21 มี.ค. 2021 เวลา 14:00 • ศิลปะ & ออกแบบ
ตอนที่4.โบสถ์สวยบนถนนสายท่องเที่ยวกลางโรม Via del Corso
1
I V. La Basilica dei SS.Ambrogio e Carlo.
....มุมมองมาจากระดับตอนบนบันไดเสปน เพียซซ่าเอสปันย่าเห็นยอดโดมของ La Basilica dei SS.Ambrogio e Carlo และลองมองต่ำลงมาหน่อยเห็นยอดโดมอีกอันที่อยู่ไกลสุดไหมครับ โดมนั้นคือมหาวิหารแห่งวาติกัน ซานเปรโตร หรือที่เราคุ้นเคยว่าเซ้นท์ปีเตอร์นั่นเอง คำว่ามหาวิหาร เราคงค่อยๆ ก้าวไปดูด้วยกันช้าๆ มันใหญ่โตจริงๆ ลำพังลาน หน้ามหาวิหารเซนต์ปีเตอร์นี้ ก็เรียกว่า เป็นลานที่ใหญ่ที่สุดในโลก รองรับพื้นที่ที่ผู้คนมายืนฟังข่าวสารจากสันตะปาปาหรือโป๊ปผู้นำของคริสต์ศาสนานิกายโรมันคาทอลิกซึ่งมีเป็นประจำอย่างเมื่อวานนี้ยังมีความเห็นของโป้ป เรื่องของ การปฎิวัติในเมียนม่าร์ และคนที่มาโรม หรือมาอิตาลี โดยเฉพาะคริสเตียนคาทอลิก ไปไหนก็ไปได้ แต่ถ้าไม่มาสัมผัสวาติกัน หรือซานเปรโตรแล้วก็เสียเที่ยวจริงๆ
.
..
....via del Corso เป็นถนนเชื่อมระหว่างบันไดเสปน (เพียซซ่าเอสปันย่า) กับ เพียซซ่า โป้บโปโล(piazza del Popolo) เหมือนถนนคนเดินทั่วไปในย่านนักท่องเที่ยวกลางเมือง มีร้านรวงแบรนเนมต่างๆ มีตึกอาคารโบราณสวยงาม มีโบสถ์อยู่หลังหนึ่งใหญ่โตและสวยงามทีเดียว ดูโพยในบัญชีการท่องเที่ยวก็ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม ชื่อโบสถ์เป็นภาษาอังกฤษคือ St.Ambrose and Charles และชื่อภาษาอิตาเลี่ยนคือ La Basilica dei SS.Ambrogio e Carlo
.
..
...
....
.....
......
.....หลังจากดูอย่างชื่นใจแล้วผมก็ตั้งหน้าตั้งตาถ่ายรูปถ่ายๆๆ มีรายละเอียดปลีกย่อยให้ดูมากจริงๆงานที่สร้างสรรด้วยศรัทธาของผู้คนนี้ มันเต็มอิ่มจริงๆ แล้วก็เดินออกมาจากโบสถ์โดยไม่สนใจที่จะรู้กระทั่งชื่อของโบสถ์เลยต้องมาตั้งหน้าตั้งตาค้นเอาทีหลังตอนที่จะเขัยนเรื่องนี้ มีโบสถ์หลายที่โดยเฉพาะการเที่ยวในรุ่นที่กล้องถ่ายรูปยังเป็นกล้องบล๊อคฟิลม์ขาวดำสถานที่หลายแห่งที่ไปอย่างยากลำบากอย่างแม่พระฟาติมะฯ โปตุเกส แม่พระดำที่มอนซารัสในบาเซโลน่าถ่ายรูปกลับมาไม่เกินสิบรูปมาถึงยุคนี้เสียดายโอกาสจริงๆ จะไปอีกครั้งก็ไม่มีปัญญาแล้ว
......บางทีการดูการมองโดยไม่รู้ประวัติไม่รู้ที่มาอาจได้อารมณ์ไปอีกแบบหนึ่ง เป็นอารมณ์ที่สัมผัสชิ้นงานโดยตรง มาดูความเชื่อความมุ่งมั่น ซึ่งกรณีดังกล่าวนี้นักประวัติศาสตร์หรือนักโบราณคดีและแม้แต่สถาปนิกก็คงมีที่แย้ง
....แต่ถ้าใครอยากรู้ รายละเอียดปลีกย่อย ก็ให้เปิด ชื่อของโบสถ์ชื่อโบสถ์เป็นชื่อของนักบุญ ambrose ในมิลาน ในประมาณคริสตศตวรรษ ที่ 4 ส่วนศรัทธา ที่นำมาสร้างโบสถ์ในโรม ก็คงแตกความย่อยความเชื่อเอาเอง ระบบนักบุญในศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกคือผู้ทำคุณงามความดีและประโยชน์ต่อศาสนจักร มีมากมาย อย่างรูปปั้นที่จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ มีถึงร้อยห้าสิบกว่าองค์ อาจจะต้องเข้ารายละเอียดลึก กับผู้ที่นับถือคาทอลิก
...
สกุลช่างฟลอเรนซ์อารมณ์เดียวกับสะพานร้องไห้ตรงผ่านฟ้าใครจำได้ไหมครับข้างวัดสระเกศรู้สึกไหมครับ
.....เวลาไปเที่ยววัดในเมืองไทยส่วนใหญ่จะต้องทำการบ้านก่อนคือนั่งอ่านประวัติหรือรายละเอียดเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยบ้างถ้ามี เวลาไปดูของจริงก็จะใช้ศัพท์ว่าแน่นหรือรอบรู้ ในความแน่นนั้นเหมือนน้ำชาล้นแก้ว บางทีความรับรู้เดิมหรือความแน่นนั้นอาจจะไปปิดบังมุมมองที่เรากำลังจะเห็นตรงหน้าได้ เพราะเราล้วนแต่นำประวัติศาสตร์นำอดีตมาข่มหรือมาสัมผัสมาร่วมการรับรู้มุมมองนั้น แล้วเราเห็นอะไรตรงหน้าเล่า เราเห็นสิ่งที่ศิลปินส่งสื่อมาให้เราอย่างไร เราเห็นความดีความงามความจริงตรงหน้าหรือไม่ หรือเราเพียงแค่เห็นความทรงจำซ้ำซากของประวัติสถานที่ประวัติผู้คนและประวัติเหตุการณ์ ถ้าเป็นแค่ความทรงจำที่คุณจดจำมา ความจริงนั้นก็ตกตายลงไปแล้วเพราะคุณจะมองไม่เห็นความจริงตรงหน้า
..
..
น่าจะเป็นซาโลเม่กับหัวของเซ้นท์จอนส์
......ไม่ว่าที่ไหนใดใดในโลกงานที่เกิดจากศรัทธาอันมั่นคงของผู้คนย่อมทรงคุณค่าเสมอ ไม่ว่าฝีมือหรือผลงานจะเป็นอย่างไร เช่นเดียวกับการกระทำของผู้คนเมื่อใดที่กระทำ โดยนึกถึงผู้อื่นและส่วนรวมการกระทำนั้นย่อมเป็นสิ่งดีงามเสมอ สื่อที่พวกเขาทำกันเมื่อหลายร้อยหลายพันปีก่อนมากระทบเรา สามารถกระทบถึงจิตวิญญาณของเราได้หรือไม่ สื่อนั้นทำให้เราเห็นศรัทธาความตั้งใจหรืออะไรใดใดของผู้คนผู้สร้างในยุคที่แล้วและสื่อดังกล่าวนั้นสามารถข้ามพ้นเวลาลัดต่อไปยังผู้คนในอนาคตได้หรือไม่ จนกว่าซากอิฐศิลาเหล่านี้จะผุพังจนกว่าพวกเราจะสูญลับหาย และแม้ผุพังแล้วอนาคตยังทวงซากต่างเหล่านั้นมาสืบค้นสิ่งที่หาไม่ได้ต่อไปอีก
ทางแก้ว
โคลงชมวัด
โรม
๓มิถุนายน๒๕๕๕~๒๕๖๔
หมายเหตุ
....พยายามจะเขียนให้ได้ทุกประมาณสิบวันคือ_1_11_21 ดูว่าจะเขียนไปได้สักกี่ตอน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา