6 ก.พ. 2021 เวลา 05:53 • นิยาย เรื่องสั้น
(1) Day0 🛫TG 642
💺
เสียงจ้อกแจ้กและกลิ่นอาหารที่ลอยฟุ้งภายในห้องโดยสารทำให้ชายหนุ่มขยับตัวลุกนั่ง เขาเผลองีบหลับไปตั้งแต่เครื่องเหินฟ้าขึ้นจากสุวรรณภูมิ เป็นโชคดีหรือการปรับตัวก็ไม่รู้ได้ที่ทำให้เขาสามารถหลับทุกที่ เสียงจ้อกแจ้กนั่นไม่ได้ปลุกเขาแน่
กลิ่นอาหารต่างหาก
มื้อล่าสุดเมื่อไหร่แล้วนะ เขาคิด น่าจะเป็นตอนเที่ยงวันระหว่าง conference แต่ตอนนี้เลยเที่ยงคืนมาพักใหญ่แล้ว ดีเหมือนกัน กินเสร็จจะได้รีบนอนต่อ กินซัก 10 นาทีเหมือนมื้อเที่ยงก็คงพอ ง่วงเต็มที
เที่ยวบินญี่ปุ่นไฟลท์นี้เหมือนที่มีคนเล่า ขึ้นมาก็ให้กิน ก่อนปล่อยลงไปก็ให้กินอีกที ซึ่งก็ดีเหมือนกัน ชีวิต 4 ปีมานี้ แทบจะไม่มีโอกาสนั่งๆนอนๆ รอกินมื้อถัดไปแบบนี้เลย
ชายหนุ่มพึมพำขอบคุณขณะเอื้อมมือไปรับถาดอาหารก่อนเอี้ยวหน้าไปทางขวา ผู้โดยสารคนที่อยู่ริมหน้าต่างยังไม่ขยับ
อ้อ ผู้หญิง
เขานึกออกแล้ว ผู้หญิงคนนี้ขึ้นมาแล้วก็เหม่อออกไปนอกหน้าต่างตลอดเวลา ส่วนเขาได้ที่นั่งแล้วก็หลับ
มีที่นั่งว่างตรงกลางระหว่างเขาและผู้หญิงรูปร่างเล็ก ผมสีน้ำตาลเข้มปล่อยลงบังซีกหน้าด้านซ้าย มีเพียงจมูกโด่งออกมาให้เห็น ศีรษะสวยได้รูปพิงหลับกับพนักด้านหลังกึ่งอิงผนังด้านข้างของเครื่องบิน
“วางไว้ซักเมนูก่อนไหมครับ เผื่อเขาตื่น”
แอร์โฮสเตสในชุดสีม่วงเดินเลยไปแถวหลังแล้วตอนที่เจ้าของถาดเริ่มขยับตัว เสี้ยวหน้าซีกขวาหันออกมาให้เห็นมากขึ้น คิ้วเรียงเป็นแนวโค้งนั้นขมวดนิดๆจนเกิดรอยตรงหว่างคิ้ว ขนตายาวยังคงปิด แต่เปลือกตาดูหนาแปลก เหมือนที่ไม่ควรจะหนาแบบนั้น หรือตาบวม
“คุณครับ “
เรียกด้วยเสียงเบา ก่อนซ้ำ
ร่างโปร่งบางขยับ ตาขยับเปิด นัยน์ตาบอกความงุนงงชั่วอึดใจ
ตาบวมจริงๆด้วย ที่จริงต้องเรียกว่าบวมแดง
ชายหนุ่มขยับถาดอาหารไปทางนั้นแล้วไม่ใส่ใจต่อ ก้มหน้าก้มตาอยู่กับถาดของตัวเอง ทำเวลาอย่างที่ตั้งใจ
กินเสร็จถึงได้เห็นว่าถาดอาหารไม่ขยับออกจากโต๊ะหน้าที่นั่งตัวที่ว่าง เจ้าของกำลังนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง นิ้วมือขวาที่ยื่นออกไปวาดๆอะไรบนหน้าต่างอย่างใจลอย
ปรับพนักเก้าอี้แล้วเขาก็หลับตา เขานอนไม่พอมาหลายคืน
เขาหลับสนิทจนกระทั่งได้ยินเสียงเบาๆเหมือนใครสักคนกำลังทำเสียงแปลกๆคล้ายเสียงคราง
หันไปดูที่มาของเสียง เจ้าของร่างเล็กกำลังเอามือกุมท้อง ขาสองข้างขดอยู่บนเก้าอี้ ใบหน้ากดต่ำลงซุกเข่า
ชายหนุ่มหันรีหันขวาง ห้องโดยสารปิดไฟเงียบสนิท น่าจะหลังมื้ออาหารมาร่วมชั่วโมงหรือมากกว่า ผู้โดยสารส่วนใหญ่หลับอยู่ที่ที่นั่งของตัวเอง
หรือเขาจะกดเรียกแอร์โฮสเตส
เสียงครางแผ่วๆดังเบาๆ เขาชะโงกตัวไปใกล้
“คุณๆ ปวดท้องหรือเป็นอะไร ให้ผมตามแอร์ไหม”
อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมาแต่เพียงนิดเดียว ส่ายหน้านิดเดียวอีกเช่นกัน
ชายหนุ่มมองนิ่งอยู่ มือยังกุมท้อง แม้หน้าจะบอกว่าไม่ต้องตาม แต่เหงื่อเม็ดเล็กๆที่ผุดเต็มหน้าฝากนั่น บอกว่าเจ้าตัวกำลังปวดไม่น้อย
นี่กี่โมงแล้ว เจ้าหล่อนปวดมานานแค่ไหน เป็นไส้ติ่งได้ไหม ถ้าเป็นไส้ติ่งจะทำไง อีกกี่ชั่วโมงถึงจะได้ไปโรงพยาบาล แล้ว...
ไม่ได้การละ
ถามออกไปอย่างออมเสียง
“คุณๆ ปวดขวาล่างไหม ปวดตื้อๆตรงใต้ยอดอกมาก่อนหน้านี้กี่ชั่วโมงแล้ว “
อีกฝ่ายตอบเบาจนเขาขยับตัวเข้าไปฟัง
“ไม่แน่ใจ น่าจะชั่วโมงกว่าๆมั้ง “
เจ้าตัวเปลี่ยนท่าเอาขาลง มือสองยังคงกดหน้าท้องเอาไว้ “ไม่เคยปวดแบบนี้เลย”
อาการกัดฟันแน่นทำให้เขาไม่สบายใจ และยิ่งคิดหนัก
เขายกที่พักแขนทางขวาขึ้นจะได้ไม่เกะกะ เลื่อนตัวไปนั่งเก้าอี้ตัวกลาง ทำเสียงเบาๆ
“ไม่ได้ปวดทะลุไปข้างหลังฝั่งซ้ายหรือขวาใช่ไหม ปัสสาวะดีไหม ฉี่แสบขัดหรือเปล่า”
พูดไม่พูดเปล่า มือถึงตัว พยายามแงะนิ้วเล็ก ก่อนจะพยายามกดลงไปอย่างเบามือ
อาการเบามือของเขา ถูกตอบโต้อย่างตกใจ มือเล็กผลักมือใหญ่ออก ขาสองข้างถูกดึงขึ้นมาอยู่ในท่าเข่าชิดอกก่อนกอดไว้แน่น
“คนโรคจิต!”
1

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา