สมองของคุณ กำลังโดนทำร้ายอยู่หรือเปล่า ?
สมองถือเป็นอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย
สมองคือศูนย์กลางในการสั่งการอวัยวะต่างๆ
ของร่างกายให้ทำงานไปอย่างปกติ
เช่น การเต้นของหัวใจ การเคลื่อนไหว การหายใจ
ที่เราสามารถอ่านบทความนี้ได้
เดิน ยืน นั่ง วิ่งได้ ก็เพราะการสั่งการของสมอง
ดังนั้นเมื่อสมองมีความสำคัญมากขนาดนี้
เราคงต้องหันมาใส่ใจสมองให้มากขึ้นแล้วล่ะ
วันนี้จึงอยากนำเสนอเรื่องราว
เกี่ยวกับพฤติกรรมที่ทำลายสมอง
โดยที่เราอาจรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม
มีอะไรกันบ้างนะ ไปอ่านกันเลย 📝
https://images.app.goo.gl/L8tB1K1hgtsyghgd7
1. ไม่ทานอาหารเช้า
ช่วงเช้า เป็นช่วงเวลาที่กระเพาะอาหาร
ทำงานได้ดีที่สุด ร่างกายเราขาดอาหารมาหลายชั่วโมงในขณะที่เรานอนหลับ อาหารเช้าจึงเป็นมื้อที่สำคัญมากๆ เพราะเราต้องใช้พลังงานจากอาหารมื้อแรกไปสู้กับภาระกิจต่างๆตลอดทั้งวัน
ดังนั้น หากเราไม่ได้ทานอาหารเช้า
ก็จะไม่มีสารอาหารเข้าไปเลี้ยงสมอง
เมื่อสมองไม่ได้รับสารอาหารเข้าไปหล่อเลี้ยง
ในช่วงเวลาที่เหมาะสม
อาจส่งผลทำให้สมองเสื่อมได้
รู้อย่างนี้แล้ว ก็คงต้องตื่นนอนให้เร็วขึ้น
เพื่อให้ทันการทานอาหารเช้า
ก่อนออกไปทำงานกันด้วยนะ
2. ชอบทานของหวาน และเครื่องดื่มที่มีรสหวานจัด
ปริมาณน้ำตาลที่แนะนำต่อวันคือ :
- เด็กและผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป
ไม่เกิน 16 กรัม หรือ 4 ช้อนชา
- วัยรุ่นหญิงชาย และวัยทำงาน
ไม่เกิน 14 กรัม หรือ 6 ช้อนชา
*คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยมหิดล
.
การทานน้ำตาลที่มากเกินกว่ามาตรฐาน
ที่แพทย์แนะนำต่อวัน นอกจากจะเป็นสาเหตุของการเกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูงแล้ว ของหวานหรือน้ำตาลเหล่านี้จะไปขัดขวางการดูดซึมโปรตีนและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
ซึ่งจะส่งผลต่อพัฒนาการของสมอง
และในระยะยาวอาจเพิ่มความเสี่ยง
เป็นโรคสมองเสื่อมได้
โฮ้ น่ากลัวใช่ไหมล่ะ ?😲
https://images.app.goo.gl/xKytUo3HDwL7LMrD9
3. ชอบทานอาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปสูง (Highly processed foods)
อาหารจำพวกนี้ นอกจากไม่มีคุณค่าทางอาหารแล้ว ยังก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายต่างๆมากมาย เนื่องจากมีส่วนผสมของน้ำตาล เกลือ และไขมันอิ่มตัวในปริมาณสูง ทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาล โซเดียม ไขมัน รวมทั้งแคลอรี่มากเกินกว่าปริมาณที่แนะนำต่อวัน
จึงอาจก่อให้เกิดโรคตามมา เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง และอาจนำไปสู่โรคหลอดเลือดสมองได้
นอกจากนี้ผลการวิจัยยังพบความสัมพันธ์ของการทานอาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปสูงในปริมาณที่มากเกินไป กับการเสื่อมของเนื้อเยื่อสมองด้วย
https://images.app.goo.gl/CyVYrp89KaTDFGMZ8
4. สูบบุหรี่
บุหรี่ มีสารนิโคตินและสารพิษอื่นๆ
มีผลให้หลอดเลือดแดงตีบตัน กล้ามเนื้อหัวใจตายเกิดหัวใจวายกะทันหัน หลอดเลือดสมองตีบตัน และยังทำให้เซลล์สมองฝ่อและเสื่อมได้ง่ายกว่าปกติ การสูบบุหรี่เพียงวันละ 1 - 2 มวน เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดสมองได้มากกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่
บุหรี่ทำร้ายสมองขนาดนี้ ควรเลิกได้แล้วนะ 😊
https://images.app.goo.gl/P5eYSh1vCNyJREKQ7
5. ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นประจำ
มีผลทำให้สมองส่วนฮิปโปแคมปัส (hippocampus) หดตัว ซึ่งสมองส่วนนี้เกี่ยวข้องกับความจำ จึงส่งผลให้ความจำเสื่อม, ความคิดเลอะเลือน ระยะยาวอาจทำให้สมองเสื่อมได้
ใครที่รู้ตัวว่าชอบสังสรรค์กับเพื่อนๆ แล้วชอบชนแก้วด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกันดูนะ เพื่อป้องกันไม่ให้สมองโดนทำร้ายอย่างนี้ต่อไป
https://images.app.goo.gl/4iBwYeQ4kTvVR42u6
6. พักผ่อนนอนหลับไม่เพียงพอ
การนอนหลับ คือการพักผ่อนร่างกาย จิตใจ
และสมอง จากการทำงานหนักมาทั้งวัน
และยังเป็นการซ่อมเซลล์ต่างๆที่สึกหรอด้วย
แต่หากคุณอดนอนติดต่อกันหลายวัน คิดดูสิว่าสมองจะล้าแค่ไหน เพราะการอดนอนหรือนอนไม่พอ ทำให้สมองไม่ได้พักผ่อน และคิดดูสิว่า สมองทำงานมาทั้งวัน แต่กลับไม่ได้พักผ่อน แบบนี้จะไม่ให้เซลล์สมองเสื่อมได้อย่างไร
พยายามเข้านอนให้เป็นเวลา นอนให้ได้ก่อน 4 ทุ่ม เพื่อให้ทันกับช่วงเวลาที่ร่างกายจะซ่อมตัวเองนะ
https://images.app.goo.gl/WdE9gLcaYgpDFGyy8
7. นอนคว่ำหน้า
หลายคนอาจสงสัย
เอ๊ะ! การนอนคว่ำหน้าทำร้ายสมองได้ยังไง ?
คือแบบนี้ครับ การนอนคว่ำหน้า จะทำให้เราหายใจเอาออกซิเจนเข้าสู่ปอดได้น้อยลง เมื่อออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายได้ในปริมาณที่น้อยลง นั่นแปลว่าสมองก็ต้องได้รับออกซิเจนที่ไม่เพียงพอ จึงส่งผลให้รู้สึกเวียนศรีษะ และเป็นการทำร้ายสมองอีกทางหนึ่งด้วยนะ
https://images.app.goo.gl/Ac2nLcVtWB5Bg14GA
8. กินเยอะเกินไป
การกินเยอะเกินไป ก็ทำร้ายสมองได้เหมือนกันนะ
เพราะการกินอาหารในปริมาณที่เกินพอดี ทำให้กระเพาะอาหารรับบทหนักในการส่งเลือดจำนวนมากมาช่วยในการย่อยอาหาร และยังส่งผลให้หลอดเลือดแดงในสมองแข็งตัวอีกด้วย
รู้แบบนี้แล้ว ก็กินแต่พอดี กินแต่พออิ่มนะ😊
https://images.app.goo.gl/2Zfzk7UeqM9epLwY7
9. มลพิษทางอากาศ
สมองจะทำงานได้ดี
ในสภาพที่มีออกซิเจนเพียงพอ
เมื่อเราอยู่ท่ามกลางอากาศที่มีมลพิษ
และสูดดมเข้าไปในร่างกาย จะทำให้ร่างกาย
ไม่สามารถนำออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้เพียงพอ ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลง
https://images.app.goo.gl/uwrf1xMxAtfUGQYD8
10. ใช้งานสมองอย่างหนักในตอนเจ็บป่วย
อาการเจ็บป่วย
คือสัญญาณบ่งบอกว่าร่างกายของเรา
กำลังอ่อนแอ รวมถึงสมองด้วย
ดังนั้นการโหมงานหนัก
หรือการใช้สมองในช่วงนี้
จะทำให้สมองอ่อนแอลงอย่างมาก
ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการใช้สมองในช่วงเจ็บป่วยนะ
หายป่วยเมื่อไหร่ ค่อยลุยงานต่อนะ 😊
https://images.app.goo.gl/1SB7ZPVpmVULPr4fA
11. ไม่ค่อยพูด
คนพูดน้อย หรือเป็นคนไม่ค่อยพูด
ในแง่ของบุคลิกภาพ เขาอาจคือคนเรียบร้อย
แต่การเป็นคนเงียบ ไม่ค่อยพูดจากับใคร
ก็ส่งผลเสียต่อสมองได้เช่นกันนะ
เอ๊ะ ยังไงน๊าา ? 🤔
.
เพราะการพูดบ่งบอกถึงประสิทธิภาพการทำงานของสมอง และยังช่วยสนับสนุนในเรื่องพัฒนาการและการเจริญเติบโตของสมองอีกด้วย หากพูดน้อย หรือไม่ค่อยพูดจา อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของสมอง
และคนพูดน้อย สมองมักคิดแก้ปัญหา
ได้ช้ากว่าปกติอีกด้วย
อ่อ อย่างนี้นี่เอง 😄
https://images.app.goo.gl/7MNNDbKPTerimcZY9
12. ไม่ค่อยใช้ความคิด
เคยเห็นนักเพาะกาย
หรือคนที่ชอบเข้าฟิตเนตบ่อยๆใช่ไหมครับ ?
คนที่กล้ามเป็นมัดๆ มีซิกแพคสวยๆ
เพราะพวกเขาใช้งานร่างกายส่วนนั้นมากเป็นพิเศษ
จนกล้ามเนื้อบริเวณนั้นปรับสภาพตัวเองให้แข็งแรง
จึงดูฟิตแอนด์เฟิร์ม ไม่ใช่นอนดูทีวีแล้วมันจะใหญ่ขึ้นมาเองนะ 😊
สมองของคนเราก็ทำงานไม่ต่างกัน
หากเราใช้งานสมองบ่อยๆ
ฝึกคิด ฝึกวิเคราะห์เป็นประจำ จะส่งผลให้สมองมีพัฒนาการที่ดีขึ้น มีประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับการไม่ค่อยได้ใช้ความคิดอะไรเลย
และหากเราไม่ค่อยได้ใช้งานสมอง
ไม่ค่อยชอบคิด นานๆเข้าอาจสูญเสียเซลล์สมองหรือเส้นใยประสาทได้ และอาจทำให้สมองฝ่อเรื่อยๆ ก็เหมือนกับแขนขานั่นแหละ หากเราไม่ใช้เดิน หรือหยิบจับ หรือยกอะไรเลย สักวันมันก็จะค่อยๆหลีบ และไร้เรี่ยวแรงในที่สุด
รู้อย่างนี้แล้ว ฝึกคิด ฝึกวิเคราะห์บ่อยๆนะ
https://images.app.goo.gl/a8QN2XCzBCv2w8aNa
13. เครียดสะสมเป็นเวลานานๆ
ความเครียด คือไวรัสที่อันตรายที่สุด
ในการทำลายร่างกาย และทำร้ายสมองของคนเรา
หากคุณเป็นคนที่ชอบคิดมาก
เครียดสะสมเป็นเวลานาน
เซลล์สมองจะค่อยๆถูกทำลาย ทีละนิดๆ
ทำให้การไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมองลดน้อยลง
จนในที่สุด สมองก็จะด้อยประสิทธิภาพในการทำงาน ทำให้เกิดอาการมึนงง ความจำแย่ลง
และมีความเสี่ยงเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้
เป็นยังไงกันบ้างครับ ?
กับเรื่องราวที่นำมาแบ่งปันในวันนี้
อ่านแล้วก็อย่าลืมนำมาปรับใช้
ในชีวิตประจำวันกันด้วยนะ 😊
ใครที่มีพฤติกรรมตรงกับ 13 ข้อที่อ่านมา
ยังไม่สายนะครับ พยายามลด และเลิกพฤติกรรมเหล่านั้นให้ได้นะ ไม่ใช่เพื่อใครหรอก
แต่เพื่อตัวเราเองนั่นแหละ
'ถ้าไม่ดูแล ก็แค่อย่าทำร้าย'
อ้างอิง :
- คมชัดลึก, www.thaihealth.or.th
- ผศ.ดร.เอกราช บำรุงพืชน์
- 76
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
