5 ก.พ. 2021 เวลา 11:46 • การศึกษา
•ปัญหาการกรวดน้ำ•
วัฒนธรรมการกรวดน้ำของคนไทยเวลาทำบุญทำทานนั้น ได้อนุวรรตเอามาจากตำนานชาดกพุทธประวัติ
ว่าครั้งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสวยพระชาติต่างๆมาโดยเฉพาะกรณีพระเวสสันดร เมื่อได้ส่งมอบทานให้กับผู้ใดแล้วไม่ว่าจะเป็นช้างปัจจัยนาเคนทร์หรือบุตรธิดากัณหาชาลีก็จะทรงกรวดน้ำ(หยาดน้ำ) เป็นสัญลักษณ์ที่หมายของการให้ว่าการนั้นเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว
คำถามมีว่าการกรวดน้ำนั้นได้กรวดลงไปที่ใด_ก็คือกรวดลงไปที่บนแผ่นดิน
อันว่าแผ่นดินนั้นการบุคคลาธิษฐานได้กำหนดไว้ให้เป็นคนมีชื่อว่าแม่พระธรณี
ดังนั้นเมื่อพระเวสสันดรได้เสวยชาติเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พญาสวัตดีมาร ได้พบเห็นพระองค์ท่านทรงตรัสรู้ประทับอยู่บนพุทธะบัลลังก์
ได้ร้องท้าทายว่าบัลลังก์นั้นหาใช่ของพระพุทธองค์ไม่ เรียกร้องให้ลุกออกจากบัลลังก์นั้นแล้วตัวเองจะเข้าไปนั่ง
พระพุทธองค์ได้ทำการพิสูจน์ว่าพุทธะบัลลังก์นั้นเป็นของพระองค์เอง อันเกิดจากการบำเพ็ญบารมีในกรณีต่างๆครบถ้วนสามสิบประการมาเป็นระยะเวลายาวนานหลายภพชาติ
พญามารนั้นไม่เชื่อ
พระพุทธองค์ว่ายังมีผู้หนึ่งซึ่งเป็นพยานหลักฐานการบำเพ็ญของข้าพเจ้า
ท่านผู้นั้นคือแม่พระธรณี
เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าข้าพเจ้าได้พูดความจริง อย่างน้อยกุศลกรรมฝ่ายทานบารมีที่ข้าพเจ้าได้ทำทุกครั้งไปข้าพเจ้าได้กรวดน้ำฝากไว้แต่แม่พระธรณีเป็นสักขีพยาน
ก็ขอเชิญแม่พระธรณีได้ออกมาอธิบายให้กับพญามารได้ฟัง จึงทรงใช้พระหัตถ์ข้างหนึ่งละจากการนั่งสมาธิเอาวางไว้ที่หัวเข่าพระชงฆ์แล้วเอานิ้วชี้จิ้มลงไปบนแผ่นดิน เปนพุทธกิริยาเรียกเชิญแม่พระธรณีขึ้นมา
แม่พระธรณีได้ขึ้นมาแล้วทำการบีบมวยผม เนื่องจากว่าหยาดน้ำที่พระพุทธองค์ได้ทรงกรวดทิ้งไว้ซึมซับอยู่บนผมของคุณแม่พระธรณีทั้งสิ้น(ดิน-earth)
การบีบมวยผมในครั้งนั้นส่งผลให้มีน้ำจำนวนมากมายหลั่งไหลมาท่วมกองทัพพญามารจมลงหมด
เป็นที่มาของพระพุทธรูปที่เรียกกันว่าปางมารวิชัย คือชนะมารด้วยการเอานิ้วจิ้มลงไปที่แผ่นดิน
ไกอา
คนไทยหวาดกลัวมาก ว่าทำกุศลแล้วจะไม่สำเร็จไม่มีใครช่วยบันทึกไว้จึงได้ทำตามคตินี้มาเป็นเวลายาวนานกรวดน้ำเสมอไปหลังทำบุญฯ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา