Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ปั้นเงินออม
•
ติดตาม
14 ก.พ. 2021 เวลา 02:10 • หุ้น & เศรษฐกิจ
หุ้น กับ ความรัก เหมือนหรือต่างกันอย่างไร
ความรักกับการลงทุน ❤️ (ตอนที่ 2 จบ)
จากบทความที่แล้ว ผมได้ลองเปรียบเทียบความรักกับการลงทุนในหุ้น
1
ในรูปแบบต่าง ๆ ไปแล้ว สำหรับในตอนนี้จะขอลงรายละเอียดเพิ่มสักหน่อย
ว่าถ้าเราเลือกหุ้น หรือ คนรักมาแล้ว เราควรจะดูแล หรือ ปฏิบัติตนอย่างไร
หากจะเปรียบการลงทุน เสมือนการปลูกต้นไม้ ที่เราต้องเริ่มตั้งแต่ คัดเลือกเมล็ดพันธุ์
1
คอยดูแล รดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย เฝ้าติดตามจนกว่ามันจะออกดอกออกผล แต่ในอีกนัยนึง
การลงทุนก็เปรียบได้กับความรักเช่นกัน
การจะเลือกหุ้นสักตัว อาจจะเหมือนกับการที่เราเลือกคนรักสักคน และอยากจะอยู่ด้วยนลอดไป แต่จะมีส่วนที่ต่างกันก็คือ สำหรับหุ้นเราจะขายต่อเมื่อพื้นฐานเปลี่ยน หรือ ธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ไม่ดี
3
ดังนั้นผมขอจะเปรียบในแง่มุมของ
“การคัดเลือกหุ้น กับ การคบหาดูใจคนรัก ก็แล้วกันครับ”
1
ปกติแล้ว ถ้าเรา จะเลือกชอบใคร หรือ รักใครสักคนเราก็จะเข้าไปจีบ ไปทำความรู้จัก แต่กว่าจะถึงจุดนั้นแปลว่า เราจะต้องผ่านความประทับใจ หรือ สนใจก่อน เช่น เราอาจจะไปพบปะกันในงานเลี้ยงรุ่น ไปเจอกันตอนออกกำลังกาย แล้วอยากเข้าไปทำความรู้จัก เช่นนี้เป็นต้น
2
สำหรับหุ้น เวลาที่เราอยากจะทำความรู้จัก เราก็จะต้องเริ่มเข้าไปศึกษา แต่จะเข้าถึงได้ง่ายกว่า ตรงที่ว่าจะมีคนรวบรวมข้อมูลเหล่านั้นมาให้เราอยู่แล้วนั่นคือ ตลาดหลักทรัพย์
1
เช่น การเข้าไปอ่านเอกสาร Factsheet เพื่อศึกษาธุรกิจ
ซึ่งจะมีข้อมูล IPO ราคา งบการเงินแบบย่อ หากเราอยากรู้จักมากขึ้น
อาจจะต้องเข้าไปศึกษาเพิ่ม เพื่อดูตัวเลข อัตราส่วนมางการเงินต่าง ๆ เข้าไปอ่านเอกสาร
1
2
✅รายงานประจำปี 56-1 ซึ่งก็จะทำให้เรารู้จักกับหุ้นตัวนั้น ๆ มากขึ้น
1
✅ การเข้าร่วม Opp Day ก็จะทำให้เรารู้จักบริษัทในแง่มุมมากขึ้น อันนี้ผมเปรียบเหมือนการออกเดท เพื่อได้แลกเปลี่ยนมุมมองและได้รับฟังทัศนคติของกันและกัน
1
✅ การไปเยี่ยมชมกิจการ ข้อนี้จะเหมือนกับการ ไปเที่ยวบ้านแฟนเลย อาจจะได้ไปพบปะ
พ่อแม่ พี่น้อง ก็จะได้สำรวจดูถึงความเหมาะสม และ เข้ากันได้ไหม
2
เมื่อผ่านจุดของการศึกษา หรือ คบหาดูใจมาแล้วก็จะมาถึงการแต่งงาน ตรงนี้ถ้าให้ขยายความลงไปก็จะมาถึงการเข้าซื้อ และ ประเมินมูลค่าหุ้น และ นั่นแล่ะครับ ถ้ามองกลับมาที่เราจะแต่งงานก็จะหมายถึงการตกลงค่าสินสอด เพื่อ หาจุดที่เราตกลงกันทั้ง หญิง และชายได้
หากจะมองอีกแบบถ้าใครเคยเทรดหุ้น อาจจะเห็น Bid กับ Offer ใช่มั้ยครับ อีกนัยก็จัเทียบได้ว่า เรากำลังเสนอซื้อ และ เสนอขาย ซึ่งมัน Match กันหรือไม่ ถ้าจุดเหมาะสมที่ยอมรับได้ทั้ง 2 ฝั่งเท่ากัน เราก็จะได้แต่งงานกันครับ
2
หากตกลงกันไม่ได้ ก็จะต้องรอกันต่อไปหรือ อาจจะต้อง Move On กันไปเพื่อค้นหาสิ่งที่ดีกว่า
หรือ หุ้นที่ดีกว่าครับ ตรงส่วนนี้ผมก็จะขอบอกว่ามันยังคงมีความต่างกันเล็กน้อยที่ว่า หุ้นเราสามารถ ซื้อ ได้หลายตัว เพื่อกระจายความเสี่ยง แต่คนรักเราจะมีได้เพียงคนเดียวนะครับ ❤️
2
ขั้นสุดท้าย เมื่อเราผ่านการแต่งงาน หรือ เข้าซื้อกิจการที่เราเลือกได้แล้ว ก็จะมาสู่การใช้ชีวิต
หรือถือหุ้นนั้นไว้ ตรงนี้ก็อาจจะมี บางเวลาที่เกิดมรสุม หรือ วิกฤตเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่เข้ามาทดสอบจิตใจของกันและกัน เหมือนกับทดสอบความแข็งแกร่งของบริษัทที่เราถือกิจการนั่นเองครับ อาจจะมีช่วงเวลาที่ดีบ้าง แย่บ้าง แต่ถ้าภาพรวมไม่ได้เปลี่ยนแปลง
1
ยังคงเป็นบริษัท กิจการที่ดีมั่นคง หรือ
คนรักที่ดีก็จะยังคงจับมือถือกันต่อไปได้ครับ
1
สุดท้าย แล้ว ความแตกต่างที่สำคัญที่จะปฏิเสธไม่ได้เลยระหว่างสองอย่างนี้คือ
เราวิเคราะห์หุ้นด้วยหลักการและเหตุผล แต่สำหรับความรักมันจะมีอารมณ์และความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ดังนั้นตรงจุดนี้ผู้อ่าน ก็จะต้องระมัดระวัง อย่านำไปใช้สลับกัน
อย่าใช้อารมณ์กับการลงทุน
1
และอย่าใช้เหตุผลกับความรักมากเกินไป
3
แล้วไม่ว่าจะเป็นการลงทุน หรือ ความรัก
คุณก็จะประสบความสำเร็จ
และมีความสุขควบคู่กันไปได้ครับ
2
และนี่ก็คือบทความที่เป็นการเขียนผ่านมุมมองส่วนตัวของผมเท่านั้น หากจะมีบางช่วงบางตอนที่อาจจะไม่ถูกต้อง หรือ ผิดหลักการตรงไหนไป ก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ 🙏
สำหรับวันนี้คงพอเท่านี้ก่อน
แล้วพบกันใหม่คราวต่อไปครับ
Happy Valentines Day
ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับคนที่เรารักครับ ❤️
ปั้นเงินออม
14 กุมภาพันธ์ 2564
4 บันทึก
52
56
32
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ความรู้สำหรับลงทุนในหุ้น
แนวคิดสร้างแรงบันดาลใจใน การใช้ชีวิตและเงิน อย่างมีสติ
4
52
56
32
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย