6 ก.พ. 2021 เวลา 10:34 • นิยาย เรื่องสั้น
(4) Day1 : Narita Airport
เธอชื่อเอพริล
ธันว์คิดขณะกระชับเสื้อแจ็คเก็ตบนตัว รูดซิปขึ้นมาถึงคอแล้วปิดกระดุมซ้ำ แม้จะมีเครื่องทำความร้อนแต่สนามบินที่กว้างใหญ่นี้ ก็ยังแพ้อุณหภูมิต้นเดือนธันวาคม
ผู้โดยสารเดินลงจากเครื่องก่อนแยกย้ายแวะเข้าห้องน้ำ เขาและเอพริลก็เดินตามกันมาในตอนแรก แต่ในที่สุดเขาก็ไม่เห็นเธออีก
ตม.ที่คนเข้าเมืองจำนวนมหาศาลกับพนักงานสูงอายุดูจะเป็นภาพขัดแย้ง เขากลัวพนักงานที่สูงวัยเหล่านั้นจะเวียนหัว แต่ญี่ปุ่นก็เก่ง จัดให้ยืนเป็นแถวๆในแนวของตู้อัตโนมัติ ถ้าตู้มีปัญหาถึงจะไปต่อที่พนักงานตัวจริง
การยืนดูคนสูงวัยมายืนบริการผู้เดินทางเข้าประเทศแบบนี้นั้น เขายากจะทำใจ คิดไปถึงสังคมสูงอายุของประเทศไทยในวันหน้า
ถูกต้อนไปอีกแถว ทำให้ทันเห็นหลังเอพริลที่กำลังจะเสร็จขั้นตอนเข้าเมือง
เอพริลว่าจะไปคันไซ แล้วเขาจะไปไหนดี
แล้วนี่เขามาทำไมก็ไม่รู้
เพื่อมาดูให้ชัด ขอความจริงให้ชัวร์ หรือแค่เพราะไหนๆก็จองตั๋วไว้แล้ว
 
กว่าจะหลุดจาก ตม. กินเวลานาน รายข้างหน้ามีปัญหาอะไรซักอย่าง เมื่อเดินถึงสายพานรับกระเป๋าก็พบว่าเหลือไม่กี่ใบ และไม่เห็นเอพริล
เขายักไหล่ น่าจะบอกลากันเสียซักหน่อย ถึงเป็นแค่คนเดินสวนทางกันของชีวิต ก็ยังนับได้ว่ามีไมตรี
เขานึกขำ มีไมตรี และถูกตวาดแหวว่าโรคจิต
 
เขาคว้ากระเป๋าใบเก่าออกจากสายพาน เจ้ากรรมเสื้อผ้าประดามีหล่นพรวดออกมากระจายบนพื้น ซิปมีปัญหามาตั้งแต่เขารื้อออกมาจากตู้
กระเป๋าลากใบเก่งใบเดียวใบนี้เขาใช้มาตั้งแต่เดินทางไปเป็นนักศึกษาแพทย์ปี 1 โน่นแน่ะ จะไม่พังอย่างไรไหว
https://www.metmuseum.org/art/collection/search/55433
เอาวะ ค่อยหาใหม่
เขาคิดแล้วหอบทั้งของทั้งกระเป๋าเดินหาที่นั่ง เริ่มพับซ้อนเสื้อผ้า เก็บของใช้
ตอนนั้นเองที่มีเงาคนมายืนใกล้
“กระเป๋าแตก !”
สาวเมษาที่เขามองหานี่เอง
เขาไม่ตอบ พับผ้าของเขาต่อ ก็เห็นๆอยู่
เอพริลยังไม่ขยับ
ก็จะไปไหนได้เล่า เธอคิด
เมื่อคืนเขามีน้ำใจ วันนี้เมื่อเขาเดือดร้อนก็คงต้องช่วยกันก่อน
“มีร้านขายกระเป๋าที่ใกล้ทางออก ไปซื้อกันค่ะ”
พลางดึงถุงเล็กใกล้มือไปช่วยถือ
ธันว์เพิ่งเห็นถนัดตาเมื่อเดินตามหลัง เอพริลเปลี่ยนจากคาร์ดิแกนเป็นแจ็คเก็ตสีชมพูยาวคลุมสะโพก บนหลังสะพายเป้สีเทาคาดแถบสีส้ม รับกันกับรองเท้าผ้าใบที่มีพื้นรองเท้าสีส้มสด มองจากด้านหลังเห็นร่างเล็กแขนขาเล็กแต่ดูมีกล้ามเนื้ออย่างคนออกกำลังกาย
1
คนข้างหน้าคงรู้ตัว หมุนกลับมามอง
อ้อ เป้แบบนี้ต้องหมุน เอี้ยวหน้ามองหลังไม่เห็น
“ซื้อเป้ดีกว่าค่ะ” เหมือนเดาความคิดของเขาได้
“ใช้ได้นาน สะดวก ลุยได้ทุกที่” เสียงมั่นใจผิดจากสาวบนเครื่อง ธันว์เหลือบดู คงจะจริง เป้แถบส้มเริ่มมีร่องรอย ตะเข็บเริ่มรุ่ย
เอพริลมองตามสายตา
“ใบนี้ใช้มาหลายปีแล้วค่ะ ซื้อมาตอนเข้ามหาลัยปี 1 ไปได้ทุกค่าย” เธอว่า
“ของผมก็ปี 1 แต่ไม่ได้ไปไหนเลย นอนนิ่งอยู่ในตู้” เหลือบมองกระเป๋าในอ้อมแขน
“และแตกแล้ว” ทำหน้าเมื่อยประกอบ
 
ถึงหน้าร้านที่ไม่ใหญ่นักแต่คนแน่น คงเป็นกระเป๋ามียี่ห้อที่คนนิยม เขาแทรกคนตามหลังเอพริลไปยังจุดที่ขายเป้ วางกระเป๋าที่อุ้มอยู่ ลงข้างๆเป้แถบส้ม
1
ไม่มีพนักงานมาช่วยดู แต่เอพริลไม่ได้กังวล เธอคว้าใบหนึ่งมา
“ขนาดนี้กำลังดีค่ะ ไปไหน 5-7 วันใช้ได้พอดี ไม่เล็กเกินไป และรูปร่างสูงแบบคุณก็พอดี”
เธอเริ่มเปิดข้างในหยิบวัสดุที่ช่วยให้กระเป๋าอยู่ทรงออกมาทิ้งแถวนั้น
“ข้างในมีช่องใส่เยอะ จัดหมวดหมู่ได้สะดวก หยิบออกมาใช้ได้ง่าย” เธอชี้ช่องด้านในให้ดูอย่างคล่องแคล่ว
“ซิปคู่ รูดเข้าหากันไว้คล้องกุญแจล็อค อันนี้สำคัญค่ะ ต้องล็อคได้ และถ้าซิปอันใดอันหนึ่งเสีย ก็สามารถใช้อีกอันรูดปิดกระเป๋าได้”
เขาพยักหน้าหงึกๆ เอามือข้างหนึ่งนวดแขนอีกข้าง เดินมาไกลอยู่นะกว่าจะถึงตรงนี้
“น้ำหนักต้องเบา วัสดุเลยต้องดี” เอพริลพูดต่อ
มีเสียงพึมพำเบาๆจากคนต้องการซื้อ “เลยต้องแพง”
เขากำลังพลิกดูป้ายราคา
เอพริลไม่ต่อคำ แต่ลองเขย่าๆชั่งน้ำหนักในมือ
“น้ำหนักที่ดีไม่ควรเกิน 1 กิโลกรัมค่ะ รุ่นนี้ผ่าน” แล้วหมุนเป้ไปดูด้านหลัง
“มีช่องระบายอากาศด้านหลัง เวลาสะพายนานๆจะได้ไม่เปียกเหงื่อและอับชื้น นี่มีตะแกรงกั้นระหว่างแผ่นหลังกับตัวเป้ โอเคเลย”
ดูเหมือนจะพูดกับตัวเอง เพราะพยักหน้าหงึกๆไปด้วย
ชายหนุ่มพยักหน้าตามแล้วอมยิ้ม
“สายรัดเอว อก พร้อม ดีค่ะ ช่วยให้เป้กระชับกับร่างกายเรา ทำให้ทิ้งน้ำหนักได้ถูกต้อง สะพายแล้วไม่เมื่อย จุดนี้ทุ่นแรงมาก”
ธันว์แทบปรบมือตบท้ายประโยค
เออนะ นี่คนเดียวกับผู้หญิงสวยเศร้าเมื่อคืนหรือเปล่า
เขายืนเอนน้ำหนักลงที่เท้าข้างหนึ่ง มือซ้ายกอดอก มือขวาลูบคาง แกล้งทำเป็นใช้ความคิด แล้วมือขวาก็ยื่นออกมาทำท่าบิงโก
“คุณเป็นพนักงานร้านขายเป้ แน่นอน!”
✨✨✨✨✨✨✨✨✨
ขอบคุณรูปประกอบและขอแนะนำคุณเอพริลแห่งเพจ ‘ไม่ใช่สิ่งนี้หรอกหรือความสวยงามของชีวิต’กับโพสต์เรื่องเป้ของเธอ 😘
ตอนก่อนหน้า (3) 😘😘

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา