OR เบียด TTW และ TKN กระเด็นหลุด SET50 / SET100
หลังจาก OR หรือ บมจ. น้ำมันและการค้าปลีก (PTTOR) ซึ่งจดทะเบียน และเริ่มเข้าทำการซื้อ-ขายในตลาดฯ วันแรก (11 ก.พ. 2564) ก็เรียกได้ว่ามีการซื้อ-ขายระหว่างวันกันอย่างถล่มทลายเกิดเป็นหลายๆ สถิติใหม่อย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อน
Cr: www.pttor.com
จนราคาหุ้นขึ้นไปแตะสูงสุดระหว่างวันที่ 29.50 บาท และปิดที่ราคา 29.25 บาท บวกจากราคา IPO (18 บาท) หรือ +11.25 บาท (+62.50%) ทำให้ Market Cap. พุ่งทยานทะลุดาวอังคารไปถึง 339,592.50 ล้านบาท ขึ้นมาใหญ่อันดับที่ 11 ของ SET และเป็นอันดับที่ 4 ของกลุ่ม ENERGY (ข้อมูล ณ 11 ก.พ. 2564)
และก็เป็นไปตามคาดการณ์ของเหล่ากูรู และนักวิเคราะห์หลายๆ โบรกเกอร์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ประกาศให้ OR เข้าคำนวณในดัชนี SET50 และ SET100 โดยได้นำหลักทรัพย์ TTW (บมจ. ทีทีดับบลิว) ออกจากองค์ประกอบของดัชนี SET50
และนำ TKN (บมจ. เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง) ออกจากองค์ประกอบของดัชนี SET100 ตามลำดับ โดยหลักทรัพย์ทั้ง 2 ตัวจะหล่นไปอยู่ในกลุ่มหลักทรัพย์สำรอง (Reserve List) ของแต่ละดัชนีตามลำดับ (มีผลตั้งแต่ 17 ก.พ. 2564)
การทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ที่ใช้สำหรับคำนวณดัชนีดังกล่าวนี้ ก็เป็นไปตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกหลักทรัพย์ระหว่างรอบที่กำหนดเอาไว้ว่าจะนำ “หลักทรัพย์จดทะเบียนใหม่เข้ามารวมคำนวณดัชนีหากหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนใหม่นั้นมีขนาดใหญ่”
Cr: www.pttor.com
ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเกณฑ์ทางลัดที่ทำให้ได้ตำแหน่งในดัชนี SET50/SET100 เร็วกว่าการประกาศรอบตามปกติ (ปกติรอบครึ่งปีแรกจะประกาศช่วง ธ.ค. / รอบครึ่งปีหลังประกาศช่วง มิ.ย.)
แล้วไอ้ที่ว่าเป็นหลักทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่นั้น...มันต้องใหญ่แค่ไหน? โดยเกณฑ์ที่ว่านั้นคือ...
- มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap.) มากกว่าร้อยละ 1 ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม
- มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap.) อยู่ในช่วง 20 ลำดับแรกของหลักทรัพย์ในดัชนี SET50 และ SET100
Cr: ไทยรัฐออนไลน์
ซึ่งหากดูจากตัวเลขที่ทาง OR ต้องการทั้งหมดแล้วก็เรียกได้ว่าผ่านเข้ารอบสุดท้ายแบบชิวๆ หรือเรียกตามศัพท์เสียงเก๋ๆ ว่า Fast Track ก็ดูดีไปอีก โดยหุ้นที่กระเด็นออกไปก็ไปอยู่กลุ่มสำรองตามเกณฑ์ที่กล่าวไว้
หลังจากนี้คงต้องติดตามดูกันว่า OR จะสร้างสถิติใหม่อะไรอีกหรือไม่ ราคาหุ้นจะพุ่งทยานไปอีกไหม หรือจะปรับตัวย่อลงมาเพราะอิ่มตัวแล้ว วันที่แอดมินเขียนบทความนี้ตรงกับวันตรุษจีน (12 ก.พ. 2564) ที่ทางราชการประกาศให้เป็นวันหยุดพิเศษซึ่งตลาดฯ ก็ปิดเช่นกัน
นักลงทุนทั้งรายใหญ่รายย่อยก็คงจะได้ไปคิด และพิจารณากันอย่างถี่ถ้วนอีกครั้งระหว่างหยุดยาวนี้ว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้กับราคาที่นักลงทุนให้นิยามกันว่า “หุ้นอั่งเปาวันตรุษจีน”
Cr: Pixabay
Source: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
- 4
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
