5 มี.ค. 2021 เวลา 10:17 • ศิลปะ & ออกแบบ
ตอนที่2.บทนำ สุวรรณภูมิ~ฟูมิชิโน่
I I
.....อาหารมื้อปกติสองมื้อแรกวาดไม่ทันเพราะ ตะกละกินหมดก่อน นี่เป็นมื้อก่อนอาหารเช้ามีกาแฟและขนมเหมือนพุดดิ้ง สีกาแฟในถ้วยกาแฟทดลองเอามาลงสี โดยใช้กาแฟใส่นมก้นถ้วยระบายลงไปแต่ไม่ประสบความสำเร็จเพราะมันเจือจางมากเกือบไม่มีเนื้อสีเอาเลย วันหน้าถ้าจะลงสีโดยใช้กาแฟจะต้องใช้กาแฟผงผสมพิเศษเองแบบเข้มข้นจึง(น่า)จะได้เนื้อสี ลายเส้นยังยุ่งยิ่งสับสนแหมออกงานแรกไม่โทษตัวเองเลย แต่โทษว่าบางครั้งขณะที่เสก็ตช์โชเฟอร์ขับไม่สมูทแอสซิลค์
..
......ปรมาจารย์ ทางศิลปะของเรา ศจ.หรืออาจารย์ ศิลป์ พีระศรี ท่านเป็นแรงบันดาลใจของผู้ที่ทำงานศิลปะในรุ่นต่อๆมา ท่านทำให้สยามเรียนรู้วิถีทางศิลปะตะวันตกอย่างรวดเร็ว ยุคของท่านและตัวท่านคือสกุลช่างฟลอเรนซ์โดยเฉพาะงานประติมากรรม ท่านเป็นชาวเมืองฟิเรนเซ่ หรือฟอเรนซ์ทางเหนือในอิตาลี แต่ก่อนสมัยที่จะรวมประเทศ ฟลอเรนซ์เป็นแคว้นอิสระ ถัดมาอีกยุคหนึ่ง อจ.เฟื้อ หริพิทักษ์ลูกศิษย์ อจ.ศิลป์ ท่านได้วาดรูปไว้ทีอิตาลีนี้หลายรูปสมัยก่อนการมาต่างประเทศลำบาก รูปของท่านหลายรูปนั้นก็เป็นตัวอย่างของงานเสก็ตช์ที่มีคุณค่ามาถึงเดี๋ยวนี้ และได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจแก่ศิษย์ของท่านในรุ่นต่อต่อมาที่จะทำแบบอจ.เฟื้อ
 
........สามารถค้นหางานของอจ.เฟื้อ ดูได้โดยผ่าน google ยิ่งปัจจุบันในงานสีน้ำของศิลปินระดับเซียน ทั้งฝรั่ง ญี่ปุ่น และจีน ฯ ต่างมุ่งมั่นและต้องมีผลงานวาดรูปในบรรยากาศของเมืองโรมันเก่าแห่งนี้
........แล้วผมก็มาอิตาลีอีกครั้งหลังจากแทบลืมการมาครั้งที่แล้วในสมัยมัธยมปลายและเริ่มเข้าโรงเรียนสถาปัตยกรรมฯ ในตอนที่กำลังหัดเขียนรูปแบบวอล์คเสก็ตช์และเริ่มหลงไหลมัน (2012/2014) ผมมีอะไรผูกพันกับที่นี่น่ะ ฟูมิชิโน่(ฟังเสียงยังกับญี่ปุ่นเชียว) สถานที่เหมือนปากน้ำบ้านเราเวลาเครื่องขึ้นหรือลงก็มาจากทิศทางทะเล เป็นที่ตั้งของสนามบินและต่อมาก็เป็นที่ขยายตัวของเมืองใหม่ รุ่นสี่ห้าสิบปีที่แล้วยุคปลายซิกตี้ต่อต้นเซเว่นตี้จากนั้นจนถึงเมื่อสิบปีกว่าที่แล้วจึงกลับมาอีกครั้ง
........ผมทำงานอยู่ในสายสถาปัตยกรรมที่น่าจะเขียนรูปวาดรูปได้ดีแต่ก็ได้แต่น่าจะเท่านั้น ช่วงที่ทำงานช่วงแรกเขาโยนให้เป็น คนดูแลโครงการและตั้งชื่อตำแหน่งหรูๆให้เพื่อให้เรากลายพันธุ์ไปเป็นแบบอย่างที่พวกเขาหรือระบบต้องการ การไม่ได้ทำงานออกแบบยุคแรกที่ยังไม่มีคอมพิวเตอร์ยุคนั้นต้องใช้มือวาดและเขียน ระเบียบความสะอาดและความปราณีตต้องเน้นเป็นพิเศษเพราะเขียนด้วยดินสอปากกาบนโต๊ะแบบตัวใหญ่ สักพักร่วมสิบปีก็เริ่มมีจอเขียวและดอส ต่อมาไม่กี่ปีจึงเริ่มการขีดเขียนกันในจอและพัฒนามาเรื่อย สำหรับผมทำแต่การวางผังหรือแปลนนิ่งตลอดจนแมนเนจเม้นท์ จนอายุมากมือไม้ก็นิ่งและฝืดไปหมด(สำหรับวาดรูป) จะขีดเขียนช่วงแรกๆก็อายรุ่นเด็กมัน ด้วยฝีมือแย่มาก กว่าจะมาฝึกฝนใหม่ก็ใช้เวลา ต้องกัดฟันว่าเอา(ว่ะ)น่ะถ้ามันจะเป็นความสุข (ของคนแก่) จากแรงบันดาลใจของศิลปินหลายต่อหลายท่านที่วาดมาในอิตาลี แม้ฝีมือยังไม่อาจเทียบเทียมเท่ากับผู้คนที่สร้างแรงบันดาลใจนั้น พลังงานของคนมีอายุจะมีอยู่อย่างจำกัด อาศัยกำลังใจที่เยอะที่จะทำ แม้ไม่สามารถบุกตะลุยไปในที่ที่พวกเขาไปเขียนทั้งหมดได้
......เหมือนตอนหัดถีบเสือภูเขาสิ่งที่ได้กลับไม่ใช่ทักษะการถีบจักรยานแม้จะมีบ้างแต่สิ่งที่ได้คือการเห็นโลกรอบข้างที่เราละเลยไปเรามองเห็นดอกหญ้าเศษดินทรายผู้คนที่เดินช้าช้าและสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยข้างทาง เช่นเดียวกับการเขียนรูปวอร์คเสก็ตช์ผมสามารถ นั่งลงบนพื้นหน้า Pantheon ได้ทันทีเพื่อวาดรูป หรือที่สะพานนางฟ้าก็แปะลงไปที่ร่มๆบนฟุตปาทบนสะพานได้ ที่สมัยก่อนไม่มีซ่ะหรอกเพราะมันสกปรก หรือเพราะฟอร์มในสังคมที่ถูกครอบงำไว้ต้องใช้เวลาปรับตัวอยู่นานพอควร แล้วผมก็จะวาดจริงๆการวาดไม่ใช่เรื่องของฝีมือ แต่เป็นการได้รู้ถึงสัมผัสรายละเอียดและอะไรหลายอย่างรอบตัวและที่เราละเลยไปในชีวิตเราเห็นชีวิตรอบตัวเรางดงาม เราพูดคุยกับตัวตนได้อย่างสนุกยาวนาน พูดมาพูดไปก็จะอ้อมและยึดยาว ดูจะเป็นคนแก่คร่ำครึมาบ่นเพ้อเจ้ออีกสรุปลงจากที่ผมจำคอมเมนต์ของเพื่อนคนหนึ่งในบล็อค ที่เคยมาชมรูปวาดของผมยุคแรกๆนั้นว่า ใครจะเก่งใครจะไม่เก่งฉันก็ไม่สนใจ ฉันขอวาดต่อไป เพราะเจ้าสัมผัสรอบตัวนั้นเป็นการเปิดโลกแห่งความสุขนี่เอง
Pantheon สัญลักษณ์หนึ่งของความเป็นโรมถือเป็นเทคโนยี่ที่ก้าวหน้าของยุคสมัยการรู้จักการคำนวนพื้นที่วงกลม"ไพ" ใครเห็นโดมอันมหัศจรรย์นี้ที่มองเห็นท้องฟ้าเหนือยอดโดมเป็นทรงกลมก็รู้ว่ามาถึงโรมแล้ว ไม่ต้องไปถ่ายป้ายชื่ออะไรเลย Pantheon อาจเป็นตัวแทนของวิทยาศาสตร์ตัวแทนของอิลลูมิเนติหรือฝ่ายตรงข้ามกับศาสนจักร (สงสัยจะดูหนังมากไป)
....โรมยุคที่แล้วของผม ยังไม่ค่อยฮิตเรื่องการถ่ายรูปตัวเองกับสถานที่ หรือเซลฟี่ แต่ก็มีบ้าง เล็กๆน้อยๆ โดยให้คนข้างถนนหรือข้างตัวช่วยถ่ายรูปให้ ( นี่ยังไม่ต้องพูดถึงยุคที่กล้องเป็นฟิลม์ขาวดำต้องเอามาอัดบนกระดาษกัน) ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยถูกใจคนถูกถ่ายนัก จะลองค้นรูปเก่าๆมาดูกันต่อไป
ชมวัดฝรั่ง
โคลงชมวัด(ไทย)
ต้นมีนาคม 2564

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา