3 ก.พ. 2021 เวลา 07:25 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
[Review] Songbird (2020) – หนุ่มมีภูมิฝ่าแดนโควิด
เมื่อไม่กี่ปีก่อน เมื่อน้ำมวลมากเข้าท่วมในบริเวณจังหวัดกรุงเทพและปริมณฑล ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมกลางกรุงอย่างที่คนรุ่นใหม่ไม่เคยเจอมาก่อน ณ เวลานั้นเกิดความกล้าหาญในการสร้างหนังที่ถ่ายทอดวิถีชีวิตในช่วงน้ำท่วมอย่าง รักเอาอยู่ ซึ่งก็เป็นความกล้าที่จะสร้างหนังในช่วงเวลานั้นออกมา มาถึงช่วงเวลาที่วิถีเก่าถูกทำลายและผู้คนต้องใช้ชีวิตโดยเว้นระยะห่างจากเจ้าโควิดตัวร้าย Songbird จึงเป็นความกล้าหาญล่าสุดที่นำเอาสถานการณ์ปัจจุบันมาสร้างเป็นหนัง แถมเป็นหนังที่เพิ่งถ่ายทำหลังการคลายล็อคดาวน์อีกด้วย
Songbird เล่าเรื่องในเมืองลอสแองเจลิสในอนาคตที่เชื้อโควิดกลายพันธ์กลายเป็นโควิด-23 ที่ติดเชื้อง่ายขึ้นและรุนแรงมากขึ้น ผู้คนจึงต้องอาศัยอยู่แต่ในบ้านเพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายของเชื้อรวมถึงต้องวัดอุณหภูมิกายในทุก ๆ เช้า นิโก้ หนุ่มส่งของที่มีภูมิกันโควิด สานสัมพันธ์แบบไม่ใกล้ชิดกับ ซาร่า จนกระทั่งเธอมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ ทำให้ นิโก้ ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อจะช่วยซาร่าก่อนที่จะถูกไปค่ายกักกัน
การที่หนังใช้ชื่อชั้นของ ไมเคิล เบย์ ในการประชาสัมพันธ์ ทำให้เราเห็นถึงลายเซ็นต์ของป๋าเบย์อยู่ในแทบทุกอณูของงาน ทั้งมุมกล้องที่ฉวัดเฉวียน ตัวละครเอกชายหญิงที่ดูมีเสน่ห์น่ามอง รวมถึงการเกรดสีภาพแบบ high-contrast หนังจึงมาพร้อมกับเล่าเซ็ตติ้งหนังในช่วงองค์แรกที่แนะนำตัวละครหลัก ๆ ทั้งหมด ก่อนจะพาเราไปสู่ความระทึกขวัญในแดนโควิด-23
ความเจ๋งที่แน่นอนก็คือ การที่หนังค่อนข้างรวดเร็วและตรงต่อสถานการณ์โลกปัจจุบันพอสมควร แม้หนังจะมีการเติมแต่งอรรถรสลงไป ทั้งในแง่วิถีการใช้ชีวิตที่ต้องส่งของผ่านตู้ยูวี หรือการกำจัดการใช้ชีวิตให้อยู่แต่ในบ้าน รวมถึงความร้ายแรงของเชื้อที่ดูรุนแรงมากขึ้น นอกจากนี้มันยังถ่ายทอดวิถีชีวิตการใช้ชีวิตในบ้านได้ค่อนข้างดี… แม้จะดูอินได้ง่าย แต่หนังก็ยังเต็มไปด้วยข้อเสียมากมาย
ความย่ำแย่ที่เห็นได้ชัดก็คือ ความเอาใจใส่ด้านบทที่หลายจุดของหนังเต็มไปด้วยช่องโหว่ ที่บางส่วนของหนังก็ไม่สอดรับในแง่ของเหตุและผล ทำให้บางช่วงก็เต็มไปด้วยความอิหยังวะ ทั้งตัวละครที่จู่ ๆ ก็ปรากฎตัวโดยไร้ซึ่งคำตอบ อีกทั้งการดำเนินเรื่องที่เล่าความสัมพันธ์ของตัวละครก็ทำให้เชื่อได้ยาก นอกจากนี้การเล่าเรื่องที่แม้จะปูใหญ่เพื่อนำไปสู่ความระทึกขวัญท้ายสุด แต่กลับเล่าได้อย่างจืดชืด แม้จะแทรกความโรแมนติคที่ดูน่าน้ำเน่าก็ตามที
นอกจากนี้ตัวหนังก็ยังออกแบบให้ตัวสันติบาลและการกักกันโรคเป็นตัวร้ายแบบไม่น่าให้อภัย ทั้งที่มันเป็นเสมือนมาตรการที่ผู้คนทุกหมู่เหล่าควรทำตามโดยไม่มีข้อยกเว้น แต่ตัวหนังก็กำหนดความเข้มงวดของสันติบาลให้ดูชั่วร้ายแบบสุดลิ่มทิ่มประตูเกินไปหน่อย แถมหนังก็ดูเป็นตัวแทนของหนังที่รวบรวมคนแก่ตัวเอาไว้ แถมเส้นเรื่องส่วนมากก็ดูจะขาดซึ่งความรับผิดชอบต่อสังคมมากพอสมควร
สรุปแล้ว Songbird เป็นหนังระทึกขวัญที่หยิบเอาสถานการณ์โควิดปัจจุบันมาเติมแต่งให้คนดูได้อินมากขึ้น แต่หนังก็เล่าได้อย่างจืดชืด ผ่านบทที่เต็มไปด้วยช่องโหว่ ยัดเยียดความโรแมนติคจากความสัมพันธ์ของตัวละครที่เชื่อได้ยากและก็เต็มไปด้วยความฉาบฉวยที่ไร้ความรับผิดชอบต่อสังคม เฉกเช่นการกำหนดให้สันติบาลเป็นตัวร้ายแบบสุดลิ่มทิ่มประตู ทั้งที่พวกเราทุกคนควรต้องทำตามมาตรการที่รัฐกำหนดไว้โดยไม่มีข้อยกเว้น
อย่าลืมล้างมือนะครับทุกคน
2 / 5
Songbird (2020)
Directed by Adam Mason
Written by Adam Mason & Simon Boyes

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา