วาละลุกัง สังวาตังวา •พระแก้วมรกตเวียงจันทน์ได้มาแต่ไหน?
วาละลุกัง สังวาตังวา เปนคาถาสรรเสริญบูชา คุณพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระแก้วมรกต ซึ่งแกะขึ้นจากศิลาเขียวขนาดใหญ่ที่ไร้มลทิน
เชียงราย-ลำปาง-เชียงใหม่-หลวงพระบาง-เวียงจันทน์-ธนบุรี-บางกอก
เส้นทางเดินทางของพระแก้วมรกตเปนไปดังผังที่ว่า กล่าวคือ หลังจากค้นพบที่สถูปเล็กเก่าในวัดป่าไผ่/ป่าเหี้ยะ เขตเชียงราย เจ้านายฝ่ายนั้นเกรงทัพเชียงใหม่บุกจะปล้นเอาไปเสีย จึงพอกปูนปิดบังแล้วอาราธนาใส่พระเจดีย์ไว้ที่วัดเดิม
ต่อมาเจ้าเชียงใหม่สามฝั่งแกนได้เมืองเชียงรายจากเจ้ามหาพรม เกิดเหตุฟ้าผ่าพระเจดีย์นั้นทลายลง ปูนพอกหลุดออกจากพระ เจ้าเชียงใหม่ดีใจนักแล้ว อาราธนาพระแก้วลงไปเชียงใหม่ ชั่วแต่พระคชาช้างแบกพระแก้วฯ นั้นถึงทางสามแพร่งไม่ยอมเลี้ยวไป หันจะไปแต่ทางเขลางค์นครลำปางท่าเดียว เปลี่ยนช้างก็แล้วหาได้ยอมไปทางเชียงใหม่ไม่
จึงประดิษฐานเสียที่ ดอนเต้า เมืองลำปางตามช้างรับสัญญาณเทวดารักษาพระเเก้วฯไม่อยากไปอยู่เชียงใหม่ด้วยลำปางนั้นเจ้าเชียงใหม่ได้เปนเมืองแก่ตัวเช่นกัน
ต่อมาหลายเพลา
พระเจ้าติโลกราชนั่งเมืองเชียงใหม่ ทรงเสี่ยงสัตยาธิษฐานพระบารมี หักเอาพระแก้วฯขึ้นเวียงเชียงใหม่ ปรากฏว่าสำเร็จ อาราธนาประดิษฐานเสียที่ซุ้มเจดีย์หลวงกลางเมือง
ครั้นหมดวงศ์พระเจ้าติโลกราช บัลลังก์เชียงใหม่ว่างผู้สืบสันตติวงศ์จำต้องสืบย้อนขึ้นไปหาหน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์ ได้พบเจ้าไชยเชษโฐ กรุงศรีสัตนาคนหุตล้านช้างร่มขาว สืบเชื้อเชียงใหม่แต่ทางพระมารดา ข้าเมืองพากันไปเชิญมาครองราชสมบัติ
เจ้าไชยฯนี้ยังเยาว์รุ่น ไม่นานนักพระราชบิดาเจ้ากรุงล้านช้าง สวรรคตกะทันหันจำต้องไปนั่งเมือง ได้ขอยืมพระแก้วฯไปบูชาสักการะยัง หลวงพระบางล้านช้างร่มขาว ประดิษฐานที่วัดวิชุนราช หมากโม หลวงพระบาง
ครั้นกรุงศรีอยุธยาจะเสียทีแก่ทัพตะเบงชเวตี้ เจ้าไชยฯปริวิตกนัก ย้ายเมืองหลวงข้ามเขาหนีศึกพม่าไปเวียงจันท์ ตั้งหอพระแก้วไว้ ณ ที่นั้น
คราวหมดวงศ์กรุงศรีอยุธยาด้วยพม่าหักเอาสำเร็จคำรบที่สอง ล้านช้างตั้งตนเปนอิสระจากทุกฝ่าย
สมเด็จพระบรมราชาที่๔ พระเจ้ากรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร กู้ชาติ ปราบกบฎเเข็งเมืองทุกทิศได้สำเร็จสำฤทธิ์ผล โปรดให้อาราธนาพระแก้วฯ ลงมากรุงธนบุรี ประดิษฐาน ณ วัดแจ้งอรุณราชวราราม
ครั้นเลิกกรุงธนบุรี สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ครองราชย์แล้วอาราธนาพระแก้วฯประดิษฐาน ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม มาจนบัดนี้
ต่อข้อถามเรื่องพระแก้วมีฐานเปนแท่งอัญมณียาวเสียบลงในฐานบุษบกนั้น เห็นทีจะไม่จริง ด้วยบุษบกฐานสูงนี้ เปนฐานรองพระโกศพระบรมศพสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่สามเพิ่งจะทรงนำมาถวายเปนพุทธบูชาเสริมฐานพระมหาปฏิมาเมื่อเสร็จการพระบรมศพนี้เอง
ภาพเครดิต
หากว่าจะตั้งแท่งฐานเพชรเขียวเสียบลงแต่แรกประดิษฐานสมัยรัชกาลที่ 1 ยังไม่มีบุษบกฐานสูงจะทำยังไง
ไหนจะเวลาหอบย้ายองค์พระท่านไปมาอีกด้วยเล่า กี่กรุงกี่นครเข้าไปแล้ว นี่ยังไม่นับคราวจอมพล ป. หอบหนีไปเพชรบูรณ์หนียี่ปุ่นนะ
ข้อเท็จจริงคือท่านมีฐานหินเพชรเขียวติดรองอยู่จริงๆ เพราะ แกะท่านออกมาจากเพชรเขียวมรกตดิบนั้นจริงๆจึงเหลือฐานไว้ให้รู้ว่าท่านมาจากก้อนอัญมณีขนาดใหญ่เพียงไหน ส่วนฐานนั้นมีความยาวเพียง 29 ซม. เท่านั้นเอง
อย่าได้ไปมโนตามรูปกราฟฟิกคอมพิวเตอร์ เปนมโนกรรมมัง คนเขียนตามโปรแกรมเขาได้เคยไปรู้เห็นการบูรณะใหญ่หลังสองร้อยปีรัตนโกสินทร์ในวังหลวงกับเขาไหมเล่า
ส่วนที่ส่งรูปกันมาให้ไหว้บูชาทรงเครื่องต่างๆนั้น จะสังเกตว่าไม่มีตา_พระเนตร เพราะว่าเปนหุ่น _หุ่นรูปพระแก้ว กรมธนารักษ์เขาทำจำลองไว้ลองเครื่องทรงชุดใหม่ที่จัดสร้างแทนของเก่าชำรุดต่างหาก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
