11 ก.พ. 2021 เวลา 09:03 • ประวัติศาสตร์
นักรบข้าวหนึ่งถุง - MY LORD BAG OF RICE
สวัสดีครับทุกคน ผมมีโอกาสได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า Japanese Fairy Tales .
เป็นหนังสือเกี่ยวกับตำนานเทพนิยายของญี่ปุ่น
ในเล่มนี้รวมตำนานต่างๆไว้เยอะมากกกก และผมเห็นว่ามันน่าสนใจดี เลยอยากจะหยิบมาให้เพื่อนๆได้อ่านกันครับ
โดยในเรื่องแรกที่จะเขียนมีชื่อเรื่องว่า
: นักรบข้าวหนึ่งถุง - MY LORD BAG OF RICE
เชิญอ่านกันได้ตามอัธยาศัยครับ
1.
เมื่อนานมาแล้วที่ญี่ปุ่น มีนักรบผู้กล้านามว่า ทาวานะ โทดะ หรือ "นักรบข้าวหนึ่งถุง" แต่ก่อนที่เขาจะใช้ชื่อนี้ เขามีชื่อเดิมว่า ฟูจิวาระ ฮิเดะซาโตะ อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เขาถูกเรียกว่า นักรบข้าวหนึ่งถุง ไปติดตามกันครับ
วันหนึ่งขณะที่ ฮิเดะซาโตะ กำลังเดินทางผจญภัยตามสไตล์นักรบผู้กล้าอยู่นั้น เขาได้เดินไปถึงสะพาน เซตะโนคาราชิ ซึ่งทอดผ่านปลายด้านหนึ่งของทะเลสาบบิวะอันงดงาม
ทันทีที่ก้าวเท้าลงสะพานเขาก็มองเห็นพญามังกรตัวใหญ่นอนขวางทางข้ามสะพานไว้ ดูเหมือนว่ามันกำลังหลับอยู่ และเมื่อมันหายใจไฟและควันก็ออกมาจากรูจมูก
ด้วยความที่ ฮิเดะซาโตะ เป็นคนกล้าจึงไม่หันหลังกลับไปและเลือกที่จะเดินก้าวไปข้างหน้า กรุบ กรุบ ! เขาเหยียบบนร่างของมังกร แต่เขาก็เดินต่อไปโดยไม่หันกลับมามองแม้ครั้งเดียว
ภาพจากหนังสือ Japanese Fairy Tales
2.
เขาเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ได้ยินเสียงจากด้านหลัง พอหันกลับไปมองก็รู้สึกประหลาดใจมาก เพราะมังกรได้หายไปแล้ว
แต่มีชายแปลกประหลาดยืนอยู่แทน ซึ่งเขากำลังโค้งคำนับอย่างเป็นพิธีการจนถึงพื้น
ผมสีแดงยาวปรกไหล่และมีมงกุฎรูปหัวมังกรสวมอยู่บนหัว ชุดสีเขียวน้ำทะเลของเขาประดับเป็นลวดลายด้วยเปลือกหอย
ฮิเดะซาโตะ รู้ทันทีว่าเขาไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาแน่ๆ และเขาก็ได้เดินไปหาชายที่อยู่บนสะพานและพูดขึ้นว่า
ฮิเดะซาโตะ : ท่านคือคนที่เรียกว่าใช่หรือไม่ ?
มังกร : ใช่ ข้าเป็นคนเรียกท่านเอง ข้ามีเรื่องสำคัญจะขอร้องท่าน ท่านคิดว่าท่านจะสามารถช่วยข้าได้หรือไม่ ?
ฮิเดะซาโตะ : ถ้าสามารถทำได้ข้าก็จะช่วย แต่ก่อนอื่นท่านต้องบอกข้าก่อนว่าท่านเป็นใคร ?
มังกร : ข้าคือราชามังกร แห่งทะเลสาบนี้ และบ้านของข้าก็อยู่ในน่านน้ำใต้สะพานนี้
ฮิเดะซาโตะ : แล้วท่านต้องการให้ข้าช่วยอะไรเล่า ?
มังกร : ข้าต้องการให้ท่านฆ่าตะขาบผู้เป็นศัตรู มันอาศัยอยู่บนภูเขาซึ่งไกลออกไป /พร้อมกับชี้ไปยังยอดเขาฝั่งตรงข้ามกับทะเลสาบ
.
ข้าอาศัยอยู่ในทะเลสาบนี้มาหลายปี และข้ามีครอบครัวใหญ่ที่ประกอบด้วยลูกหลาน เพราะปีศาจตะขาบหาบ้านเราเจอ คืนแล้วคืนเล่ามันก็เข้ามาลักพาตัวคนในครอบครัวไปทีละคน
.
ข้าไม่สามารถช่วยพวกเขาได้ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป แม้แต่ตัวข้าก็คงจะไม่รอดแน่ๆ
.
ในที่สุดข้าก็ตั้งใจมาขอความช่วยเหลือจากมนุษย์ ด้วยความตั้งใจนี้ข้าได้รอคอยเป็นเวลาหลายวัน ในร่างของพญามังกรที่ท่านได้เห็น
.
โดยหวังว่าผู้กล้าหาญสักคนจะเดินผ่านมา แต่ทุกคนที่ผ่านมาเห็นข้าต่างวิ่งหนีข้า ท่านคือคนแรกที่สามารถเดินผ่านข้าได้โดยไม่กลัว ข้ารู้เลยว่าท่านเป็นคนที่กล้าหาญมาก
.
ข้าขอให้ท่านเห็นใจข้า ให้ช่วยฆ่าตะขาบผู้เป็นศัตรูได้หรือไม่ ?
3.
ฮิเดะซาโตะได้ยินแบบนี้จึงรับปากช่วยเหลือทันที
และราชามังกรจึงพา ฮิเดะซาโตะ ไปที่วังใต้ทะเลสาบ เมื่อถึงวังมังกร ฮิเดะซาโตะ ถึงกับร้องโอ้วววววววววว ! เพราะเขาไม่เคยเห็นอะไรที่สวยงามขนาดนี้มาก่อน และทั้งยังมี ปลาทอง ปลาคาร์ปสีแดง และปลาเทราต์สีเงินอันสวยงามรอต้อนรับราชามังกรและแขกของเขาอยู่
ฮิเดะซาโตะ ตื่นตาตื่นใจกับอาหารสำหรับงานเฉลิมฉลองที่วางอยู่ตรงหน้าเขา จานชามทำจากใบบัวและดอกบัวที่ตกผลึกเป็นคริสตัลและตะเกียบทำจากไม้มะเกลือที่หายากที่สุด
ทันทีที่พวกเขานั่งลงประตูบานเลื่อนก็เปิดออก ปลาทองนักเต้นรำที่น่ารักสิบตัวออกมาและปลาคาร์ปสีแดงสิบตัวที่เป็นนักดนตรีก็ออกมาพร้อมกับโกโตะและซามิเซ็น จนเวลาร่วงเลยผ่านไปถึงเที่ยงคืน
ทันใดนั้นพระราชวังก็สั่นไปด้วยเสียงดัง ตึง ตึง ! ราวกับมีกองทัพอันยิ่งใหญ่กำลังเดินเท้าอยู่ไม่ไกล ฮิเดะซาโตะและเจ้าบ้านรีบวิ่งไปที่ระเบียง ทันใดนั้นเองเขาก็ได้เห็น ลูกบอลเพลิงขนาดใหญ่สองลูกบนภูเขาฝั่งตรงข้ามกำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เมื่อฮิเดะซาโตะจ้องมองอย่างละเอียดแล้วเขาก็พบว่าลูกบอลเพลิงสองลูกนั้นก็คือ ดวงตาของตะขาบนั้นเอง ราชามังกรยืนอยู่ข้างนักรบพร้อมกับตัวสั่นไปด้วยความกลัว
ในแสงสลัวของแสงดาวยามค่ำ ข้างหลังลูกไฟสองลูก เขามองเห็นลำตัวยาวของตะขาบยักษ์คดเคี้ยวอยู่รอบภูเขา แสงไฟในเท้านับร้อยของมันส่องประกายราวกับตะเกียงจำนวนมากที่อยู่ห่างไกลกำลังเคลื่อนที่ช้าๆเข้าหาฝั่ง
"จงอย่ากลัว ข้าฆ่าตะขาบได้แน่ ! เอาคันธนูและลูกธนูมาให้กับข้า" ฮิเดะซาโตะพูดกับราชามังกร
4.
ฮิเดะซาโตะสังเกตเห็นว่าในกระบอกใส่ลูกธนูนั้นมีลูกธนูเพียงสามดอกเท่านั้น (เป็นผมนี่ท้อแท้แล้วอ่ะ) เขาหยิบคันธนูขึ้นมา วางลูกธนูให้ตรงกับรอยบาก เล็งอย่างถี่ถ้วนและปล่อยมันออกไป
ลูกธนูพุ่งตรงไปยังกลางศรีษะของตะขาบยักษ์ แต่ดันเจาะไม่เข้าและเด้งออกมาอย่างไม่เป็นอันตรายและตกลงบนพื้น
ฮิเดะซาโตะหยิบลูกธนูอีกดอกขึ้นมาอย่างไม่หวาดหวั่นและเล็งไปยังจุดเดิมเป้ะๆ ลูกธนูพุ่งตรงเป้าอีกครั้งและก็กระเด้งออกมาเหมือนดอกแรกเป้ะๆ
เมื่อราชามังกรเห็นแบบนั้นเขาก็เริ่มสิ้นหวังและเริ่มสั่นไปด้วยความกลัว
ฮิเดะซาโตะเห็นว่าตอนนี้เขาเหลือลูกธนูเพียงดอกเดียว ถ้าคราวนี้พลาดอีกก็จะไม่สามารถฆ่าตะขาบยักษ์ได้ เขามองไปที่ผืนน้ำและก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้
เขาเคยได้ยินว่าน้ำลายมนุษย์เป็นอันตรายต่อตะขาบ (แต่นี่มันตะขาบยักษ์นะ) ฮิเดะซาโตะ ตัดสินใจใช้โอกาสสุดท้ายที่เขามีโดยการเอาลูกธนูดอกสุดท้ายมาอมปลายของมันไว้ในปาก แล้ววางมันให้ตรงกับรอยบากบนคันธนูเล็งเป้าหมายอย่างถี่ถ้วนและปล่อยมันออกไป
รูปจากหนังสือ Japanese Fairy Tales
ลูกธนูพุ่งตรงไปกลางศรีษะของตะขาบยักษ์อีกครั้งและมันแทงเข้าไปในสมองของตะขาบยักษ์ จากนั้นมันก็ชักกระตุกไปทั้งตัว ร่างอันคดเคี้ยวก็หยุดนิ่ง แสงไฟของดวงตาอันใหญ่โตและเท้าร้อยเท้าก็มอดลง และกลายเป็นความืดในที่สุด
5.
เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้นอย่างงดงามและสดใส ตะขาบหายไปจากภูเขาแล้ว ความรู้สึกของราชามังกรท่วมท้นไร้ขอบเขต ทุกคนในครอบครัวออกมาโค้งคำนับต่อหน้า ฮิเดะซาโตะ พร้อมเรียกเขาว่าผู้ปกปักรักษาและนักรบที่กล้าหาที่สุดในญี่ปุ่น
อาหารสำหรับเฉลิมฉลองได้ถูกจัดขึ้นอีกครั้ง และเจ้าบ้านพยายามเกลี้ยกล่อมให้นักรบอยู่ต่ออีกสองสามวัน แต่ฮิเดะซาโตะ ยืนยันจะกลับบ้านเพราะเขาทำสิ่งที่ต้องทำลุล่วงแล้ว
ราชามังกรจึงมอบของขวัญเล็กๆน้อยๆเพื่อแสดงความขอบคุณแก่ฮิเดะซาโตะ
ขณะที่ฮิเดะซาโตะยืนอยู่บนลานหน้าพระราชวังพร้อมจะออกเดินทาง ขบวนปลาก็กลายร่างเป็นกลุ่มคนติดตามที่สวมเสื้อคลุมประกอบพิธีและสวมมงกุฎมังกรบนศรีษะ และของขวัญที่ได้มาก็มีดังนี้
-ระฆังทองสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่หนึ่งใบ
-ข้าวสารหนึ่งถุง
-ผ้าไหมหนึ่งม้วน
-หม้อปรุงอาหารหนึ่งใบ
-ระฆังหนึ่งใบ
ราชามังกรออกไปส่งนักรบถึงสะพานและบอกลาเขาพร้อมโค้งคำนับหลายครั้งก่อนจะกล่าวคำอวยพรมากมาย ก่อนปล่อยให้ขบวนคนรับใช้ไปส่งฮิเดะซาโตะถึงบ้าน
6.
ครอบครัวและคนรับใช้ของฮิเดะซาโตะเป็นกังวลมากเมื่อพบว่าคืนก่อนเขาไม่กลับบ้าน เมื่อคนรับใช้ที่เฝ้ารอการกลับมาของเขามองเห็นพวกฮิเดะซาโตะกำลังเดินกลับมา ทุกคนในบ้านจึงรีบออกมาต้อนรับเขา โดยสงสัยว่าขบวนผู้ติดตามที่ถือของขวัญและธงตามมานั้นหมายความว่าอย่างไร
ภาพจากหนังสือ Japanese Fairy Tales
ทันทีที่ผู้ติดตามของราชามังกรวางของขวัญลง พวกเขาก็หายไปและฮิเดะซาโตะก็เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นให้ทุกคนฟัง
ของขวัญที่เขาได้จากราชามังกรล้วนมีพลังวิเศษทั้งสิ้น มีแค่ระฆังเท่านั้นที่เป็นระฆังธรรมดา เขาจึงมอบระฆังใบนั้นให้กับวัดใกล้ๆ
ส่วนข้าวหนึ่งถุงนั้น แม้ทุกวันขะถูกตักออกเพื่อเป็นอาหารแก่นักรบและครอบรัว แต่มันไม่เคยลดลงเลย (ข้าวที่อยู่ในถุงจะไม่มีวันหมด)
ม้วนผ้าไหมก็เช่นกัน มันไม่เคยสั้นลงเลยแม้จะถูกตัดออกสำหรับทำเสื้อชุดไหมให้แก่นักรบ
หม้อปรุงอาหารก็มีพลังวิเศษ ไม่ว่าจะใส่อะไรลงไปมันก็ทำอาหารได้อร่อยทุกอย่างโดยไม่จำเป็นต้องใช้เชื้อเพลิงด้วยซ้ำ
เรื่องราวของฮิเดะซาโตะแพร่กระจายไปทั่ว และในเมื่อเขาไม่มีความจำเป็นต้องซื้อข้าว ผ้าไหม หรือเชื้อเพลิงแล้ว เขาก็มีฐานะมั่งคั่งร่ำรวยมากขึ้น และจากนั้นเป็นต้นมาเขาก็เป็นที่รู้จักกันในนาม นักรบข้าวหนึ่งถุง .. .
จบแล้วนะครับกับเรืองแรก "นักรบข้าวหนึ่งถุง" ยาวเอาเรื่องเหมือนกันนะ 55
หากใครชอบก็กดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจให้กันนะครับ แล้วผมจะหาเรื่องอื่นมาเขียนเรื่อยๆต่อไปแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือ : Japanese Fairy Tales

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา