12 ก.พ. 2021 เวลา 14:31 • ไลฟ์สไตล์
ความเครียดก็เป็นมิตรนะ
1
เวลาพูดถึงความเครียด
คนเรามักจะมีอารมณ์ที่ขุ่นมัว
หน้าตึงเครียด หงุดหงิดง่าย
เรามักจะมองความเครียดเป็นศัตรูเสมอ
เมื่อบอกให้ลองเป็นมิตรกับความเครียดก็ฟังดูเป็นเรื่องที่ตลก
มันจะเป็นอย่างนั้นได้ยังไง??
แต่หารู้ไม่ว่าความเครียดจริงๆแล้วก็มีประโยชน์และเป็นมิตรกับเราเหมือนกัน
ถ้าเราเปลี่ยนวิธีคิดที่มีต่อความเครียดได้สุขภาพเราจะดีขึ้น
สมองและการตอบสนองต่อความเครียดก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นเช่นกัน
ฉะนั้นเราจะรับมือกับความเครียดได้อย่างไร??
1. มองว่า “ความเครียดมีประโยชน์ต่อเรา” ✨
เพราะเมื่อร่างกายเราเข้าสู่สภาวะเครียด หัวใจเต้นแรงคือช่วงเวลาที่ร่างกายกำลังช่วยให้เราเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่ต้องเผชิญหน้า
และจังหวะหายใจที่เร็วขึ้นนั้น
ทำให้เรามีออกซิเจนมากเพียงพอสำหรับการหล่อเลี้ยงสมองให้ทำงานดีขึ้นและจัดการปัญหาตรงหน้าได้ดีขึ้น
2
ฉะนั้นทันทีที่เรารู้สึกเครียด
แล้วเรามองมัน
“เป็นบวกหรือเป็นประโยชน์”
ร่างกายเราจะค่อยๆ ผ่อนคลายขึ้น
ความรู้สึกจะค่อยๆ balance จนเป็นปกติ
ทำให้เราสามารถรับมือกับความเครียด
.
.
.
1
2. คิดว่า “มันไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว”✨
การที่ทำแบบนี้เป็นการบอกกับตัวเองว่า “เราควบคุมมันได้” !!
“เราเอาอยู่” !!
ร่างกายของเราจะฮึดสู้ขึ้นมา!!
เพื่อช่วยให้เราต่อสู้กับอุปสรรคความท้าทายและเรื่องยากในชีวิต
เมื่อเราเผชิญกับความเครียด
ร่างกายจะหลั่งสาร Oxytocin (อ๊อกซิโตซิน) เป็นฮอร์โมนที่เกิดจากความตื่นเต้น ช่วยผ่อนคลายหลอดเลือดระหว่างเครียดได้ มีข้อดีในการช่วยผลิตเซลล์หัวใจ
และรักษาเซลล์หัวใจที่เสียหายจากความเครียดว่าง่ายๆ คือมันช่วยทำให้ “หัวใจเราแข็งแรงขึ้น”
🚨“ความเครียดไม่ได้น่ากลัว
แต่ความคิดว่าความเครียดน่ากลัว
คือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด”
.
.
.
ในหนังสือ “ทักษะความสุข”
ได้อ้างอิงงานวิจัยจาก มหาวิทยาลัย Wisconsin Madison เรื่องความเครียดในปี 2012
โดยการเก็บสถิติจากชาวอเมริกัน 30,000 คนเป็นเวลา 8 ปี
จากการถามคำถาม 2 คำถามนี้
.
.
“ในปีที่ผ่านมาคุณเครียดมากน้อยแค่ไหน”?
“คุณเชื่อว่าความเครียดเป็นอันตรายสุขภาพของตัวเองมากน้อยแค่ไหน”?
ผลวิจัยพบว่า
43% ของคนที่ตอบว่า
“ปีที่ผ่านมาเครียดมาก และเชื่อว่าความเครียดเป็นอันตรายต่อสุขภาพ” เสียชีวิตเร็วกว่า หรือเสียชีวิตในปีถัดไป
ต่างกับคนที่ตอบว่า
“ไม่ค่อยเครียดหรือเครียดเล็กน้อย และเชื่อว่าความเครียดไม่ได้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ”
ไม่มีใครเสียชีวิตในช่วงเวลาที่ทำการวิจัยนั้นเลย
วิจัยนี้ทำให้เห็นว่า
คนที่เชื่อว่าความเครียดเป็นอันตราย
จะมีสุขภาพแย่กว่า
ในขณะที่คนที่เชื่อว่าความเครียดไม่เป็นอันตราย
จะมีสุขภาพที่ดีกว่า และมีโอกาสเสียชีวิตน้อยกว่า
แล้วถ้าเรารับความเครียดมาแล้วละ? จะทำอย่างไร จะปลดปล่อยมันยังไง?
1. “กำหนดลมหายใจเข้า-ออก”
วิธีนี้เป็นการเอาเชิงธรรมะเข้าช่วย เมื่อเรารู้จิต รู้ลมหายใจ ทำให้เราสามารถโฟกัส ร่างกายจะรู้สึกผ่อนคลาย และค่อยๆเข้าสู่สภาวะปกติ
.
.
.
3
2. “ปลดปล่อยความเครียดด้วยการช่วยเหลือคนอื่น”
วิธีนี้เป็นวิธีช่วยฟื้นฟูร่างกายจากความเครียดได้ เพราะเวลาเรามีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นในขณะที่เราเครียด จะทำให้เราเครียดน้อยลง
เพราะเราจะรู้สึก “มีความสุขขึ้น”
ร่างกายและจิตใจรับรู้ความเอื้อเฟื้อ ความเบิกบาน และยังทำให้ตัวเองมีคุณค่ากับคนอื่น
เหมือนเวลาเรากำลังเครียด
แล้วมองไปหาน้องแมวตัวน้อยๆตัวหนึ่ง เข้าไปลูบหัว ให้อาหารเขา เราก็จะยิ้มและมีความสุข
.
.
.
1
3. “ดมยาดม หรือ ใช้ aromatherapy ช่วยบำบัด”
การดมยาดมทำให้เรารู้สึกสดชื่น
สมองโล่ง ผ่อนคลาย
เป็นวิธีช่วยคลายเครียดแบบเร่งด่วน
และง่ายที่สุด พกไว้สักอันไม่เสียหลาย หรือถ้าอยู่บ้านลอง จุดเทียนหอม
หรือน้ำมันหอมระเหย ที่มีกลิ่นสดชื่น
ส่วนตัวจูนเองติดใช้กลิ่นโทน eucalyptus กับ peppermint
ผ่อนคลายดีมากๆ🌿
.
.
.
2
4. “กินอาหารที่ชอบ”
วิธีได้มาจากคอมเมนท์เพื่อนๆ จากโพสนี้
ซึ่งจูนเองก็ได้ถามคนรอบตัว
ทุกคนก็ตอบว่า “กินคลายเครียด”
เพราะเวลากิน ทำให้มีความสุข
ลืมสิ่งแย่ๆไปชั่วขณะ
เชื่อว่าก็คงใช้ได้กับหลายคนจริงๆ
แต่ต้องมีสติในการกินนะคะ
ไม่งั้นอ้วนมา เครียดกว่าเดิมหน่า
🚦“เตือนแล้วนะ!!” (เสียงป้าป้อมมาสเตอร์เชฟ) 😂😂
.
.
.
5
🌿 มีอีกหลายวิธีที่จะช่วยได้ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การไปเที่ยว ฯลฯ ที่ยกตัวอย่างคือวิธีที่จูนใช้บ่อยๆ
💕 ฉะนั้นถ้าเรารู้ที่จะเป็นมิตรกับความเครียดและวิธีปลดปล่อยมันได้แล้ว ก็จะทำให้เราผ่านอุปสรรคต่างๆไปได้ไม่ยาก และรับมือกับมันได้อย่างไม่น่ากังวล 💪🏻✨
อ้างอิง หนังสือ “ทักษะความสุข” (งานวิจัย และสาร oxytocin)
✨ฝันดี ราตรีสวัสดิ์ 💕

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา