธอมี`ความคิด`ที่ป่วยไข้หรือไม่สบาย (หรือความโกรธ เกลียด และความคิดแง่ลบอย่างต่อเนื่อง) ร่างกายก็จะ`แปลงความคิด`พวกนี้ให้ปรากฏออกมาทางกายภาพ ผู้คนจะเห็นภาวะที่เป็นลบและเจ็บป่วยนี้แล้วจะพูดว่า "เธอเป็นอะไรหรือเปล่า?"★ พวกเขาไม่รู้หรอกว่าตนถามคำถามได้ตรงเผงทีเดียว
★"What the matter?" ความหมายตรงตัวของคำว่า "matter" คือ "สาร" หรือ "สสาร" และถ้าแปลแบบตรงตามอักษรจะได้เป็น "สสารเป็นอะไรหรือเปล่า?" ~ ผู้แปล
วิญญาณ`เฝ้าดู`ความเป็นไปทั้งหมดนี้ปีแล้วปีเล่า เดือนแล้วเดือนเล่า วันแล้ววันเล่า ขณะต่อขณะ และถือครอง "สัจจะเกี่ยวกับตัวเธอ" ไว้เสมอ
มัน "ไม่เคยลืม" พิมพ์เขียวแรกเริ่ม แผนการดั้งเดิม มโนคติแรก ความคิดแห่งการสร้างสรรค์ครั้งแรก
งานของมันคือย้ำเตือนเธอ "ให้เธอคิดใหม่" ✴️เพื่อเธอจะจำได้อีกครั้งว่าเธอคือใครและเลือกตัวตนที่เธอต้องการจะเป็นต่อไป✴️
ด้วยวิธีนี้เอง...ที่วัฏจักรแห่งการสร้างสรรค์และ ประสบการณ์ การวาดมโนภาพและการเติมเต็มภาพ "การรู้และการเติบโตสู่สิ่งที่ไม่รู้จัก"
✴️จะดำเนินสืบไปทั้งในขณะนี้และตลอดกาล✴️
N : วิ้ว!
G : ใช่แน่แท้ที่สุดเลยล่ะ
โอ...ยังมีอะไรที่ต้องอธิบายมากมายเหลือเกิน แต่ไม่มีทางและไม่มีวันอยู่ในหนังสือเล่มเดียวหรือแม้แต่`ในชาติภพเดียว` แต่เธอก็ได้เริ่มต้นแล้ว นั่นก็ถือว่าดีแล้วล่ะ
ทว่าจงจำสิ่งที่วิลเลี่ยม เช็คสเปียร์ ครูผู้ยิ่งใหญ่ของเธอได้บอกเอาไว้ว่า "โฮเรโซ ยังมีอีกหลายสิ่งในสรวงสวรรค์และพื้นพิภพที่เกินกว่าปรัชญาของเจ้าจะเฝ้าฝันถึง"
N : ผมขอถามคำถามอะไรสักสองสามข้อได้มั๊ยครับ? เช่นว่าตอนที่พระองค์บอกว่าจิตใจจะตามผมไปหลังความตาย อย่างนี้ก็หมายความว่า "ความเป็นตัวผม" ก็ตามผมไปด้วยงั้นหรือครับ? หลังจากตายแล้วผมจะยังรู้มั้ยครับว่าตัวเองเป็นใคร?
G : รู้! และจะได้รู้ถึงตัวตนที่เธอ "เคยเป็น" มาแล้วด้วย "ทั้งหมดจะเปิดเผยต่อเธอ" เพราะเมื่อถึงเวลานั้น `จะเป็นประโยชน์` ต่อเธอ แต่ว่า `ตอนนี้ยัง`
N : แล้วชีวิตในชาตินี้ล่ะครับ จะมีการประเมิน ทบทวน หรือว่าให้คะแนนมั๊ยครับ?
G : ไม่มีการพิพากษาในสิ่งที่เธอเรียกว่าชีวิตหลังความตายหรอกนะ แม้แต่จะตัดสินตัวเองเธอยังไม่ได้รับอนุญาตเลย (เพราะเธอต้องให้คะแนนตัวเองต่ำมากแน่ๆ เมื่อดูจากที่เธอชอบตัดสินและ`ไม่ยอมให้อภัยตัวเองในชาตินี้`แล้วล่ะนะ)
ไม่มีหรอก ไม่มีการประเมินผล ไม่มีใครมาคอยบอกว่า "สุดยอด" หรือ "ห่วยบรม"🔸มีแต่มนุษย์เท่านั้นที่ชอบพิพากษาตัดสิน🔸 และเพราะเธอเป็นอย่างนั้น เธอเลยทึกทักเอาว่าฉันก็ต้องเป็นด้วยเหมือนกัน แต่ฉันเปล่า
✴️นี่คือสัจจะอันยิ่งใหญ่ที่เธอรับไม่ได้✴️
แม้จะไม่มีการพิพากษาในชีวิตหลังความตาย แต่เธอจะได้รับโอกาสให้มองย้อนกลับไปยังสิ่งที่เธอ `คิด `พูด และ `ทำในชีวิตที่เพิ่งผ่านมาอีกครั้ง เพื่อให้เธอตัดสินใจเองว่านั่นคือสิ่งที่เธอจะเลือกอีกครั้งหรือไม่ บนพื้นฐานของ "สิ่งที่เธอบอกว่าเธอเป็น" และ "ใครที่เธอต้องการเป็น"
N : มีคำสอนแนวเร้นลับของโลกตะวันออกที่เรียกว่า กามภพ★ บอกไว้ว่าหลังจากที่เราตายแล้ว แต่ละคนจะได้รับโอกาสฟื้นทุกความคิดที่เคยมี ทุกถ้อยคำที่เคยพูด ทุกสิ่งที่เคยทำขึ้นมาใหม่
แต่คราวนี้จะไม่ใช่จากมุมมองของตัวเอง แต่จากมุมมองของทุกคนที่ได้รับผลกระทบ พูดอีกอย่างก็คือ เราได้ผ่านประสบการณ์ของสิ่งที่เราคิด พูด และทำไปแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่เราจะได้มีประสบการณ์ว่า`คนอื่น`รู้สึกอย่างไรในสิ่งต่างๆเหล่านั้นบ้าง
และด้วยมาตรวัดนี้เราก็จะตัดสินใจได้ว่า เราจะยังคิด พูด และทำอย่างนั้นอีกหรือเปล่า พระองค์คิดว่าไงครับ?
★กามภพ : พระพุทธศาสนาเชื่อว่านี่คือภพภูมิที่ยังเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏ ภพที่เป็นกามาวจร ภพของสัตว์ผู้ยังเสวยกามคุณ คือดินแดนที่เป็นที่เกิดของสรรพสัตว์ที่ยังประกอบด้วยกามตัณหา ดิ้นรนไขว่คว้าหาความสุขและยังเกี่ยวข้องอยู่กับความรักความใคร่ ความสุขที่ได้รับนี้จึงเป็นความสุขที่ไม่ถาวรและอาจก่อความทุกข์เมื่อไม่ได้ดังที่ปรารถนา ~ ผู้แปล
G : สิ่งที่จะเกิดกับเธอหลังความตายนั้น ไม่ธรรมดาเกินกว่าจะอธิบายในภาษาที่เธอจะเข้าใจได้ ด้วยความที่เป็นประสบการณ์ในมิติอื่น จึงไม่อาจอธิบายด้วยเครื่องมือ "ที่มีความจำกัดร้ายแรงอย่างภาษา หรือ ถ้อยคำได้จริงๆ"
ฉันพูดได้แต่เพียงว่า...🔸เธอจะได้รับโอกาสให้ทบทวนชีวิตในชาติที่เพิ่งผ่านมาอีกครั้ง โดยไม่มีความเจ็บปวด หวาดกลัว หรือการพิพากษาแต่อย่างใด🔸
เพื่อให้เธอตัดสินใจว่า...🔸เธอรู้สึกต่อประสบการณ์ตัวเองอย่างไรและจะไปไหนต่อจากจุดนั้น🔸
พวกเธอหลายคนจะ "ตัดสินใจกลับมาที่นี่อีก" กลับสู่โลกแห่งความหนาแน่นและสัมพัทธ์ เพื่อโอกาสในการมีประสบการณ์ถึงการ "ตัดสินใจและการเลือก" ที่เกี่ยวข้องกับตัวตนของเธอในระดับนี้★
★เช่น เป็นคนมีเมตาตาระดับธรรมดา ระดับอันยิ่ง ระดับไม่มีประมาณ เป็นต้น (เป็นแค่การเปรียบเปรยเฉยๆไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีระดับของความเมตตาเป็นแบบนี้)
~ แอดมิน
ส่วนคนอื่นๆซึ่งมีจำนวนน้อย จะกลับมาพร้อมภารกิจที่ต่างออกไป เธอจะกลับสู่โลกแห่งมวลสารและความหนาแน่น 🔆เพื่อพาผู้คนให้พ้นจากโลกนี้🔆
มีคนที่เลือกอย่างนี้เสมอในหมู่พวกเธอ เธอจะดูคนพวกนี้ออกทันที งานของพวกเขาสิ้นสุดแล้ว แต่กลับมายังโลกเพียงเพื่อจะช่วยเหลือคนอื่นๆ นั่นคือ ความสุขของเขา ✴️พวกเขาไม่แสวงหาอะไรอีกนอกจากการได้รับใช้✴️★
★และ "พระเจ้าที่แท้" ก็ไม่ใช่ผู้ที่มีค่ารับใช้มากที่สุด แต่คือ`ผู้ที่รับใช้`มากที่สุด เพราะฉะนั้นจึงได้เป็นพระเจ้าของคนทั้งหลาย อ่านทบทวนได้ตามลิงค์ครับ ~ แอดมิน
https://www.blockdit.com/posts/60065cc5c9b8ae1b4cc19bc6
เธอไม่มีทางพลาดคนพวกนี้ได้ พวกเขาอยู่ทุกหนทุกแห่ง มีมากกว่าที่เธอคิดเสียอีก เธอเองก็รู้จักอยู่คนนึง
N : ผมเป็นหนึ่งในนั้นหรือเปล่าครับ?
G : ไม่ใช่ ถ้ายังต้องถามก็แปลว่าเธอรู้ว่าเธอไม่ใช่🔸คนที่เป็นอย่างนั้นจะไม่ถามใครเพราะไม่มีอะไรต้องถาม🔸
ลูกเอ๋ย! ในชาตินี้น่ะ เธอคือผู้ส่งสาร ผู้นำสาส์น ผู้ประกาศข่าว ผู้แสวงหาและหลายครั้งก็เป็นผู้ประกาศสัจธรรม แค่นี้ก็พอแล้วสำหรับชีวิตชาติหนึ่ง จงเป็นสุขเถิด❗
N : โอ ผมมีความสุขแล้วครับตอนนี้ แต่ผมสามารถหวังสูงขึ้นได้อีก!
G : ใช่แล้ว! และเธอก็จะทำอย่างนั้นด้วย! เธอมักหวังอะไรที่มากกว่าเดิมเสมอเลย นั่นเป็น "ธรรมชาติของเธอ"
🔆เป็นธรรมชาติของพระเจ้าที่จะแสวงหาการเป็นยิ่งๆขึ้นไป🔆
ดังนั้นจงแสวงหา ถูกต้องแล้ว
`จงแสวงหา`❗
ตอนนี้ฉันอยากจะตอบเธอชัดๆถึงคำถามที่เธอเกริ่นขึ้นมาตอนเริ่มบทนี้
ลุยเลย❗
จงทำสิ่งที่เธอรักจะทำจริงๆ❗
ไม่ต้องไปทำอย่างอื่นแล้ว❗
เวลามีอยู่นิดเดียวนะ
🔸คิดจะผลาญเวลาไปกับการทำสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบเพื่อเลี้ยงชีวิตอย่างนั้นหรือ❓
🔸นั่นมันชีวิตแบบไหนกัน❓
🔸นั่นไม่ใช่การมีชีวิตแล้วแต่คือการตายต่างหาก❗
ถ้าเธอพูดว่า "แต่...แต่...มีคนที่พึ่งพาผมอยู่ มีปากท้องน้อยๆที่ต้องเลี้ยงดู มีคู่ชีวิตที่ฝากความหวังไว้กับผมอยู่"
ฉันก็จะตอบว่า...ถ้าเธอยังยืนกรานว่าชีวิตเธอ "เป็นเรื่องของสิ่งที่กายต้องทำ" ละก็ ✴️แสดงว่าเธอยังไม่เข้าใจว่าเธอมาอยู่ที่นี่เพราะอะไร✴️
อย่างน้อยก็หาอะไรทำสักอย่างที่ทำแล้วมีความสุขและบอกถึงตัวตนของเธอก็แล้วกัน เพราะอย่างน้อย เธอจะได้ไม่ขุ่นเคืองหรือโกรธบรรดาคนที่เธอ "คิดว่าได้ทำให้เธอไม่มีความสุข"
แต่ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่กายกำลังทำอยู่ไม่มีความหมายนะ มันยังสำคัญอยู่แต่ไม่ใช่ในแบบที่เธอคิดหรอก
การกระทำของกายมีจุดหมายเพื่อ "ให้สะท้อนถึงสภาวะจิต" "ไม่ใช่เพื่อให้ได้สภาวะจิตมา"
ในแบบแผนที่แท้จริงของสิ่งต่างๆนั้น เราไม่ได้ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพื่อจะมีความสุข (One does not "do" something in order to "be" happy) แต่เพราะ 🔸เรามีความสุขเราถึงทำบางสิ่งออกไป🔸
เราไม่ได้ทำอะไรบางอย่างเพื่อจะได้เป็นคนมีเมตตา แต่เพราะเราเป็นคนเมตตาเราถึงแสดงออกมาอย่างนั้น
สำหรับ "ผู้ตื่นรู้ในขั้นสูง" ✴️การตัดสินใจของวิญญาณจะนำหน้าการกระทำของร่างกายเสมอ✴️
มีแต่ "ผู้ที่ยังหลับใหล" ✴️ที่พยายามสร้างภาวะแห่งวิญญาณผ่านสิ่งที่ร่างกายกระทำ✴️
นี่คือความหมายของคำว่า "ชีวิตไม่ใช่เรื่องของสิ่งที่ร่างกายเธอกำลังทำ" แต่ก็จริงเหมือนกันที่ว่า "สิ่งที่ร่างกายทำคือภาพสะท้อนว่าชีวิตเธอคือสิ่งใด"
นี่ก็เป็น "เอกภาพแห่งความขัดแย้ง" อีกอันหนึ่ง
แต่จงรู้สิ่งนี้ไว้ หากเธอไม่เข้าใจอย่างอื่นอีก ก็จงเข้าใจสิ่งนี้ นั่นคือ ✴️เธอมีสิทธิที่จะมีความสุข ไม่ว่าจะมีลูกหรือไม่มี มีคู่ครองหรือไม่ก็ตาม✴️
จงแสวงหา❗
จงค้นให้พบ❗
แล้วเธอจะมีครอบครัวที่มีความสุข โดยไม่เกี่ยวกับว่าเธอจะทำเงินได้มากน้อยแค่ไหน และถ้าพวกเขาไม่มีความสุขจนถึงขั้นลุกขึ้นมาแล้วทิ้งเธอไป ก็ขอให้เธอ "ปล่อยพวกเขาไปด้วยความรัก" เพื่อให้พวกเขา "ได้ค้นหาความสุขของตนเอง"
ในทางกลับกัน ถ้าเธอวิวัฒน์มาถึงจุด "ที่กิจกรรมทางกายไม่อยู่ในความสนใจของเธออีก" เมื่อนั้นเธอก็ยิ่งมีอิสระที่จะหาความสุขมากขึ้นไปอีกบนโลกดุจเดียวกับสรวงสวรรค์
พระเจ้าจะบอกว่า`ไม่เป็นไรเลยที่จะมีความสุข` หรือแม้แต่`การมีความสุขกับงานที่ทำ`ก็ตาม
🔹งานแห่งชีวิตเธอ🔹คือ ✴️การประกาศว่าเธอคือใครและถ้ามันไม่ใช่ตัวเธอแล้วจะยังฝืนทำอยู่อีกทำไมเล่า?✴️
เธอคิดว่าเธอ "จำเป็นต้องทำ" ใช่ไหม❓
✴️เธอไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย✴️
ถ้า "ชายผู้ต้องเลี้ยงดูครอบครัวไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแม้ต้องแลกด้วยความสุขของตัวเอง" คือสิ่งที่เธอเป็น ก็จง`รักงาน`ของเธอเถิด เพราะมันจะยิ่งเอื้อให้เธอได้ใช้ชีวิตตามคำประกาศถึงตัวตนของเธอเอง
ถ้า "หญิงผู้ต้องทำงานที่ตนเกลียดเพื่อจะได้ชื่อว่ามีความรับผิดชอบอย่างที่ตัวเองมองว่าเป็นอย่างนั้น" คือตัวตนของเธอ ก็ขอให้เธอรัก รักและรักงานที่ทำ เพราะมันจะสนับสนุนภาพลักษณ์หรือมโนทัศน์ที่เธอมีต่อตัวเองได้อย่างหมดจด
ทุกคนสามารถจะรักทุกอย่างได้ทันทีที่เข้าใจว่า "ตนกำลังทำอะไร" และ "ทำไปเพื่ออะไร"
✴️ไม่มีใครต้องทำอะไรที่เขาไม่อยากจะทำ✴️
(จบ)(บทที่ 12)
3 บันทึก
2
3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
สนทนากับพระเจ้า เล่ม 1
3
2
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย