อะไรแพงที่สุดในบ้านของคุณ?
เริ่มต้นด้วยคำถามที่ผู้อ่านหลายคนคงนำไปหาคำตอบ ใครที่จดบันทึกรายจ่ายไว้แบบละเอียดคงชี้ได้ไม่ยากว่าอะไรที่เราซื้อมาแพงที่สุด
แต่วันนี้ผมไม่ได้ต้องการทบทวน 'มูลค่า' สิ่งของต่างๆ ในบ้านเพียงเท่านั้นครับ ผมต้องการทบทวน 'คุณค่า' ของสิ่งเหล่านั้นด้วย
มีคนกล่าวว่า (เวลาผมอ้างแบบนี้เป็นเพราะผมลืมชื่อเขาจริงๆ นะครับ และผมก็ลืมเก่งซะด้วย 😆) "ของที่แพงที่สุด คือของที่คุณซื้อมันแล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรจากมันเลย"
หมายความว่าต่อให้สินค้านั้นถูกแค่ไหนถ้าไม่ได้ใช้ประโยชน์หรือใช้ได้น้อยมาก ราคาของมันก็จะแพงขึ้นมาทันที ในมุมกลับหากเราใช้ประโยชน์ได้มากต่อให้ราคาค่าตัวมันจะแพงแต่ก็ถือว่าถูกตามนิยามนี้
บางคนคงถามว่า มีด้วยหรอซื้อสินค้าที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์?
ผมว่าถ้ามานั่งนึกดีๆ มันมีจริงแน่ๆ ครับ และไม่ต้องหาที่ไหนไกลด้วย ในชีวิตเรานี่แหละ ต้องมีอะไรเทือกนี้โผล่มาให้เห็น
กี่ครั้งแล้วที่เราซื้อของเพราะเพียงมันลดราคา สุดท้ายมันอาจมีของชนิดเดียวกันนั้นอยู่ในบ้านเราอยู่แล้วนับ 10 ชิ้นก็ได้ โดยที่พวกมันเหล่านั้นก็ไม่ถูกใช้หรือแทบไม่ถูกเราใช้มาก่อนเลย แล้วเราจะเอาไปเพิ่มเพื่อ?
เสียไปเท่าไหร่แล้วกับคำว่า SALE
แล้วจะทำยังไงเราถึงจะไม่พลาดไปซื้อของแพงที่สุดแบบนี้มาเพิ่มในชีวิตอีก?
ผมมีคาถาลดการซื้อมาฝากครับ
คาถานี้เป็นคาถาของดร.อัจฉรา โยมสินธุ์ ที่เอาไว้สะกดจิตตัวเองและสอนผู้อื่น เพราะป้าย SALE นั้นเมื่อเห็นมัน (โดยเฉพาะคุณผู้หญิง) จะรู้สึกประหนึ่งต้องมนต์ขลัง ปรี่เข้าไปหาเรื่องเสียสตางค์กันเสียอย่างนั้น จึงต้องมีคาถาไว้กันมนต์สะกดดังกล่าว
"ถูกแค่ไหน ถ้าไม่ใช้ ก็ไม่ซื้อ!"
ขอบคุณ ดร.อัจฉรา โยมสินธุ์
หลังจากนี้ไม่ว่าจะเจอป้ายลดราคาที่ใด จะเป็นตลาดออฟไลน์หรือออนไลน์ ให้ท่องคาถานี้ไว้เสมอนะครับ แล้วเราจะรอดปลอดภัย เหลือเงินไว้ใช้ซื้อของที่จำเป็นครับ
ปู่บัฟเฟตเคยกล่าวไว้ว่า "หากคุณซื้อสิ่งของไม่จำเป็น (เพื่อใช้ชีวิต) วันนึงคุณอาจจะต้องขายสินทรัพย์ที่จำเป็น (เพื่อเอาชีวิตรอด)"
ขอให้ทุกคนรอดพ้นจากสินค้าราคาแพงครับ
สวัสดี 🙏
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
