12 ก.พ. 2021 เวลา 23:00 • ประวัติศาสตร์
วิธีบอกรักในยุค 90’s
1
คุณพ่อคุณแม่ยังจำกันได้ไหมเอ่ย?
1
วิธีบอกรักในยุค 90’s
เมื่อวันแห่งความรักอย่าง วันวาเลนไทน์ ใกล้เข้ามา...
จะเห็นได้ว่าตามสถานที่ต่าง ๆ ก็เริ่มมีการจัดตกแต่งให้เป็นสีชมพูหวานแหววกัน คนที่มีคู่ก็ควงกันไปสวีทหวาน ส่วนคนโสดก็เตรียมวิธีจีบหนุ่มสาว พร้อมสารภาพรักกันอย่างเต็มที่
ซึ่งการบอกรัก "สมัยนี้" กับ "สมัยก่อน" มีความแตกต่างกัน
คุณพ่อคุณแม่ยังจำกันได้ไหมเอ่ย?
ลองมองย้อนกลับไปในยุคที่คุณพ่อคุณแม่กำลังเป็นวัยรุ่น โทรศัพท์มือถือก็ยังยังเข้าไม่ถึง โซเชียลมีเดียก็ยังไม่ค่อยมี หากยังนึกกันไม่ออกว่าการบอกรักสมัยนั้นเป็นอย่างไร มาดูกันว่า... วิธีบอกรักสมัยนั้นมีอะไรบ้าง...
- จดหมายบอกรัก
ใครใช้วีธีนี้ได้บอกเลยว่าเป็นคน "มีความอดทน" มาก พอได้รับจนหมายจากคนที่ชอบก็อ่านซ้ำแล้วซ้ำอีก หาที่เก็บอย่างดี และพอสักวันหนึ่งได้กอดกันจริง ๆ ไม่ใช่แค่กอดกันผ่านตัวหนังสือ บอกเลยว่าเป็น ช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดอีกช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตก็ว่าได้
- สื่อรักผ่านเพจเจอร์
เป็นยุคแห่งคำกลอน และสารพัดคำหวานที่ทำเอายิ้มไปตาม ๆ กัน การจะส่งหากันแต่ละที "ต้องโทรเข้าไปที่ศูนย์รับข้อความก่อนแล้วบอกคำเหล่านั้นกับพนักงานไป" ตัวเราก็เขิน พนักงานก็ถามทวนอยู่ได้ คิดว่าใครที่เป็นพนักงานศูนย์ยุคนั้นน่าจะมีเรื่องให้อมยิ้มกันทุกวัน
- บอกรักด้วยปากกาลบคำผิดผ่านโต๊ะเรียน
อุปกรณ์ที่สำคัญเลยนั้นก็คือ "น้ำยาลบคำผิด" แต่ก็ต้องดูดี ๆ ด้วย ทั้งคุณครูที่ห้ามเขียนโต๊ะ และระวัง! ผิดโต๊ะ! หากพลาดขึ้นมาถือได้ว่าเป็นเรื่องใหญ่เลยทีเดียว (งานเข้า)
- โทรศัพท์บ้าน
เป็นยุคที่ต้อง "คอยระวังไม่ให้พ่อเรารับสายแทน" ลองสารภาพมาซะหากใครเคยทำ? และก็ไม่รู้ทำไม? พ่อก็ชอบนั่งดูทีวีอยู่ตรงโทรศัพท์เสมอเลยจริง ๆ นับว่าเป็นยุคที่มีความยากลำบากพอใช้ได้ทีเดียว
- บอกรักกับโปรโมชั่นคุยยาวทั้งวันทั้งคืน
สมัยก่อนการจะคุยโทรศัพท์แต่ละทีมันยากเย็นซะเหลือเกิน ยิ่งคุยกับคนที่เราชอบก็มักจะมีการคุยที่ยาวนาน เพราะมีเรื่องให้คุยกันเยอะแยะมากมาย ก่อนจะโทรก็อย่าลืม "สมัครโปรที่ทั้งคู่คุยกันบ่อย ๆ ยิ่งเป็นเครือข่ายเดียวกันยิ่งดี" คุยยาวคุยนานได้ตลอดคืน บอกรักกันได้ตลอดวัน
บางเครือข่ายทำให้บางคนคุยสามวิ กดวาง คุยได้ทั้งคืนได้อย่างขั้นเทพ
- รอเธอออนไลน์แล้วบอกรักผ่าน MSN
ก่อนจะจีบกันผ่าน MSN ก็ต้องเดินไปขออีเมล์กันสักกะหน่อย อาจจะให้เพื่อนไปขอให้ หรือไปหาจากหนังสือรุ่นก็ยังได้ จากนั้นก็ "แอดเฟรน"ไปโลดเลย ทีนี้ก็เหลือแค่ความกล้าแล้ว ว่าจะทักไปยังไงดี? ตือดือดึ้ง!!
- บอกรักด้วยการฝากเพลงผ่านดีเจ
วิธีนี้คนที่บอกรัก ต้องรู้ก่อนเลยนะว่า... อีกคนชอบฟังคลื่นไหนเป็นพิเศษ และ "ส่งเพลงนั้นผ่านเสียงดีเจเสียงใส ๆ ไปให้คนที่เราชอบ" แต่ก่อนอื่นก็อย่าลืมโทรไปบอกคนนั้นก่อนนะว่า ให้ฟังเวลาไหนและกี่โมงไม่งั้นละอาจจะไม่ทันได้ฟังก็ได้
- ไรท์เพลงรักใส่แผ่นซีดีไปให้
มีหลายคนนะ!! ที่ใช้วิธีนี้แทนการบอกรัก โรแมนติกไปอีกแบบ เหมือนเป็นการรวบรวมความรักของเราให้กลายเป็นบทเพลง "แทนความรู้สึก" แล้วส่งความรักนั้นให้กับคนที่เราแอบชอบ เป็นอะไรที่น่ารักมาก ๆ เลย
- บัตรจีบ
เป็นบัตรเล็กน่ารัก ๆ "เขียนข้อความขอทำความรู้จัก" หากเขาพยักหน้า หรือ ยิ้มกลับก็ดีไป แต่ถ้าเขาเอาบัตรมาคืนนั่นคือจบแล้ว เก็บไปนอนฝันร้ายกันเลยทีเดียว
- ตู้โทรศัพท์สาธารณะ
สมัยนั้น... ด้วยความที่สักบ้านจะมีโทรศัพท์บ้านได้นั้น จะต้องมีเงินพอสมควร และการจะขอโทรศัพท์บ้านแต่ละทีก็ยากเย็นมาก ๆ แนะนำให้กด 1234 ก่อนโทรนะ แล้วมันจะโทรได้นานขึ้น หลายคู่ได้ลงเอยกันก็เพราะไอ้ตู้นี้นีเอง
#สาระจี๊ดจี๊ด
หากใครทันทุก ๆ เรื่องราว มั่นใจเลยว่า... 30++ แน่นอน!!
1
แต่ละยุคแต่ละสมัยก็จะมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป
หากถามว่าตอนนั้นเราทนไปได้ไง?
ก็คงเป็นเพราะไม่มีทางเลือกมากนักใช่หรือไม่?
จนถึงตอนนี้...
พอมาย้อนมองกลับ ช่างน่าตกใจ!
"ในยุคสมัยที่ส่วนใหญ่อะไรก็ง่ายไปหมด"
แต่มีเรื่องหนึ่งที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัย จะอย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องง่าย!
เรื่องนั้นคือ... "ความรัก"
#Wasabi ขอเพียงมีส่วนเล็ก ๆ ที่ช่วยให้คุณ!
"เจริญเติบโต ก้าวหน้า สำเร็จ อย่างภาคภูมิใจ"
#สาระจี๊ดจี๊ด #Wasabi #ความรู้ขึ้นสมอง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา