3 ก.พ. 2021 เวลา 07:53 • ไลฟ์สไตล์
ความหมายของการสวดมนต์ คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร?
การสวดมนต์ ถือเป็นกิจวัตรที่สำคัญของพุทธศาสนิกชน หรือชาวพุทธ อย่างน้อยชาวพุทธคงเคยสวดมนต์ คำบูชาพระบรมศาสดาว่า "นโม ตสฺสะ ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส" แปลโดยรวมว่า "ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น" สำหรับบทสวดมนต์ ในศาสนาพุทธนิกายเถรวาท นิยมใช้ภาษาบาลี ซึ่งหากแปลความหมายออกมาก็จะพบว่า ส่วนใหญ่แล้วเป็นคำสวดบูชาเพื่อรำลึกถึงพระคุณของพระรัตนตรัย อันได้แก่พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ แทบทั้งสิ้น จึงเป็นอุบายในการเจริญสติอย่างหนึ่ง ที่เรียก พุทธานุสติ ธรรมานุสติ และสังฆานุสติ
เครดิตภาพ: Pixabay
ความหมายของการสวดมนต์
การสวดมนต์ในพระพุทธศาสนามีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล เป็นการสวดในสิ่งที่พระพุทธเจ้าได้ทรงสอนไว้เพื่อไม่ให้ลืมในคำสอนนั้นๆ เพราะในครั้งพุทธกาลยังไม่มีพระไตรปิฏก จึงต้องใช้การท่องจำ หลังพุทธปรินิพพาน จึงมีการสังคายนาพระไตรปิฏกครั้งที่ 1 ก็ยังใช้การท่องจำสืบทอดต่อกันมา เรียกว่า "มุขปาฐะ"(หมายถึง การท่องด้วยปาก การกล่าวด้วยปาก การจดจำต่อเนื่องกันมาด้วยการสอนแบบปากต่อปาก) ดังนั้น จึงมีการคัดเอาคำสอนที่สำคัญมาสวดสาธยายกันอย่างเนืองนิตย์ คำสอนสำคัญเหล่านี้จึงกลายเป็นบทสวดมนต์ในที่สุด ในบางคราวพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอาพาธได้มีพระภิกษุมาสาธยายพุทธมนต์ให้พระพุทธองค์ฟัง เช่น บทโพชฌงค์ 7 ทำให้พระองค์อาการอาพาธทุเลาลง ฉะนั้นบทสวดมนต์จึงมีอานุภาพมาก นับแต่นั้นมาทั้งพระภิกษุและฆราวาสก็สวดมนต์เรื่อยมาเพื่อเป็นการทบทวนคำสอนของพระพุทธเจ้า
การสวดมนต์ไม่ใช่เป็นหน้าที่เฉพาะพระภิกษุเท่านั้น แต่เป็นหน้าที่ของชาวพุทธทุกคน รูปแบบการสวดมนต์ของชาวพุทธ เช่น ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น การอาราธนาศีล การถวายสังฆทาน การเจริญพระพุทธมนต์ เป็นต้น สำหรับบทสวดมนต์ที่นิยมและชาวพุทธควรสวดเป็นกิจวัตรประจำวัน เช่น พระคาถาชินบัญชร ซึ่งจะทำให้เกิดความเป็นสิริมงคล สมบูรณ์พูนผล ศัตรูหมู่มารไม่กล้ากร่ำกราย ไปทางใดเกิดเมตตามหานิยม เกิดลาภผลทวี ขจัดภัยจากภูตผีปีศาจ ตลอดจนคุณไสยต่างๆ เป็นมงคลชีวิต หรือ การสวดชัยมงคลคาถา หรือพาหุง นั้น เป็นบทสวดมนต์ที่มีค่าที่สุดของพระบรมศาสดา และเป็นชัยชนะที่พระพุทธองค์ได้มาด้วยอำนาจแห่งบารมีธรรมโดยแท้ ผู้ใดสวดเป็นประจำทุกเช้าค่ำ จะคุ้มครองตัวเองและครอบครัว ให้มีชัยชนะมีความรุ่งเรือง มีสติระลึกได้ เป็นต้น
สำหรับบทสวดมนต์ที่ช่วยขจัดปัดเป่าโรค เช่น บทธัมมจักกัปปวัตตนสูตร บทมงคลสูตร บทรัตนสูตร เป็นบทสวดมนต์ที่ก่อให้เกิดพลังใจในการต่อสู้ เพื่อชัยชนะต่ออุปสรรค ปัญหา และภัยทั้งปวง รวมถึงบทโพชฌังคปริตร หลักธรรมที่พระพุทธองค์ทรงแสดง เป็นธรรมคำสอนในการทำใจให้สว่าง สะอาดผ่องใส ซึ่งสามารถทำให้ช่วยรักษาใจ เพราะจิตใจมีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกับร่างกาย หากใจดี ร่างกายย่อมดีตามไปด้วย และโรคภัยไข้เจ็บก็จะไม่เบียดเบียน เห็นว่า การสวดมนต์มีอานิสงส์ หรือ ประโยชน์มากมาย ดังต่อไปนี้
อานิสงส์การสวดมนต์
ผู้ที่สวดมนต์ด้วยความตั้งใจจริงแล้ว ย่อมได้รับอานิสงส์ คือผลความดี มากมายดังต่อไปนี้
1. ทำให้สุขภาพดี การสวดมนต์ออกเสียง ช่วยให้ปอดได้ทำงาน เมื่อปอดทำงาน เลือดลมก็เดินสะดวก เมื่อเลือดลมเดินสะดวก ร่างกายก็สดชื่น กระปรี้กระเปร่า และกรฉับกระเฉง
2. คลายความเครียด ขณะสวดมนต์จิตจดจ่ออยู่กับบทสวด สมองไม่ได้คิดในเรื่องที่ทำให้เครียด จึงทำให้อารมณ์ผ่อนคลาย
3. เพิ่มพูนศรัทธาในพระรัตนตรัย บทสวดแต่ละบทเป็นการระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย เมื่อสวดบ่อย จิตก็จะยิ่งแนบแน่นอยู่กับพระรัตนตรัย
4. ขันติบารมีย่อมเพิ่มพูน ขณะสวดต้องใช้ความอดทนเพื่อเอาชนะอาการปวดเมื่อยที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ตลอดถึงอารมณ์ฝ่ายต่ำทั้งหลายมีความเกียจคร้าน เป็นต้น ยิ่งสวดบ่อย ความอดทนก็จะมีมากยิ่งขึ้น
5. จิตสงบตั้งมั่นเป็นสมาธิ ขณะสวดจิตจดจ่ออยู่กับบทสวด ไม่วอกแวกฟุ้งซ่านไปที่อื่น จึงทำให้จิตสงบและเกิดสมาธิมั่นคง
6. บุญบารมีเพิ่มพูน ในขณะสวดมนต์ จิตใจย่อมปราศจากกิเลส มีความโลภ ความโกรธ ความหลง เป็นต้น จึงได้ชื่อว่าเกิดบุญบารมี บุญบารมีนี้ เมื่อสั่งสมมากเข้าก็จะเป็นทุนสนับสนุนให้บรรลุผลตามที่เราต้องการ
7. จิตใจอ่อนโยนมีเมตตา การแผ่เมตตาหลังจากสวดมนต์ เป็นการส่งความปรารถนาดีไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลาย ลดละความเห็นแก่ตัว เป็นอุบายกำจัดความโกรธในใจให้เบาบางและลดน้อยลง ทำให้จิตใจปราศจากความโกรธ และพบแต่ความสุข
8. เกิดความเป็นสิริมงคล การสวดมนต์เป็นการทำความดีไปพร้อมกันทั้งทางกาย วาจา ใจ การทำดี พูดดี คิดดี ย่อมเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง
9. เทวดารักษา ผู้ที่ประกอบกรรมดี ทางกาย วาจา ใจ ย่อมเป็นที่รักของเหล่าเทวดา และการที่เราได้แผ่เมตตาให้แก่เทวดานั้น ก็ยิ่งจะเป็นที่รักของเทวดามากขึ้น
10. ปัญญาเกิด การสวดมนต์พร้อมคำแปล ทำให้ได้รู้และเข้าใจถึงความหมายของบทสวดนั้น
11. ผิวพรรณผ่องใสและมีเสน่ห์ การสวดมนต์ทำให้จิตใจของผู้สวดสดชื่นเบิกบาน จิตที่สดชื่นเบิกบานย่อมส่งผให้ผิวพรรณดี หน้าตายิ้มแย้ม แจ่มใส ทำให้ผู้ที่พบเห็นเกิดความรู้สึกเป็นมิตร รักใคร่เอ็นดู
12. ศัตรูกลายเป็นมิตร ผู้เป็นมิตรยิ่งรักใคร่
13. ทำให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง
14. ทำให้ดวงดี แก้ไขเคราะห์ร้าย ปัดเป่าเสนียด เพราะดวงชะตาของคนเราขึ้นอยู่กับการกระทำ ใครทำดี ดวงชะตาย่อมดี ใครทำชั่ว ดวงชะตาก็ตก การสวดมนต์เป็นการทำดีที่สามารถเปลี่ยนดวงชะตาให้ดีขึ้นได้
15. ครอบครัวและสังคมสงบสุข ที่พ่อบ้าน แม่บ้าน สวดมนต์อยู่เป็นประจำ และสอนให้บุตรหลานได้สวดมนต์ จะไม่มีการทะเลาะเบาะแว้ง และการที่จะไปสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่นก็ไม่มี มีแต่จะทำให้คนรอบข้างและสังคมอยู่เป็นสุข สงบ ร่มเย็น และยังเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ผู้อื่นอีกด้วย
จะเห็นได้ว่า การสวดมนต์มีประโยชน์และอานิสงส์มากมาย เมื่อทำเป็นกิจวัตรประจำวัน และต่อเนื่องทุกวัน วันนี้พวกเราสวดมนต์กันรึยัง
โฆษณา