11 มี.ค. 2021 เวลา 04:11 • ศิลปะ & ออกแบบ
ตอนที่3.มาทานอะไรอร่อยกันหน่อยบน via del Corso บันไดเสปน และ Obilisk
I I I
สถานทูตเสปน
อันนี้ก็เป็นจัตุรัสเสากลมหน้าสถานทูต
..
...เช้าวันฟ้าสดใส ได้ที่จอดรถหน้าสถานทูตเสปนเชิงบันไดเสปนพอดี ได้ชื่อนี้เพราะอยู่ติดสถานทูตนี่เอง ตอนแรกแค่จะลองผ่านมาดูเพื่อชมรอบๆเมืองเฉยๆ แต่เอาแล้วล่ะ จอดรถได้แล้วที่จอดรถหายากยังกับทองเพราะเป็นจุดนักท่องเที่ยว ว่าแล้วเราเริ่มออกตระเวนเลย เดินแหวกฝ่านักท่องเที่ยวอันมากมาย ที่นั่งอยู่บนบันไดใหญ่โตที่เรียกกันว่าเสปนนิชเสตป หรือเพี๊ยซซ่าเอสปันย่าในภาษาอิตาลี
........ ชมดูอาคารสวยๆในพื้นที่และสังเกตดูอาคารและโอบิลิสก์อันน้อยจริงๆไม่น้อยเลยเมื่อเทียบกับเสกลคน รูปอันที่ผมเสก็ตลอกมาด้านล่างนี้นั่นละครับ อันนี้เป็นรีเฟล็กหรือภาพสะท้อนของ Popolo ซึ่งโอบิลิสก์ที่ popolo เดี๋ยวค่อยไปดูเจาะๆ วันอื่นเพราะวันนี้มากับวีลแชร์ของมารดาเก็บรายละเอียดได้ไม่มากเอาพอมาทานข้าวและดูโบสถ์ที่รายทางกัน จากนั้นแล้วเราเดินล่องตัดผ่านถนนหลักตรงหน้าบันไดฯ ไปยังจัตุรัสอีกจัตุรัสหนึ่งชื่อ เพียซซ่าโปโปโล (piazza del popolo) ระยะทางไกลพอสมควรสำหรับคนสูงอายุพอดีมีคนช่วยเข็นวีลแชร์ ประกอบด้วยร้านรวงต่างๆแบรนเนมสำหรับนักท่องเที่ยว ที่นั่นมีโบสถ์สวยสองโบสถ์เป็นคู่กัน อยู่ที่ปลายถนนแต่ตอนนี้ปิดซ่อมอยู่โบสถ์หนึ่ง และมีโบสถ์ที่ทำการบ้านมาชื่อ ซานต้ามาเรีย ป้อบโปโลในนั้นมีงานของพระเอกเราชื่อการาวัคโจ้แกมีงานดังคือรูปเซ้นต์ปีเตอร์ตอนถูกตรึงกางเขน ท้ายบทความนี้ นี่แกเขียนประมาณคศ.160x รุ่นอยุธยาเลย เชนต์ปีเตอร์ คือศิษย์คนโตของจีซัสและก็เป็นชื่อเดียวกับวาติกันศาสนจักรกลางกรุงโรมแห่งนี้ เห็นความต่อเนื่องกันไหมครับกำลังจะผูกเรื่องมาเที่ยวให้เข้ากับบรรยากาศในโรม ถ้าเป็นสมัยนี้ไสตล์การวาดของการาวัคโจ้อาจจะเรียกว่า ซุปเปอร์หรือไฮเปอร์เรียลลิตส์ติค เพราะรุ่นที่แล้วแกเก็บงานเนี๊ยบลงรายละเอียดมาก
.
รูปนี้เป็นตอนบนของเพี้ยสซ่าเอสปันย่าเจอโอบิลิสก์อันแรก
.....เพียซซ่า โปโปโลมีเสาหินสูงใหญ่ โอบิลิสค์ เสาสี่เหลี่ยมจัตุรัสสลักเป็นตัวหนังสืออียิปต์เต็มรอบทุกด้านซึ่งวันหน้าจะมาโม้เรื่องนี้ ถ้าจำไม่ผิดโอบิลิสค์จะมีอยู่ห้าต้นในโรมและ11ต้นในอิตาลีแต่ละต้นข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากอียิปต์ วิธีทำคือตัดหินจากรูปนอนแล้วจับตั้งขึ้นฟังดูง่ายดีแต่ขนาดที่ทำให้เราต้องละเลยความคิดง่ายๆลวกๆของเรานั้นทิ้งออกไป ที่popoloนี้ตกแต่งพร้อมน้ำพุรอบเสาและเป็นศูนย์กลางของจตุรัสนั้น ดูแล้วคันไม้คันมือ กับเรื่องเทวากับซาตานของนายแดนบราวน์ในโรมซ่ะแล้ว เพราะตอนไปคราวนั้นหนังเพิ่งฉาย
.
...
เพี้ยสซ่าเอสปันย่า
คนเยอะจริงๆ
..
ร้านรวงแบรนเนม
..
.......ที่ปากทางใกล้เพี๊ยซซ่าเอสปันย่า มีร้านกาแฟร้านหนึ่งเขาแสดงตัวว่าเก่าแก่ถึงสองร้อยห้าสิบปีติดป้ายโม้ไว้ โอ้โฮ้สมัยรัชกาลที่สองหรือที่สามเชียวน่ะ นักท่องเที่ยวเต็มเพราะมีชื่ออยู่ในโพยย่อยในการท่องเที่ยวของฝรั่งสมัยก่อนนั้นยังไม่มีเน็ตวิธีเทียวจะต้องดูคู่มือที่นักท่องเที่ยว(Trip avisor )คนก่อนๆเราเขาเขียนไว้จะระบุที่พักที่เที่ยวที่กินไว้แต่ล่ะเมืองแต่ล่ะประเทศเขาก็มีโพยในกลุ่มของพวกเขาจึงไม่แปลกอะไรในยุคก่อนที่เราอาจจะพบฝรั่งในตำบลเล็กๆห่างไกลความเจริญที่พวกเรายังไม่เคยไปเที่ยวกันเลย กลับมาที่ร้านกาแฟร้านตกแต่งสวยงามแต่ตอนนี้กลับมาดูดูตกยุคไปแล้ว เข้าไปในพื้นที่แรกเป็นบาร์กาแฟและขนม สองข้าง ผู้คนยืนทานกาแฟ และคุยกันจ๊อกแจ๊กดูราคาก็ประมาณหนึ่งถึงสองยูโร ก็เป็นราคากาแฟปกติทั่วไป บ้านเราก็ราคาประมาณนี้กัน แต่ดูคนเสริฟใส่สูทสีดำผูกหูกระต่ายหล่อเชียวแต่เอไม่ใช่สิเขาใส่ทักซิโด้เลยละ
.....เดินต่อเข้าไปในล้อคที่สองสามซึ่งอยู่ลึกเข้าไปเป็นที่นั่งมีนักท่องเที่ยวนั่งอยู่สักสามสี่โต๊ะ พนักงานเสริฟใส่ทักซิโด้เสริฟ ตานี้เห็นหางคนเสริฟชัดเจนแล้ว เห็นเขาว่าพื้นที่ด้านหลังซึ่งเป็นที่นั่ง กาแฟราคาแก้วละประมาณ5ยูโรอบย่าหลงไปกินเชียว ได้ข่าวว่าพี่คมเย็น(เพื่อนรุ่นพี่)จะแวะมาก็น่าจะลองทานกาแฟที่นี่ทานด้านนอกแกล้มขนมก็พอ โดยเฉพาะขนมในร้านกาแฟฝรั่ง พวกนี้อร่อยกันแทบทุกที่เลย
.
..
..
..
......หลังจากทานขนมกาแฟรองท้องแล้วเดินไปที่ เพียซซ่า โปโปโล เสร็จแล้วเราเดินย้อนกลับมาทางเดิมเพื่อไปทานกลางวันกันต่อ มาเมืองนี้ต้องทานของโลคัล เอาของพื้นฐานของเขา ก็ต้องพิชซ่า และสปาเก็ตตี้ ตรงนี้ถือเป็นพิซซ่าที่อร่อยติดอันดับแห่งหนึ่งในโรม เป็นซอยใหญ่แยกจาก via del corso ชื่อร้าน......ดูตามรูปแล้วกันครับเพราะไม่ได้ค่าโฆษณา : ) ไม่ไกลจากจากเพี๊ยซซ่าเอสปันย่า ที่เขียนเข้ารายละเอียดลึกเช่นนี้ เพราะเจตนาเป็นโพยให้ "พี่คมเย็น(ชื่อเพื่อนที่แกบอกว่าอ่านแล้วจะตามไป)ไปทาน" หรือถามเอาแถวนั้นเอาก็ได้โดยเฉพาะตำรวจกับ แขกขายของแบรนเนมปลอมหน้าร้านแบรนเนมจริง ดูดูเป็นสองมาตราฐาน เหมือนประเทศสาระขันธ์จัง แล้วตำรวจฝรั่งก็ไม่ทำอะไรแขกเลย ว่าแล้วเคยได้ยินว่าเลี่ยนกับไทยคล้ายกันๆตรงนี้นี่เอง
.....ร้านอาหารที่นี่ไม่รับจองอาจจะเพราะอยู่ในพื้นที่นักท่องเที่ยวมีแขกตลอดวัน กลางวันเปิดร้านประมาณเที่ยงครึ่ง รีบไปแต่ตอนนั้นเลย พอเวลากินของพวกเขา ประมาณบ่ายโมงครึ่งถึงสองโมงครึ่ง คนจะเต็มร้านเลย สปาเก็ตตี้หอยลายหรือบองโกเร่เป็นของระดับดีมีคุณภาพของที่นี่ พิซช่าอร่อยต้องพิซซ่าบางๆอย่าไปสั่งอย่างหนานุ่มแบบอเมริกันน่ะ เสียฟอร์มหมด วันนั้นสั่งไปสองวงคือพิซซ่าแดงและพิซซ่าขาว แดงคือใส่มะเขือเทศขาวก็เป็นพวกเนยครีมอะไรพวกนั้น และ ปลาหมึกทอดที่ปกติเป็นของแกล้ม ก่อนอาหารจานนี้ละครับที่อร่อยเราทานแบบไทยๆคือสั่ง ทุกอย่างมาวางไว้ตรงกลางจะได้ช่วยกันชิมช่วยกันลอง ข้อเด่นของอาหารที่นี่(อิตาลี)คือวัสดุดีปลาหมึกนี่สดและโดยเฉพาะผักผลไม้ ง่ายๆแค่นี้ละครับและไวน์ที่นี่เสริฟเป็น แก้วแค่นี้ก็จุกแล้ว และแสนอร่อยแล้วอย่าลืมถ้ายังไม่ทานกาแฟที่ร้านโน้น ก็ตบกาแฟที่ร้านนี้เพิ่มอีกสักจอก กาแฟที่อิตาลี่นี่อร่อยใกล้เคียงในค่าเฉลี่ยกันทุกร้านทั้งประเทศ ( ในช่วงเวลานั้น กาแฟบ้านเรา เพิ่งเริ่มจะมี กาแฟสด เป็นบางที่และหาดีดีได้น้อย ต่างกับยุคสมัยนี้ หากาแฟสดอร่อยง่ายมาก) ที่นี่คนใหญ่คนโตของสารขันธ์ ถือเป็นร้านรับแขกแก้วมาเยือนมาทานกัน หลายคนแล้วครับ
1
...
..
..
..
..
.....
.
.....เอเขียนโคลงกลอนชมวัดอยู่ดีๆเปลี่ยนไลน์มาเขียนชวนชิมเอาเข้าแล้ว อาจจะรุ่งน่ะครับเพราะรอบพุงรับประกันคุณภาพ อิ่มเสร็จตอนหน้าจะพาไปวัดแล้วครับ
...
Piazza del Popolo เห็นโอบิลิกส์ที่เป็นมาร์กเกอร์ของจตุรัสไหมครับ
โบสถ์คู่ปลายเพียส์ซ่าป้อปโปโล
การตรึงกางเขนของนักบุญปีเตอร์ (1601) โดย Caravaggio สี่ร้อยปีก่อนนี่ปลายอยุธยาเชียว สีน้ำมันบนผ้าใบ. Cerasi Chapel, Santa Maria del Popolo, โรม ที่มา Wikimedia Commons
ทางแก้ว
โคลงชมวัด
ชมวัดฝรั่ง
๕มิถุนายน หลายปีก่อน~2021

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา